บทนำ
" ยัยน้องของพี่ "
พี่เขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมา และอัพเดตทุก3เดือน เพื่อให้ทันเหตุการณ์มากที่สุด พี่หวังว่ายัยน้องจะไม่มีวันได้รับจดหมายของพี่ เพราะพี่อยากเจอยัยน้องมากกว่า
ตอนนี้ยัยน้องคงกำลังสนุกกับงานที่ทำ เซลล์คนเก่งของพี่ คงมียอดขายทะลุเป้าทุกเดือนเช่นเดิมใช่ไหม พี่ดีใจที่น้องของพี่เติบโตมาเป็นคนดี คนเก่ง และไม่เป็นภาระของใคร แถมยังเป็นสาวสวยที่จิตใจดี โอบอ้อมอารีเสมอมา
ที่นี่อากาศดีมาก ขนมก็อร่อยเหลือเกิน พี่ทิพย์ชิมขนมแทนยัยน้องจนตัวกลมไปหมดแล้ว แต่เค้าก็ยังน่ารักเหลือเกินสำหรับพี่ ยัยน้องคงจะคลื่นไส้เพราะคำหวานของพี่ใช่ไหม แต่พี่คิดแบบนั้นจริงๆ พี่ทิพย์น่ารักตั้งแต่วันแรกที่พี่เจอ มาจนถึงวันนี้ก็ยังน่ารักเสมอ
ยัยน้องของพี่คงบ่นที่ทำไมพี่ถึงไม่เขียนอีเมลแทนที่จะเป็นจดหมาย เพราะพี่อยากให้ยัยน้องเก็บจดหมายและลายมือของพี่เอาไว้ไงละ
ตอนนี้นางฟ้าตัวน้อยของพี่2ขวบแล้ว น่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน ชุดกระโปรงและกิ้บติดผมที่แสนน่ารักที่ยัยน้องส่งมาให้ พี่ทิพย์จัดการสวมให้นางฟ้าของเราแล้วถ่ายรูปส่งไปให้ยัยน้องดูแล้วใช่ไหม
พี่ขอบใจมาก ที่ยัยน้องรักและเอ็นดูหลานมากขนาดนี้ ปลายปีนี้ ถ้าไม่ติดขัดอะไร พี่จะพานางฟ้าของพี่ ไปให้ยัยน้องฟัดให้หนำใจเลยดีไหม
อย่างที่พี่บอกยัยน้องทุกครั้ง ไม่ว่าพี่จะเกิดอะไรขึ้นกับพี่ ขอให้ยัยน้องระลึกไว้เสมอว่า ยัยน้องเป็นอาของนางฟ้าตัวน้อย พี่ฝากดวงใจของพี่ด้วย ทางพี่ชายพี่ทิพย์ยังไม่ทราบเรื่องว่าพี่ทิพย์มีลูกกับพี่แล้ว ทางนั้นคงไม่พอใจมาก ที่พี่ทำน้องสาวเค้าท้อง แล้วมีลูกกันอยู่ที่นี่ แต่พี่ขอให้ยัยน้องวางใจ พี่รักพี่ทิพย์ รักนางฟ้าของพี่ และรักยัยน้องเหลือเกิน พี่จะดูแลผู้หญิงของพี่ ด้วยหัวใจของผู้ชายคนนึงเป็นอย่างดี ขอให้ยัยน้องเชื่อใจ
รักและห่วงใยยัยน้องของพี่ตลอดมา อยากกอดน้องแน่นๆและบอกรักน้องทุกคืนวัน
พี่ชายของยัยน้องเอง
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว พร้อมกับเสื้อคลุมสีขาวอีกตัว มีป้ายห้อยชื่อ และตำแหน่ง พร้อมรอยยิ้มสุภาพอ่อนโยน กำลังให้บริการ ผู้เข้ามารับบริการ ภายในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง
โทรศัพท์สายด่วนที่ต่อลงมา จากฝ่ายบุคคลทำให้คนที่รับสายตกใจ เหลือเกิน
" คุณ นิติเทพ นะคะ "
" ครับ ผมนิติเทพ เภสัชกรครับ " ปลายสายบอกให้เค้าวางมือลงจากงาน แล้วให้ขึ้นไปที่แผนกบุคคลตอนนี้เลย
นิติเทพส่งยาและส่งเคสให้เพื่อนร่วมงานเรียบร้อย แล้วเดินตรงดิ่งขึ้นไปด้านบนทันที มีเรื่องอะไรกัน ชายหนุ่มมองดูแขกจากทางด้านนอก แล้วเปิดประตูเข้าไป
