บทที่ 7
เสียศูนย์
เช้าวันต่อมา
ซินอี๋ตื่นเช้ามาเรียนตามปกติเหมือนอย่างเช่นทุกวัน โดยวันนี้ยังมีการจัดกิจกรรมกีฬาสีอยู่ โดยเธอกับเพื่อนอีกสองคนได้ลงแข่งขันวอลเลย์บอลด้วย
“ซินอี๋” ซินอี๋หันไปตามเสียงเรียกขณะที่กำลังผูกเชือกรองเท้าเตรียมวอร์มร่างกายก่อนลงสนามแข่ง
“ครูแพร” ซินอี๋แสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อย เมื่อเจ้าของเสียงเรียกเป็นแพรวา
“ครูมีธุระจะคุยกับเราหน่อย” พูดจบแพรวาก็หมุนตัวเดินนำออกไปตรงมุมลับสายตาที่ไม่มีคนเดินผ่าน
“ครูมีอะไรกับหนูรึเปล่าคะ”
“เมื่อวานเธอคุยอะไรกับคุณภูผา”
“เอ่อ…”
‘รวมถึงเรื่องที่เธอเห็นวันนั้นด้วย ถ้าเรื่องใดเรื่องหนึ่งถูกแพร่งพรายออกไป ฉันจะไล่เธอออกจากโรงเรียน’
ซินอี๋นิ่งเงียบไป เมื่อนึกถึงคำพูดของภูผาที่บอกเอาไว้เมื่อวานนี้ ทำให้เธอเลือกที่จะไม่พูดความจริงออกไปทั้งหมด
“เอ่อก็…คุณภูผาบอกว่าให้หนูเก็บเรื่องที่เอ่อ…เห็นเป็นความลับเฉยๆ ค่ะ ครูแพรไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะไม่เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด” ซินอี๋ตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ทว่าตอนท้ายกลับพูดด้วยความมั่นใจ เพราะเธอเองก็ตั้งใจจะไม่เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังอยู่แล้ว เธอกลับไปคิดมาเมื่อวานว่ายังไงสิ่งที่เธอเห็นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของแพรวา
“แล้วเธอขึ้นไปบนนั้นทำไม”
“จริงๆ แล้วหนู กับเพื่อนแค่อยากจะพบผอ. เพื่อแจ้งเรื่องการกระทำของมินนี่เฉยๆ ค่ะ เลยหาทางไปพบผอ.” ซินอี๋ตอบไปตามความเป็นจริง
“แล้วเพลงขวัญ กับยูกิโกะ…”
“ทั้งสองคนไม่มีใครรู้เรื่องนี้ค่ะ ครูแพรไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
“งั้นครูก็ขอบใจนะ ที่เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ”
“ค่ะ งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ ใกล้ถึงเวลาลงแข่งแล้ว”
“อืม”
ซินอี๋ส่งยิ้มให้แพรวาหนึ่งที ก่อนจะวิ่งเหยาะๆ กลับเข้าไปที่สนามแข่งขันวอลเลย์บอลที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น เพราะมัวแต่ไปคุยกับแพรวามา ทำให้เธอไม่มีเวลาสำรวจมองสิ่งต่างๆ รอบตัว เพราะต้องจัดเตรียมเสื้อผ้าและวอร์มร่างกายให้เรียบร้อย
ภูผามองร่างเล็กที่กำลังยืดเส้นยืดสายด้วยแววตาเรียบเฉย ทว่าบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงมันกลับตื่นขึ้นมากะทันหัน จนเขาต้องนั่งเอาขาไขว้กันไว้ เพื่อไม่ให้มันโดดเด่นจนเกินไป
อึก!
ภูผาลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เมื่อซินอี๋ยกมือขึ้นรวบผมเป็นดังโงะ โชว์ลำคอระหงขาวเนียนน่าสัมผัส ขนาดตัวเขาเองยังแทบจะเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเขาเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์พวกนี้ได้ค่อนข้างเก่ง ภูผาส่ายหน้าน้อยๆ เพื่อขับไล่ความคิดแปลกๆ ออกไป เป็นจังหวะเดียวกัน กับที่หนึ่งในผู้บริหารคนอื่นเดินเข้ามาทักทายเขาพอดี
“สวัสดีครับคุณภูผา”
“อ่า สวัสดีครับ” ภูผากล่าวรับคำทักทายอย่างเป็นกันเอง
“ทำไมวันนี้ถึงมาดูการแข่งขันกีฬาได้ล่ะครับปกติผมไม่เห็นคุณชอบมานั่งดูอะไรแบบนี้”
“เบื่อๆ ไม่มีอะไรทำมั้งครับ แล้วคุณเดชาล่ะครับ” ภูผาตอบกลับไปตรงๆ
“ผมมาดูลูกสาวแข่งวอลเลย์น่ะครับ คนนั้นไงครับลูกสาวผม” เดชาชี้ไปที่เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่กำลังยืนเตรียมตัวลงสนามแข่งขัน “ชื่อมินนี่”
“มินนี่?” คนนี้ ภูผาทวนคำสั้นๆ ก่อนจะหันกลับไปมองเด็กผู้หญิงที่ชื่อว่ามินนี่ที่สนามอีกครั้ง
“ใช่ครับ คุณภูผามีอะไรรึเปล่าครับ น้ำเสียงดูแปลกๆ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ” ภูผาตอบปัด ก่อนจะหันกลับไปสนใจซินอี๋อีกครั้ง เมื่อมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปหาเธอ
“ซิน”
“อ้าวพี่เต้มีอะไรรึเปล่าคะ” ซินอี๋หันกลับไปตามเสียงเรียก ก่อนจะเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสนิทสนม เพราะเต้เป็นรุ่นพี่ม.6 ที่ชอบช่วยเหลือเธอเป็นประจำ อีกทั้งเธอกับเขายังอยู่ชมรมเดียวกันอีกด้วย
“พี่เอาน้ำมาให้น่ะ” เต้บอกเจตนารมณ์ของตัวเอง แล้วยื่นขวดน้ำแร่ไปตรงหน้าหญิงสาว
“ขอบคุณนะคะ” ซินอี๋ยิ้มรับพร้อมคำขอบคุณ แต่จังหวะที่กำลังจะยื่นมือออกไปรับเต้ก็ชักมือกลับไปเสียก่อน ทำให้เธอคว้ามาได้แต่อากาศเท่านั้น
“เดี๋ยวพี่เปิดให้” เต้พูดพลางหัวเราะให้กับท่าทางงุนงงของเด็กสาว ที่เขามองว่ามันน่าเอ็นดูซะมากกว่า
“ชอบแกล้งหนูอยู่เรื่อยเลยนะคะ” ซินอี๋แสร้งทำหน้าเง้างอน ทว่านั่นกลับยิ่งทำให้เต้รู้สึกเอ็นดูเธอมากกว่าเดิม
“พี่แกล้งอะไร พี่แค่จะเปิดให้เอง” เต้ยื่นขวดน้ำไปให้หญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็ได้รับมันไปดื่มจริงๆ “สู้ๆ นะคะ พี่เป็นกำลังใจให้”
“ขอบคุณค่ะ”
“พี่เต้ขาาาา~ หนูกับยัยเพลงก็ต้องการกำลังใจน้าาา~” ยูกิโกะโผล่หน้าออกมาพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อจากทางด้านหลังของเต้
“โอ๊ย จู่ๆ ก็คอแห้ง อยากดื่มน้ำบ้างจังเลยน้าาา~” เพลงขวัญก็แสร้งแสดงอาการขาดน้ำขึ้นมาตัดพ้อเต้ไม่ต่างกัน
“เราสองคนนี้นะ น้ำในถังน้ำแข็งตรงนั้นก็มี”
“อ้าว ทำไมทียัยซินพี่เต้ยังหยิบมาให้ได้เลย น้อยใจแล้วนะ” เพลงขวัญตีสีหน้าบูดบึ้งประชดประชันอย่างไม่จริงจังนัก
“แบบนี้ก็เรียกสองมาตรฐานสิคะ” ยูกิโกะบอก แล้วเดินไปแย่งขวดน้ำในมือซินอี๋มากระดกดื่มด้วยความสะใจ “น้ำขวดนี้นี่มันเย็นชื่นใจดีจริงๆ”
“เฮ้อ~ เราสองคนมันสาวถึก ขาดน้ำนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก” เต้บอกด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ
“แรงมากจ้าพ่อออออ” เพลงขวัญลากเสียงยาวด้วยความน้อยใจ
“พี่ไปละนะ สู้ๆ เราสองคนก็…” เต้บอกกับซินอี๋ แล้วหันไปพูดกับยูกิโกะ และเพลงขวัญในประโยคหลัง
“สู้ๆ ใช่ไหมคะ” ยูกิโกะตอบแทนด้วยสีหน้าทะเล้น
“ดูแลซินอี๋ด้วยนะ พี่ไปจริงๆ ละ” พูดจบเต้ก็หมุนตัวเดินกลับออกไป ปล่อยให้ยูกิโกะกับเพลงขวัญมองตามแผ่นหลังแกร่งด้วยสายตาคับแค้นใจ
“คอยดูนะ! หนูจะหาผู้ใหม่ให้ยัยซิน!! ” เพลงขวัญตะโกนข่มขู่เต้ตามหลัง ก่อนจะพากันไปเตรียมตัวแข่งขันอีกครั้ง
ภูผามองดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยแววตาไร้ความรู้สึก ทว่าในใจกลับรู้สึกหงุดหงิดแบบบอกไม่ถูก ก่อนที่จะคิดอะไรสนุกๆ ได้ เพื่อคลายความหงุดหงิดในใจเขาตอนนี้ คิดได้ดังนั้นเขาก็ลุกเดินลงจากอัฒจันทร์ตรงไปที่สนามทันที