บทที่ 6
ข้อแลกเปลี่ยน
ซินอี๋มองหน้าภูผาด้วยความสงสัย ต่างจากภูผาที่มองใบหน้าหมวยอย่างนึกสนุก เพราะเขาไม่เชื่อว่าในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาถึงขนาดนี้แล้ว บนโลกนี้จะมีเด็กใสซื่อแบบเธออยู่จริงๆ และถ้าหากเธอเป็นแบบนั้น มันก็คงจะสนุกไม่น้อยหากเขาได้เป็นคนสอนอะไรใหม่ๆ ให้กับเธอได้เรียนรู้
“คุณจะสอนอะไรหนูเหรอคะ”
“ต้องเริ่มสอนจากบทเรียนไหนก่อนดีนะ” ภูผายกมือขึ้นลูบปลายคางตัวเองอย่างครุ่นคิด
“…”
“ฉันคงต้องทดสอบระดับความรู้ของเธอก่อน ถึงจะวางแผนการเรียน การสอนให้เธอได้”
“หนูไม่เข้าใจ”
“เธอไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรอก”
“ก็ถ้าหนูไม่เข้าใจหัวข้อที่จะเรียน หนูจะเข้าใจเนื้อหาที่คุณจะสอนเหรอคะ”
“หึ…สิ่งที่เธอต้องเตรียม คือเตรียมใจไว้อย่างเดียวก็พอ”
“มันยากมากเหรอคะถึงต้องเตรียมใจเอาไว้”
“ไม่ยากหรอก เอาเป็นว่าถ้าเธอสอบผ่านบทเรียนของฉัน ฉันจะจัดการเรื่องเด็กที่แกล้งเธอให้ แต่บทเรียนที่ฉันจะสอนเธอจะต้องเก็บเอาไว้เป็นความลับ มีเพียงแค่เธอกับฉันเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้”
“แต่ว่า…”
“รวมถึงเรื่องที่เธอเห็นวันนี้ด้วย ถ้าเรื่องใดเรื่องหนึ่งถูกแพร่งพรายออกไป ฉันจะไล่เธอออกจากโรงเรียน”
“คุณกำลังขู่หนูอยู่รึเปล่า” ซินอี๋ถาม เพราะเธอรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีทางเลือกอื่นเลย
“เธอคิดว่าไงล่ะ ทำไม่ได้ก็แค่ย้ายโรงเรียนใหม่”
“…”
“แต่ไม่ได้ย้ายคนเดียวนะ เพื่อนเธอที่สมรู้ร่วมคิดก็จะต้องโดนไล่ออกตามไปด้วย”
“ถะ…ถ้าหนูเก็บเรื่องทั้งหมดเป็นความลับหนูกับเพื่อนจะไม่โดนไล่ออกใช่ไหมคะ”
“อืม”
“แล้วถ้าหนูสอบไม่ผ่านล่ะคะ” ซินอี๋ถามด้วยน้ำเสียงประหม่า จู่ๆ เธอก็รู้สึกไม่มั่นใจในตนเองทั้งๆ ที่เป็นคนเรียนดีมาตลอด
“ฉันก็จะเป็นคนติวให้เธอตัวต่อตัวจนกว่าจะสอบผ่านไง”
“งั้นหนูจะพยายามตั้งใจเรียนที่คุณจะสอนนะคะ”
“ดี วันนี้เธอกลับไปได้แล้ว พรุ่งนี้ฉันค่อยนัดสถานที่เรียนอีกที”
“หลังเลิกเรียนเหรอคะ”
“อืม”
“งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ แล้วก็…ขอโทษที่มารบกวนค่ะ”
“เดี๋ยวก่อน” ภูผาเรียกขณะที่ร่างบางกำลังจะเปิดประตูเดินกลับออกไป
“มีอะไรจะพูดกับหนูอีกเหรอคะ” ซินอี๋หันหน้ากลับมาถามเจ้าของเสียงเรียกที่นั่งอยู่กลางห้องทำงานอีกครั้ง
“เธอชื่ออะไร”
“ซี ซินอี๋ค่ะ”
ภูผาพยักหน้ารับคำเป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะยกมือขึ้นโบกไปมาเป็นสัญลักษณ์ให้เธอออกไปอีกครั้ง ภูผาหยิบโทรศัพท์มือถือราคาแพงขึ้นมาต่อสายหาใครบางคนทันทีที่บานประตูปิดลง
“หาประวัติซี ซินอี๋มาหน่อย”
ภูผาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะกระจก เมื่อแพรวาผลีผลามเปิดประตูเข้ามาอย่างถือวิสาสะด้วยท่าทางร้อนรน
“คุณคุยอะไรกับซินอี๋เหรอคะ แล้วที่ซินอี๋เห็นเรากำลัง…เอ่อ จะทำยังไงดี คะ” แพรวารัวคำถามออกมา เพราะยังรู้สึกตกใจกับสถานการณ์เมื่อครู่ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป หน้าที่การงานของเธอคงจบเห่
“ฉันจัดการเอง เธอทำหน้าที่ของเธอไปก็พอ แล้ววันนี้เธอก็ไปได้ล่ะ ฉันหมดอารมณ์แล้ว”
“ค่ะ” แพรวารับคำด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม เธอรู้ว่าภูผาไม่ชอบคนขัดใจ เขาชอบคนหัวอ่อน และเชื่อฟังเธอจึงไม่อยากมีปัญหากับเขา เพราะไม่อยากถูกเขาตัดขาดความสัมพันธ์