" เจ้าหน้าที่จากทางสถานฑูตมาขอพบ แจ้งว่า น้องสาวคุณนิติเทพ เสียชีวิตแล้วค่ะ "
นิติเทพหน้าซีดเซียวจนเหลือ2นิ้ว เค้าทรุดนั่งลงกับพื้น แล้วถามอีกที
" อะไรนะครับ น้องทิพย์เป็นอะไร "
“คุณชินาทิพย์ และ สามี ประสบอุบัติเหตุ ครับ เสียชีวิตทั้งคู่ ส่วนลูกสาว ปลอดภัยดีครับ “
นิติเทพโดนหมัดซ้าย หมัดขวา และฮุคเข้าที่หน้าอย่างแรง เค้าไม่รู้มาก่อนเลยว่า น้องทิพย์ แต่งงาน ไม่รู้เลยว่ามีสามี และที่สำคัญ เค้าไม่รู้เลยว่า ตัวเองมีหลาน
" ทางตำรวจที่นั่น สืบสวนและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้ทันทีครับ คดีความว่าไปตามกฏหมาย ค่าเสียหาย ก็ได้รับการชดเชยอย่างเต็มที่ จากคู่กรณี และ จากโรงพยาบาลที่น้องเขยคุณทำงานอยู่ ประเด็นคือ ทางอเมริกา จัดการศพของผู้เสียชีวิตไปแล้ว ผมจะมาแจ้งให้คุณ ไปรับกระดูก รับเงินมรดกของคุณชินาทิพย์ และ รับหลานสาวของคุณกลับบ้านครับ "
เอกสารที่ทางสถานฑูตนำมา ชัดเจนระบุตัวบุคคลได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน น้องสาวคนเดียว คนที่เป็นน้องน้อยของเค้า มาตลอด บินไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา แล้วไม่ยอมกลับมาบ้านเลย รูปถ่ายสร้อยแพนดอร่าที่ข้อมือ ที่เค้าซื้อให้เป็นของขวัญ ยังคงติดมือน้องสาว แม้จะมีชาร์มเพิ่มมาอีกหลายชิ้น แต่ทันก็เป็นของขวัญที่เค้าซื้อส่งไปให้ทุกชิ้นเช่นกัน
" คุณนิติเทพ ลางานได้เลยนะคะ ทางโรงพยาบาลจะหาคนมาแทนให้ " ผู้จัดการแผนกบุคคลบอกด้วยความเห็นใจที่สุด
เซลล์สาวยืนยิ้มคุยอยู่กับลูกค้า ภายในโชว์รูมรถ ก่อนจะหันมาเห็นว่า มีลูกค้ากลุ่มใหญ่ เดินเข้ามาด้านใน แล้วคุยกับประชาสัมพันธ์สาว ที่มีท่าทีตกใจเป็นอย่างมาก
" ตกลงคุณลูกค้า รับสีดำไม่เปลี่ยนแปลงแล้วนะคะ อังค์ จะหารถให้เร็วที่สุด แล้วจะแจ้งกลับไปค่ะ "
ลูกค้าพยักหน้าพอใจ ที่ได้สีตรงตามที่ตัวเองต้องการ
" ขอบพระคุณท่านที่วางใจในการบริการของเรานะคะ อังค์จะไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ "
อังค์วราส่งลูกค้าที่รถ แล้วยิ้มหวานให้อีกที ก่อนจะเดินกลับเข้ามาด้านใน
" พี่อังค์แขกกลุ่มนั้น มาหาพี่อังค์ "
หญิงสาวรีบเดินตรงเข้าไปยังห้องรับรอง แล้วเคาะประตูห้องตรงหน้า
" สวัสดีค่ะ อังค์วราค่ะ ยินดีบริการ " เซลล์สาวบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ แล้วมองคนในห้องทั้งหมด
" ผมเป็นเจ้าหน้าที่จากสถานฑูต จะมาแจ้งข่าวกับคุณอังค์วรา เรื่องนายแพทย์อิงควัต ครับ "
อังค์วราลมออกหู เธอไม่รู้ว่า เค้าพูดอะไรต่อ เพราะประโยคสุดท้ายที่เธอได้ยิน คือ นายแพทย์อิงควัต เสียชีวิตแล้ว พร้อมภรรยา คุณชินาทิพย์
ร่างบอบบางลมตึงลงไป แม้จะนั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่เธอกลับหงายหลังลงไปทันที ยังดีที่หัวไม่ฟาดพื้นเพราะคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆประคองเอาไว้ได้ทัน
" คุณ คุณ ตั้งสติ คุณอังค์ "
เสียงเรียกชื่อดังแว่วเข้ามาแต่ข้อความในจดหมายที่เธอเพิ่งได้รับไม่กี่วัน ดังกว่า อังค์วราลืมตาขึ้นมาแล้วถามออกไป
" หลานละคะ อัญญ่า เป็นยังไงบ้าง "
คำถามแรกจากปากคนที่เพิ่งคืนสติ ทำเอานิติเทพ โกรธขึ้นมาทันที แสดงว่ารู้เห็นเป็นใจกันทั้งพี่ทั้งน้อง ที่ทำน้องสาวของเค้าท้อง แล้วคลอดลูกอยู่ที่นั่น
" ตำรวจแจ้งว่าคุณหมอไปกับภรรยาสองคนครับ ตอนนี้เด็กอยู่กับเพื่อนของคุณหมอครับ "
อังค์วรารู้สึกว่าตัวเองหายใจได้แล้ว นางฟ้าของพี่ชายยังอยู่ดี
" อังค์จะไปรับหลานได้ไหมคะ " เธอถามเสียงสั่น
นิติเทพมองเธอแล้วบอกออกมา
" ผมเป็นพี่ชายของยัยทิพย์พี่สะใภ้ของคุณ " ใบหน้าของชายหนุ่มดุดันเหลือเกิน เค้าไม่พอใจกับสิ่งที่ได้ยิน และโกรธพี่น้องคู่นี้
อังค์วราถอดรองเท้าส้นสูงของตัวเอง แล้วโยนทิ้งเอาไว้ที่เบาะข้างๆ ก่อนจะฟุบหน้าลงกับพวงมาลัย แล้วน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลเป็นทาง โชคชะตาชีวิตของครอบครัวมีแต่ความพลัดพรากและสูญเสีย พี่ชายของเธอ เป็นโลกทั้งใบให้น้องสาวมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เสียงเคาะกระจกรถ ทำให้เธอต้องหันไปดู แล้วก็พบว่าชายหนุ่มยืนรออยู่แล้ว
" อังค์ อังค์ คุยกันหน่อย " แฟนหนุ่มเรียกเสียงดังทำให้เธอต้องเปิดประตูรถออกไป
" วิทย์เสียใจด้วย เรื่องพี่ชายนะอังค์ "
เสียงของเค้าสุภาพอ่อนโยน พร้อมกับดึงเธอไปกอดเอาไว้ กลิ่นหอมละมุนจากตัวเค้า ทำให้เธอสงบลงได้บ้าง
" อังค์จะบินไปรับหลานหรอ " เค้าถามเธอออกมา แล้วซับน้ำตาให้ อังค์วราพยักหน้า แทนคำตอบ
" พี่สะใภ้อังค์ เค้าก็มีพี่ชาย วิทย์ว่า ถ้ายังไง อังค์ควรยกหลานให้เค้าไป " คนที่เพิ่งเช็ดน้ำตาชะงักไปทันที
ไววิทย์คิดดูแล้วว่า ถ้าอังค์วรารับหลานมาเลี้ยง ต้องเป็นภาระแน่นอน เค้าจึงพูดต่อ
" อังค์ทำงานสัปดาห์ละ6 วัน เงินเดือนก็พออยู่ได้ ไม่ได้เหลือกินเหลือใช้ ถ้าจะรับหลานมาเลี้ยง ภาระทั้งหมดอยู่ที่อังค์แน่ๆ"
มือบางที่กำลังซับน้ำตากำหมัดแน่น แล้วทุบลงไปที่หน้าอกคนพูดทันที เสียงร้องดังลั่นออกมา
" เป็นบ้าอะไร ผมเจ็บ " อังค์วรามองผู้จัดการหนุ่มที่เป็นแฟนของเธอมาปีกว่า แล้วกัดฟันพูด
" ยังเป็นคนอยู่ไหม พูดออกมาแบบนี้ได้ยังไง " เธอตวาดใส่เค้าเสียงดังลั่น
" อัญญ่าเป็นหลานอังค์ พ่อแม่ก็ไม่มี แค่นี้แกก็โชคร้ายมากแล้ว แต่วิทย์ยังจะให้อาอย่างอังค์ ผลักไสหลานอีก วิทย์ยังเป็นคนอยู่ไหม "
