บทที่6

1489 คำ
บทที่6 “เธอกลัวอะไรมันนักหนาวะ” “เราเปล่ากลัวพี่เธียรนะ” “ไม่กลัวแล้วจะรีบออกมาทำไม” “เราแค่มองออกว่าแผนนี้มันไม่เวิร์คพี่เธียรไม่เชื่อหรอกว่ามอสเป็นแฟนเรา” “งั้นก็กลับเข้าไปใหม่ เดี๋ยวฉันจะจูบเธอโชว์มันเลย” “นายจะบ้าเหรอ เราไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด เอางี้นะเราแยกย้ายกันตรงนี้แหละ แล้วก็ลืมเรื่องก่อนหน้านี้ไปเถอะ” “อะไรของเธอวะ” “เอาเถอะน่า แยกย้ายกันตรงนี้แหละ นายเองก็มีธุระต่อไม่ใช่เหรอ รีบไปสิ” ว่าจบฉันก็ดันหลังมอสให้ไปอีกทาง ส่วนฉันก็รีบเดินกลับคณะเหมือนเดิม “สวย! เป็นไงบ้างแผนโอเคปะ” ยัยน้ำพิ้งค์วิ่งหน้ายิ้มเข้ามาจับมือฉันก่อนจะถามถึงแผนที่ได้ทำก่อนหน้านี้ ซึ่งฉันก็ได้แต่ถอนหายใจตอบมัน “ถอนหายใจงี้ ไม่โอเคเหรอวะ” “ไม่รู้สิมึง กูว่าไม่น่าจะเวร์คอะพี่เธียรดูไม่ค่อยเชื่ออะ แถมสายตาที่มองมอสก็เหมือนรู้จักมอสยังไงไม่รู้” ฉันตอบน้ำพิ้งค์ไปอย่างที่คิดก่อนจะชะเง้อคอมองหาพริกไทย “แล้วนี่พริกไทยไปไหนอะ” “อ่อ มันไปเข้าห้องน้ำอะ” “อืม” พูดคุยกันจบฉันกับยัยน้ำพิ้งค์ก็เดินไปนั่งที่ม้านั่งที่ฉันจากมาก่อนหน้านี้ นั่งได้ไม่นานยัยพริกไทยก็กลับมาจากห้องน้ำพอดี ฉันเลยเล่าเรื่องให้มันฟัง มันเลยบอกว่าไม่เป็นไร ถ้าแผนนี้ไม่เวิร์คเดี๋ยวค่อยคิดแผนใหม่ละกัน พวกฉันสามคนเลยเลิกสนใจเรื่องนั้นไป แล้วหันมาคุยเรื่องอื่นแทนระหว่างที่รอเข้าเรียนวิชาภาคบ่ายต่อ 19.00น. @คอนโดสวย ตุบ! เฮ้อ~ เหนื่อยเป็นบ้าเลย…หลังจากที่ฉันเรียนภาคบ่ายลากยาวมาจนถึงช่วงเย็นแล้ว ก็ถึงเวลาอาจารย์ประจำวิชาชีวะปล่อยพวกฉันกลับ นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่หนึ่งอย่างฉันจึงได้กลับมาถึงห้องตอนเวลาหนึ่งทุ่มเป๊ะ เรียกอาการเหนื่อยล้าและง่วงจนตาจะปิดอยู่รอมร่อได้เป็นอย่างดีเลยละ ไม่รู้ว่าฉันคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่เลือกเรียนแพทย์เหมือนพี่ภีม ตอนนี้ฉันเพิ่งจะอยู่ปีหนึ่งการเรียนมันก็คงยังไม่ได้ยากอะไรมากมาย ส่วนใหญ่ก็เรียนเหมือนๆ กับตอนมัธยมแค่ตอนนี้มันเจาะลึกกว่าเดิมแค่นั้นเอง แต่ถ้าขึ้นปีสองเมื่อไหร่ ฉันก็ต้องเรียนพวกเรียนเนื้อหาของวิชาแพทย์โดยตรงในด้านทฤษฎีต่างๆ เช่น กายภาพศาสตร์ ประสาทวิทยา จุลชีววิทยา สรีรวิทยา เป็นต้น เพื่อเตรียมตัวฝึกหัดปฏิบัติในขั้นต่อไป เฮ้อ! แค่คิดก็เหนื่อยจนตาลายแล้ว ฉันน่าจะไปเรียนบริหารเหมือนที่แม่บอกตั้งแต่แรกจะได้ไม่เปลืองพลังงานขนาดนี้ ติ๊งน๊อง~ ติ๊งน๊อง~ ขณะที่ฉันกำลังนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงออดหน้าห้องดังขึ้น คิ้วเรียงสวยของฉันจึงขมวดปมขึ้นมาทันที เพราะดูเวลาแล้วมันก็ไม่น่าจะมีใครมาหาฉันในเวลานี้แล้ว ถ้าจะบอกว่าเป็นน้ำพิ้งค์กับพริกไทยมาหา ฉันก็คงต้องบอกว่าไม่มีทางแน่นอนเพราะสองคนนั้นมันน่าจะหลับเป็นตายอยู่ที่ห้องเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากก่อนกลับมาจากมหาวิทยาลัยสภาพพวกมันไม่ต่างจากคนอดหลับอดนอนมาเลย เพราะตอนเรียนพวกมันพยายามถ่างตาเรียนอย่างหนัก แล้วถ้าไม่ใช่สองคนนั้น แล้วข้างนอกห้องเป็นใครละ? แต่ช่างมันเถอะ จะใครก็ช่างมาเวลานี้ฉันขอไม่เปิดประตูต้อนรับละกัน ติ๊งน๊อง~ ติ๊งน๊อง~ แต่พอฉันทำท่าจะเดินไปเข้าห้องน้ำ จู่ๆ ไอ้เสียงออดหน้าห้องก็ดังขึ้นอีกครั้ง สร้างความรำคาญและความหงุดหงิดให้ฉันจนต้องเดินดุ่มๆ ไปเปิดประตูในที่สุด พรึบ! “หลีกทางหน่อย” และใช่ค่ะ ทันทีที่ฉันกระชากประตูออก คนที่ไม่คิดว่าจะมาที่ห้องของฉันอย่างพี่เธียรก็ใช้แขนดันร่างกายของฉันไปติดกับผนังห้องทันที ก่อนจะเดินหน้ามึนเข้ามาในห้องของฉัน แต่เดี๋ยวนะ? แล้วเขาจะมาที่นี่ทำไมละแถมยังมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ซะด้วย อย่าบอกนะว่า… “พี่เธียร กระเป๋านั่นหมายความว่าไง” “ก็ย้ายมาอยู่กับเธอไง” ฮะ? มาอยู่กับฉัน? เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ จะมาอยู่กับฉันได้ยังไงก็ฉันบอกไปแล้วนี่ว่าฉันมีแฟนแล้ว….แต่เอ๊ะ หรือว่า…นี่เขาไม่เชื่อฉันเหรอ? “ที่สวยพาแฟนไปเจอพี่มา อย่าบอกนะว่าพี่ไม่เชื่อว่าสวยมีแฟนจริง” “อืม ไม่เชื่อและไม่คิดจะเชื่อด้วย” พี่เธียรเดินไปนั่งลงบนโซฟาก่อนจะหันมาตอบฉันหน้าตาเฉย ทำเอาฉันที่เห็นท่าทางนั้นของเขาถึงกับอยากจะหยุมหัวตัวเอง ทำไมเขาถึงได้มึนขนาดนี้นะ “ไม่เชื่อได้ไงละ ก็สวยมีแฟนแล้วจริงๆ มอสเขาเป็นแฟนสวย เราคบกันมาสักพักแล้วด้วย” “เธอจะให้ฉันเชื่อได้ไง ในเมื่อไอ้เด็กนั้นมันควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าในแต่ละวัน” O_O “ฮะ! อะไรนะ” นี่มอสเป็นแบบที่พี่เธียรว่าจริงๆ เหรอ งั้นแผนที่ว่าก็จบเห่แล้วละสิ โอ้ย ฉันละอยากบ้าตาย ถ้าเป็นจริงอย่างที่พี่เธียรว่า แล้วฉันจะเอาไงต่อดีเนี่ย “อีกอย่างไอ้เด็กนั้นมันก็ไม่มีทางได้เป็นแฟนเธอหรอกสวย เพราะคนที่จะเป็นแฟนเธอได้มีแค่ฉันคนเดียว” “อะ…เอ๋อ พี่เธียร พี่ต้องเข้าใจอะไรผิดแล้วละ สวยกับมอสเราเป็นแฟนกันจริงๆ นะ แล้วเรื่องที่พี่บอกว่ามอสควงผู้หญิงคนอื่น สวยว่าพี่น่าจะจำผิดคนแล้วละค่ะ” “ฉันเพิ่งไปเจอมันอยู่กับคนอื่น” พี่เธียรว่าพร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโชว์รูปของมอสนั่งจับมือแล้วยิ้มให้กับผู้หญิงคนหนึ่งในร้านคาเฟ่ให้ฉันดู ซึ่งฉันก็รีบสาวเท้าเดินไปดูใกล้ๆ ทันทีก่อนจะพบว่ามันเป็นมอสจริงๆ เฮ้อ~ หมดกันแล้ว ทีนี้ฉันจะแถต่อไปว่ายังไงดีละ “เธอหยุดแถได้แล้วสวย ฉันรู้จักไอ้เด็กนั่นดีเพราะมันชอบไปเที่ยวผับของไอ้ทามบ่อย ฉันเห็นจนชินตาว่ามันชอบพาผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไปเที่ยวผับ” แบบนี้เองสินะ ตอนที่พี่เธียรเห็นหน้ามอสเมื่อตอนเที่ยงเขาถึงได้แสดงอาการแบบนั้นออกมา เพราะเขารู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่ามอสไม่ใช่แฟนฉันแถมยังรู้จักพฤติกรรมของมอสดีด้วย ยัยพริกไทยนะยัยพริกไทยทำไมไม่สืบประวัติตาบ้ามอสนั้นให้ดีก่อนฮะ! หมับ! ตุบ! เฮือก!! “เธอไม่มีทางจะมีแฟนได้หรอกสวย เพราะขนาดฉันที่บอกรักเธอตอนนั้น เธอยังวิ่งหนีเลยแล้วนับประสาอะไรกับไอ้เด็กเส็งเคร็งนั้นที่เธอจะชอบมัน” อยู่ๆ ฉันก็ถูกพี่เธียรดึงแขนลงไปนั่งตักพร้อมกับพูดเสียงนิ่งขณะที่สายตาก็จับจ้องดวงตาของฉันไม่วางตา ทำเอาฉันที่ตกใจก่อนหน้านี้ถึงกับนิ่งค้างไปเลยแถมหัวใจของฉันตอนนี้ก็เต้นโครมครามแทบจะทะลุหน้าอกออกมาแล้วด้วย หนำซ้ำไอ้มือกับขาทั้งสองข้างมันก็สั่นไม่หยุดด้วย เธอจะประหม่าอะไรขนาดนั้นกับสายตาของพี่เธียรละยัยสวย ตั้งสติหน่อยสิ! พรึบ! “แต่ช่างเรื่องนั้นก่อนเพราะต่อไปนี้…” แต่จู่ๆ พี่เธียรก็ใช้หลังมือดันร่างกายของฉันให้นั่งลงบนโซฟาก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาแล้วพูดบางอย่างที่ทำให้ฉันตาลุกวาวเท่าไข่ไก่ขึ้นมาว่า “ฉันจะมาอยู่ที่นี่กับเธอ” ใช่ค่ะ เราฟังกันไม่ผิด พี่เธียรบอกว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ ที่ห้องของฉัน! ซึ่งฉันที่เป็นผู้ฟังถึงกับเด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟาทันที “ไม่ได้นะพี่เธียร” “ได้สิ แล้วเธอก็ห้ามขัด ห้ามปฏิเสธด้วยเพราะสาเหตุที่ฉันมาอยู่ที่นี่ก็เพราะเธอโกหกเรื่องแฟน ซึ่งฉันบอกเธอไปแล้วว่าให้เตรียมตัวไว้” แต่ฉันไม่ได้ตกลงกับเขานะ เดี๋ยวสิแล้วนั้นจะเดินหนีไปไหนละ กลับมาคุยให้รู้เรื่องกันก่อนสิ พี่เธียร!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม