ตอนที่ 9 ข้อตกลงใหม่

1523 คำ
ภัทรและธิศกินเสร็จแล้วก็เดินออกไปจากโรงอาหารทันที ไม่นานเขาก็เห็นเธอเดินมาสั่งของหวานที่ร้านน้ำแข็งไสตรงหน้าส่วนเขาก็เดินไปสั่งข้าวแกงร้านข้าง ๆ เมื่อเธอเดินกลับไปนั่งที่เดิมเขาจึงเดินตามเธอไปนั่งตรงข้าม มิวถึงกับตกใจเมื่อหันไปมองและเห็นว่าเพื่อนของเขาไปหมดแล้ว “ไม่ต้องมองพวกมันไปหมดแล้ว” “แล้วทำไมต้องมานั่งที่นี่ล่ะคะ” “ก็อยากนั่ง มีเรื่องจะคุยด้วย” “อะไรคะ” “มิวทำพี่เป็นแผล คิดว่าอีกนานคงจะหายดังนั้นคงต้องรับผิดชอบสักหน่อย” “อะไรนะคะ ก็มิว….” เธอลดเสียงลงเมื่อหลาย ๆ คนเริ่มมองมาที่เธอ ทุกคนไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมภาวินทร์หนุ่มสุดหล่อคณะวิศวะที่สาว ๆ เฝ้าฝันว่าอยากจะกินข้าวกับเขาสักมื้อ ทำไมถึงต้องไปเลือกนั่งกับคนหน้าตาเฉิ่มแว่นหนาอย่างมิวคณะพยาบาล คนที่จืดชืดเหมือนกับกาแฟเย็นที่น้ำแข็งละลายผสมจนหมดรสชาติแบบนั้น “เบาหน่อยสิ แต่ว่าพี่ต้องใช้นิ้วมือในการทำโปรเจคแต่ตอนนี้มันบาดเจ็บดังนั้นก็ต้องเป็นหน้าที่มิวที่จะต้อง…” “อะไรนะคะ เดี๋ยวก่อนนะคะแค่หน้าที่แม่บ้านสามวันต่อสัปดาห์…” "ทุกวันพุธและวันศุกร์ไม่ต้องทำความสะอาด ทำแค่วันจันทร์วันเดียวพอ" “ทำไมล่ะคะ” “เพราะว่าพี่มีงานอื่นให้ทำ” “งานอะไร ถ้า…” “ไม่มีอะไรก็แค่ให้ช่วยพิมพ์งานและรวมเล่มโปรเจคจบน่ะ” มิวขมวดคิ้วมองเขาด้วยความสงสัย ภาวินทร์พึ่งจะสังเกตว่าเธอทำหน้าแบบนี้ถ้าหากว่าดึงแว่นหนา ๆ นั่นออกก็น่ารักจนทำให้หัวใจเขาเริ่มมีปฏิกิริยาอย่างที่ไม่ควรเป็นมาก่อน โดยเฉพาะกับคนจืดชืดอย่างลักษิกา “พิมพ์งาน เข้าเล่ม” “ใช่” “แค่นี้เหรอคะ” “ใช่ เบากว่างานแม่บ้านด้วยว่ายังไง” “ตกลงค่ะ แล้วมิวจะเริ่มทำได้ยังไง” “กินข้าวเสร็จค่อยว่ากัน” “ค่ะ” เขาหันไปมองของหวานที่เธอกินจนมิวหันมามองเขา “พี่วินทร์อยากจะลองกินหน่อยไหมคะ” “พี่ไม่ค่อยชอบของหวาน” “แต่ที่นี่ไม่หวานมากหรอกค่ะ ก็แค่เม็ดบัวถั่วแดงใส่น้ำแข็งกินแล้วสดชื่นดี” “เอ่อ ถ้าอย่างนั้นก็ได้เดี๋ยว...” “ไม่ต้องค่ะเดี๋ยวมิวไปซื้อให้ถ้าพี่วินไปรับรองว่าได้ถั่วแดงน้อยแน่ ๆ” “หา? แบบนี้ก็ได้เหรอ” ไม่นานมิวก็กลับมาพร้อมกับชามของหวานที่ภาวินทร์ไม่เคยลองกินมาก่อน แต่เพราะเห็นเธอกินอย่างเอร็ดอร่อยจึงนึกอยากจะลองบ้างในวันที่อากาศร้อน ๆ แบบนี้ “ลองชิมดูสิคะ” “เอ่อ อ้อ ได้สิ” เขาค่อย ๆ คนให้ละเอียดและเริ่มตักมากินคำแรกส่วนเธอหันไปกินชามของตัวเองแล้ว