ภูผาลุกเดินไปนั่งประจำที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์ดูข้อมูลประวัติของซินอี๋ที่ส่งมาจากเลขา ที่เขาโทรไปสั่งไว้ก่อนหน้านี้ ภูผาไล่อ่านประวัติของเด็กสาวรวมถึงครอบครัวด้วยความสนอกสนใจ
“ลูกสาวคนเดียวของเอกอัครราชทูตจีนประจำฮอลแลนด์ซี จินผิง แม่เป็นคนไทยตอนนี้บินไปอยู่กับสามีที่ฮอลแลนด์ ส่วนลูกสาวซี ซินอี๋ เรียนโรงเรียนประจำอยู่ที่ไทย เพราะไม่ชอบอากาศหนาวเลยไม่อยากย้ายตามไปอยู่กับพ่อแม่……” ภูผาอ่านข้อมูลที่ถูกส่งมาคร่าวๆ “เรียนดี ความประพฤติเรียบร้อย ลูกคุณหนูท่านทูตนี้เอง ถึงได้ถูกอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี แต่เหมือนจะดีจนขาดสีสันอะไรไป เอาไว้ผมจะช่วยสอนลูกสาวท่านให้เองนะครับ” ภูผาพูดกับรูปภาพของซี จินผิงด้วยสายตานึกสนุก ไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงอะไรกับตำแหน่งของเขาเลย
ทางด้านซินอี๋
ซินอี๋ลงมาถึงข้างล่างก็รีบกดเข้าแอปพลิเคชันส่งข้อความหาเพื่อนๆ เธอทันที
~บทสนทนากลุ่ม~
ซินอี๋ : เราเจอผอ. แล้วนะ
ยูกิโกะ : เย้!!! เดี๋ยวฉันรีบไปเดี๋ยวนี้เลย
ซินอี๋ : พวกเธอไม่ต้องมาหรอก เราคุยกับเขาไปแล้ว เจอกันที่โถงทางเดินเลยนะ
ซินอี๋ส่งข้อความไปตัดบท เพราะกลัวยูกิโกะ กับเพลงขวัญมาที่นี่แล้วจะวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม
ตึกๆๆๆ~
เสียงฝีเท้าของยูกิโกะกับเพลงขวัญที่รีบวิ่งมาตรงที่ซินอี๋ยืนรออยู่ด้วยท่าทางตื่นเต้น ก่อนรีบยิงคำถามใส่คนตัวเล็กทันที จนซินอี๋เลือกไม่ถูกว่าจะตอบคำถามไหนก่อนดี
“เป็นไงบ้าง แกเจอเขาที่ไหน” ยูกิโกะเอ่ยถามเป็นคนแรก ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“แล้วแกคุยกับเขาว่าไง แล้วเขาตอบว่าไง เร็วๆ สิยัยซินฉันอยากรู้”
“พวกเธอใจเย็นๆ ก่อนได้ไหม เราไม่รู้จะตอบคำถามไหนแล้วเนี่ย” ซินอี๋บอก ก่อนจะเรียบเรียงคำพูดที่เตรียมมาระหว่างเดินมาที่นี่ให้เพื่อนรักทั้งสองคนฟัง “เราไปเจอคุณเขา…เอ่อ ที่ห้องทำงานน่ะ แล้วก็เลยเล่าเรื่องมินนี่ให้คุณเขาฟัง เอ่อ…”
“แล้วไงต่อ แกจะหยุดทำไมเนี่ย”
“คุณเขาก็รับปากจะช่วยนะ พวกเธอสบายใจเถอะ”
“กรี๊ดดดดด จริงเหรอ” เพลงขวัญกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจ
“ที่นี้ยัยมินนี่ก็ไม่กล้ามาแกล้งพวกเราแล้ว” ยูกิโกะบอก แววตาเต็มไปด้วยความสะใจ ที่สามารถเอาชนะมินนี่ได้
“ใช่เลย เพราะพวกเรามีแบ็กเป็นถึงผู้บริหารสูงสุดเชียวนะ ใหญ่กว่าพ่อยัยมินนี่ตั้งเยอะ” เพลงขวัญพูดด้วยน้ำเสียง และรอยยิ้มแห่งชัยชนะ ต่างจากซินอี๋ที่ดวงตาเหม่อลอย เพราะกำลังคิดถึงสิ่งที่ภูผากำลังจะสอน เธอกลัวว่าตัวเองจะสอบไม่ผ่าน แล้วทำรอยยิ้มของเพื่อนๆ หายไป
“ซิน ซินอี๋!! ”
“ห้ะ! มะ…มีอะไรเหรอ” ซินอี๋หลุดออกจากภวังค์ เมื่อได้ยินเสียงเรียกของยูกิโกะ
“ตาลอยเชียว ไม่สบายจริงๆ เหรอ” ยูกิโกะถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก งั้นเรากลับเข้าไปร่วมกิจกรรมกันต่อเถอะ”
“แกจะบ้าเหรอ ฉันบอกว่าแกปวดท้องนะ ไม่ได้ปวดอึ ไปนอนเล่นห้องพยาบาลสวยๆ ดีกว่า” เพลงขวัญบอก
“นั่นสิจะไปตะโกนให้คอแห้งทำไม ไปกันเถอะคนป่วยของฉัน ฮ่าๆๆ” ยูกิโกะหัวเราะร่า พลางคล้องแขนซินอี๋เดินตรงไปที่ห้องพยาบาลด้วยท่าทามีความสุข เช่นเดียวกับเพลงขวัญที่เดินคล้องแขนอีกข้างหนึ่งของซินอี๋ที่ว่างอยู่