อังค์วราผลักเค้าออกจากรถของเธอ แล้วปิดประตูรถ เสียงดัง ก่อนจะขับรถออกไปทันที
" ไววิทย์คนเฮงซวย คนเห็นแก่ตัว "
หญิงสาวโกรธจนปวดหัว เค้าไม่สมควรเลย ไม่สมควรจะได้อยู่ในชีวิตของเธออีกต่อไป
ผู้จัดการอนุมัติใบลาฉุกเฉินให้พนักงานสาวในทันที คุณณัฐฏ์ผู้เป็นเจ้านาย ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น สั่งการให้บริษัทช่วยเหลือลูกน้องสาวอย่างเต็มที่
กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่2ใบ พร้อมกับกระเป๋าถืออีกใบที่สะพายเอาไว้ ข้างกาย การเดินทางไปต่างประเทศที่ใช้เวลาบินนับสิบกว่าชั่วโมงไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับคนตัวคนเดียวอย่างเธอ อังค์วรามีพาสปอร์ตอยู่แล้ว เพราะเธอเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศทุกสิ้นปีตามที่บริษัทจัดให้ แต่ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่บินเดี่ยว
เจ้าหน้าที่สถานฑูตให้คำแนะนำอย่างดีทุกอย่าง เอกสารเสร็จเรียบร้อยภายใน1วันทำการ และพร้อมช่วยเหลือตั้งแต่เครื่องลงจอดทีเดียว
ใบหน้าซีดเซียวเพราะอดนอนมาตั้งแต่เกิดเรื่อง คนไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ได้แต่ร้องไห้ออกมาเพียงลำพัง
ยอดเงินเก็บในบัญชีมีไม่มากมาย ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับหลักแสนบาท ก็แทบจะหมดบัญชีแล้ว หากถึงคราวจำเป็น เงินฉุกเฉินในบัตรเครดิต เป็นทางออกแรกของเธอ
" อังค์ แกต้องอดทนเอาไว้นะ มีอะไรบอกมา ถ้าฉันช่วยได้ ฉันยินดีช่วยแกเติมที่"
ตังเม เพื่อนสาวบอกด้วยความจริงใจ เพราะคุ้นเคยกับพี่น้องคู่นี้ตั้งแต่สมัยเรียน มอปลาย
เงินสดแบงก์ดอลล่าร์สหรัฐในซองปึกใหญ่ ยื่นให้เพื่อนรักติดตัว
" อย่าคิดมาก เอาไปใช้ก่อน ฉันอยู่บ้านไม่ได้มีภาระอะไร อีกหลายวันกว่าแกจะกลับ ติดตัวไป "
เพื่อนสาวยัดซองใส่มือแล้วกอดเพื่อนรักเอาไว้
" วันกลับ ฉันจะมารีบแกเอง จะมาฟัดอัญญ่าให้หนำใจเลย "
อังค์วราเช็ดน้ำตาตัวเองที่กำลังร่วงเป็นสาย เธออุ่นใจที่มีเพื่อนคนนี้ อย่างน้อย หากมีอะไรเกิดขึ้น ตังเมก็พร้อมจะฟาดกับตาลุงของยัยอัญญ่า เช่นกัน
นิติเทพลากกระเป๋าเดินทางพร่อมกับมองคนที่กำลังยืนเช็ดน้ำตา เค้าโกรธ เค้าโมโห ที่น้องสาวปิดบัง แต่เค้าก็พยายามทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น นายแพทย์ผู้เป็นสามีของน้องสาว คงเป็นคนดี เป็นพ่อที่ดีสำหรับหลานสาวตัวน้อยของเค้า ไม่เช่นนั้น น้องสาวผู้ไม่มีความอดทนใดใด คงรีบฟ้องเค้าเป็นแน่แท้
" ไปคุณ เครื่องจะออก " เค้าเดินมาเรียกคนที่กำลังร่ำลาเพื่อนอยู่ แล้วยิ้มน้อยๆให้เพื่อนของเธอตามมารยาท
" คุณคิดว่า ผมจะให้คุณเลี้ยงหลานผมคนเดียวหรอ ฝันไปเถอะ "