แค่คำแรกเขาก็รู้สึกว่าของหวานที่เขาไม่เคยชอบนี้กลับอร่อยมากอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่นานคนที่นั่งตรงข้ามก็ยิ้มออกมา “อร่อยใช่ไหมคะ” “อื้ม อร่อยมากเลย” มิวยิ้มให้ก่อนจะเก็บจานของเขาและเธอรวมกันและนำไปเก็บ ภาวินทร์นั่งกินของหวานเมื่อเธอเก็บจานชามที่กินแล้วไปให้แม่บ้านที่เหมือนจะสนิทกัน “เดี๋ยวป้าไปเก็บเองก็ได้หนูมิวน่ารักตลอดเลย วันก่อนขอบใจมากนะ ยาที่ให้มาใช้ดีมากเลย” "ไม่เป็นไรค่ะป้าสาย มิวไปก่อนนะคะ" “จ้า” เมื่อเธอเดินกลับมาเขาก็กินเกือบจะหมดแล้ว มิวดึงกระดาษทิชชูส่งมาให้เขาและชี้ไปที่มุมปากที่มีเศษถั่วแดงติดอยู่ “อร่อยมากเลยเหรอคะ” “อืม อร่อยมากไม่เคยกินของแบบนี้มาก่อนเลย” “มิวเก็บชามไปนะคะ” “ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวก็มีคนมาเก็บรีบไปเถอะ พี่ต้องรีบหาหนังสือที่ไอ้กรมันฝากมายืมแล้วจะได้คุยรายละเอียดงานด้วย” “อ้อ ก็ได้ค่ะ” วันนั้นเขาได้อยู่กับมิวทั้งวันจนเริ่มรู้สึกว่าชีวิตของมิวในแต่ละวันแทบจะไม่ว่างคิดเรื่องอื่นเลย อีกอย่างทั้งเจ้าหน้าที่และอาจารย์แม้แต่คณะอื่นก็รู้จักเธอเป็นอย่างดีจนเขานึกชื่นชมอยู่ไม่น้อย “เล่มสุดท้ายน่าจะอยู่ตรงนี้ พี่วินทร์” “รู้แล้ว ๆ นอกจากจะขี้ตกใจเหมือนลูกแกะแล้วยังเตี้ยอีก” “พี่วินทร์!!” “ก็ได้ ๆ ไม่เตี้ยหรอกพี่แค่สูงร้อยแปดสิบเจ็ดเองก็เลยสูงกว่า เจอแล้ว” เมื่อนำหนังสือลงมาได้มิวก็หันมาพอดี หน้าของเธอชนเข้ากับอกของเขาพอดี เสียงหัวใจของเขาที่เต้นอยู่ตรงหน้าทำเอาเธอหน้าแดงเพราะว่ามันเต้นแรงพอ ๆ กับใจของเธอที่หวังว่าคนสูง ๆ อย่างเขาจะไม่ได้ยิน ภาวินทร์รู้สึกไม่ปลอดภัยมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วเมื่ออยู่กับมิว เพราะแรกเริ่มคิดจะแก้แค้นและหลอกใช้งานเธอแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเขาที่เริ่มใจสั่นเสียเอง “บอกแล้วว่าพี่สูงกว่ามิว เป็นไงล่ะสูงยังไม่พ้นไหล่พี่เลยยังจะไม่ยอมรับว่าเตี้ยอีก” “มิว… ขอตัวก่อน” เธอรีบเดินออกจากนั้นหนังสือทันที เขาทันเห็นหน้าแดงจัดของเธออีกครั้ง ไม่คิดเลยว่าเธอจะน่ารักขนาดนี้และนับวันที่ได้พบก็จะน่ารักขึ้นเรื่อย ๆ เขาคุยเรื่องโปรเจคให้เธอฟังและรายงานที่รวบรวมมาก่อนหน้านี้ให้เธออ่านดู “อืม ถ้าแบบนี้มิวว่าควรจะต้องสรุปแล้วแยกส่วนออกมา ทำเป็นรายงานที่อธิบายเพื่อจะได้ใช้เวลานำเสนอกับชาร์ตและภาพประกอบ ที่จริงคณะวิศวะน่าจะมีคนทำแบบทรีดีเป็น ถ้าทำแบบนั้นคิดว่าจะเห็นภาพง่ายขึ้น” “อืม เข้าท่านี่ยัยลูกแกะ ช่วยได้เยอะเลยงั้นก็เอาตามนี้ อ้อจริงสิเรื่องงานพิมพ์น่าจะยังไม่เริ่มเร็ว ๆ นี้คงต้องทำพวกโครงสร้างและเอกสารที่จะนำเสนอก่อนเอาไว้พี่จะมาแจ้งความคืบหน้า” “ค่ะ” “แย่จริงจะสองทุ่มแล้ว รีบกลับเถอะหอสมุดจะปิดแล้วนี่” “อะไรนะคะสองทุ่มแล้วเหรอ อ้อแต่วันนี้วันพุธ โล่งอก” “พี่เดินไปส่ง” “แต่ว่า…” “กลัวเป็นข่าวกับพี่เหรอ” “ไม่อยากโดนถามมากต่างหาก” “ก็ได้งั้นนั่งรถไป” “นั่นมัน…” “เรื่องมากจริง” “มิว! กลับบ้านกัน” “แยม มาได้ยังไงน่ะ” “เราจะกลับหอพอดีไปพร้อมกัน…เลยไหม” แยมหันมามองคนที่หอบหนังสือในชุดเสื้อชอปสีแดงคณะวิศวะ ถ้าเป็นคนอื่นเธอจะไม่ตกใจแต่นี่เขาคือ “ภาวินทร์” หนุ่มสุดฮอตในหมู่สาว ๆ ไม่ใช่เหรอ “เอ่อ…ฉันมาผิดเวลาหรือเปล่าให้ฉันกลับก่อนก็ได้นะ” “ไม่ ๆ ๆ กลับพร้อมกันเถอะ พี่วินทร์คะเอาเป็นว่า…เจอกันใหม่นะคะ” “ก็ได้ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เจอกัน" "ค่ะ” เมื่อภาวินทร์เดินแยกออกไปแล้วแยมจึงรีบเดินมาเขย่าแขนเธอด้วยความอยากรู้ วันนี้แยมคงไปที่โรงพยาบาลมาเพราะพวกเธอต้องผลัดกันไปฝึกงานที่นั่นเพื่อเก็บคะแนน “มิวนี่แกไปญาติดีกับพี่วินทร์คณะวิศวะนั่นได้ยังไง ไหนก่อนหน้านี้ยังทะเลาะกันหน้าตึกวิศวะจนเป็นข่าวใหญ่อยู่พักหนึ่งเลยไม่ใช่เหรอ ทำไมวันนี้กลับมาพูดดีกันได้ล่ะ” “เรื่องมันยาวนะ รีบกลับหอเถอะฉันจะเล่าให้ฟัง” “อะไรกัน ก็ได้ ๆ รีบกลับเถอะหาข้าวกินก่อนนะฉันหิวมากเลยวันนี้ที่โรงพยาบาลคนเยอะมากเลย” “ก็ได้ ๆ” พวกเธอเดินกลับหอพักที่อยู่ไม่ไกลจากหน้ามหาลัย ก่อนจะกลับเข้าไปก็แวะทานข้าวก่อน เมื่อกลับมาที่ห้องมิวก็เริ่มเล่าเรื่องที่เขาพบกับภาวินทร์ในผับให้เพื่อนสนิทฟัง แยมตกใจจนพูดไม่ออกและมิวก็เล่าเรื่องต่อจากนั้นจนลงท้ายที่เธอต้องช่วยเขาพิมพ์เล่มโปรเจค “นี่มันเรื่องอะไรกันล่ะนี่ พวกเพื่อน ๆ ของเขาล้อเลียนและแซวแกมาตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับจะมาช่วยพวกบ้านั่นทำโปรเจคเพื่อเรียนจบเนี่ยนะ” “โชคร้ายของฉันที่ดันไปเจอเขาที่ผับ จะไม่ทำก็ไม่ได้เพราะค่ารักษาของยายก็ใกล้จะมาอีกแล้ว หากครั้งนี้ไม่ผ่าตัดคงจะไม่มีทางรักษาแล้ว ฉันเลยจำเป็นต้องรับทุกเงื่อนไขที่พี่วินทร์เสนอมา”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม