@2 วันต่อมา > มหาวิทยาลัย
"มึงนะมึง..หายหน้าไปโดยไม่บอกไม่กล่าว พวกกูเป็นห่วงแทบแย่.. : ใบม่อน
เสียงใบม่อนดังขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาตีเบา ๆ ที่แขนฉันหนึ่งที สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความกังวลปนโกรธ ดวงตาจับจ้องฉันอย่างคาดคั้น ทั้งยังจ้องไม่ปล่อยเหมือนกลัวว่าฉันจะหายตัวไปอีก
"ว่าแต่มึงกับพี่สิงเลิกกันจริงดิ กูได้ยินเขาลือกันให้แซด สองเดือนก่อนพี่สิงไล่ตามหามึง มาถามหามึงทุกวันเลย : น้ำชา
น้ำชาเบิกตากว้างขณะพูด สองมือวางบนโต๊ะแล้วเอนตัวเข้ามาใกล้ฉัน ใบหน้ามันเต็มไปด้วยความอยากรู้ปนตกใจ ดวงตาเป็นประกายไม่ต่างจากนักข่าวซุบซิบที่ได้ข่าวเด็ด
"ทำไมวะ..เกิดอะไรขึ้น..หรือไอ้พี่สิงมันทำมึงเสียใจอีกแล้ว : ใบม่อน
ใบม่อนขมวดคิ้วแน่น มันยื่นตัวมาข้างหน้า มือกำแน่นบนโต๊ะ ร่างกายเต็มไปด้วยพลังโกรธแทนฉันชัดเจน ดวงตาคมกริบจ้องฉันเหมือนพยายามอ่านใจ
"เอ่อนั้นดิ..หรือว่ามึง... : น้ำชา
"พวกมึงถามเก่งกันจริง..เว้นช่อนว่างให้กูตอบคำถามบ้าง....
ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเบือนสายตามองไปไกลอย่างเหนื่อยใจ พยายามปรับลมหายใจให้สม่ำเสมอ ทั้งๆ ที่ความรู้สึกเดิมๆ เริ่มไหลย้อนกลับมาอีกครั้ง
ตั้งแต่มาถึงไอ้เพื่อนตัวดีก็ถล่มถามคำถามฉันไม่หยุด...มันถามชนิดที่ไม่เว้นช่องว่างให้ตอบ..ก็เข้าใจแหละว่ามันเป็นห่วง..ฉันเองก็ผิดที่หนีไปโดยไม่บอกไม่กล่าวใครเลยสักคน..ก็ตอนนั้นคนมันเฟลนี่น่า..ไม่อยากบอกใคร ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น..
ฉันยกมือขึ้นเท้าคาง ริมฝีปากเม้มแน่นเล็กน้อย สายตาเหม่อมองพื้นหญ้าด้านนอกหน้าต่าง คล้ายจะรวบรวมความกล้าเพื่อเล่าทุกสิ่งที่เคยพยายามเก็บไว้เงียบๆ
"ตกลงเรื่องมันเป็นไงมาไงว่ะ เล่ามาให้หมด : ใบม่อนและน้ำชามันจ้องฉันไม่หยุด...ชนิดที่ว่าไม่ได้คำตอบไม่มีวันเลิกรา....ฉันเองที่ไม่สามารถต้านทานสายตาของพวกมันได้ เลยตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้มันฟัง...ยังไงๆมันสองคนก็เป็นเพื่อนรักของฉัน ฉันไม่มีอะไรปิดบังมันอยู่แล้ว...
ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเริ่มเล่าออกมาช้า ๆ น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงความเจ็บบางส่วนในใจ ดวงตาฉันหลุบต่ำอยู่ตลอดเวลา...กลัวว่าถ้าเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นความสงสารจากเพื่อน มันจะยิ่งตอกย้ำว่าเจ็บแค่ไหน
"เรื่องทุกอย่างก็เป็นแบบนี้..
"ไอ้เชี้ยเอ่ย...สมน้ำหน้า...มึงคิดถูกแล้วที่เลิกกับผู้ชายแบบนั้นได้ กูว่าแล้วสันดานแบบพี่สิงมันจะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ เป็นไปไม่ได้ : ใบม่อนมันบ่นใหญ่ ใส่อารมณ์ยังกับว่ามันเป็นผู้ถูกกระทำอย่างไงอย่างนั้น
เสียงใบม่อนดังลั่นกลางโรงอาหาร ร่างมันเอนหลังพิงเก้าอี้แต่ยังคงโบกมือไปมาอย่างหัวเสีย เห็นได้ชัดว่ามันอินตามเต็มที่
"ไม่น่าล่ะ...พักหลังๆมาอีพี่สิงถึงดูซูบผอมลงไปมาก คงจะตรอมใจสินะ..กูไม่อยากจะเม้าท์ มาถามหามึงทีไรหน้าตาแม่ง..โคตรน่าสงสาร..อย่างกับว่าโลกมันจะถล่มดินมันจะทลาย...ที่แท้ตัวเองก็ก่อเรื่องไว้อย่างไม่น่าให้อภัยนี่เอง : น้ำชาเองก็ไม่น้อยหน้าบ่นพี่สิงยกใหญ่ ปกติมันออกจะเข้าข้างพี่สิงด้วยซ้ำ ครั้งนี้ถึงกับออกปาก...
น้ำชาเอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย เสียงพูดลดลงเหมือนกลัวคนอื่นได้ยิน แต่น้ำเสียงกลับมีความรู้สึกชัดเจน ทั้งสงสาร ทั้งโกรธ ทั้งผิดหวังแทนฉันในเวลาเดียวกัน
"รู้แล้วก็เลิกถามได้แล้วนะ กูไม่อยากรื้อฟื้นอีก...
ฉันว่าพลางหลุบตาลงต่ำ กัดริมฝีปากแน่น มือที่วางบนตักกำแน่นราวกับพยายามบังคับหัวใจไม่ให้หวนไหวไปมากกว่านี้อีก
"เออๆ กูดีใจด้วยในที่สุดมึงก็กินข้าวเป็นสักที : ใบม่อนมันประชดประชันฉัน แต่ก่อนมันชอบบอกว่าฉันกินแต่หญ้ากับอาหารเม็ด....เพราะเชื่อใจและให้โอกาสพี่สิงเสมอจนลืมนึกถึงความรู้สึกตัวเอง
ใบม่อนยักคิ้วแล้วส่งยิ้มขำปนประชดให้ฉัน ขณะใช้ช้อนเขี่ยข้าวในจานไปมา ก่อนจะคีบกับข้าวใส่ปากตัวเองแบบไม่รีบร้อน แต่แววตาก็ยังห่วงฉันไม่เปลี่ยน
ระหว่างที่ฉันกับเพื่อนคุยกันอยู่นั้นคนที่พึ่งจะพูดถึงก็โผล่หัวมาให้เห็น...ที่จริงก็ไม่อยากเห็นหรอกนะ..แต่ฉันทำใจเอาไว้แล้ว มาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันอยู่คณะเดียวกัน..ยังไงๆก็ต้องได้เจอกันอยู่แล้ว
"พลอย...! : สิงหา
เสียงทุ้มที่คุ้นเคยเรียกชื่อฉันดังขึ้นมาจากด้านหลัง ทำเอาร่างฉันแข็งชะงัก มือที่ถือช้อนค้างกลางอากาศ หัวใจเต้นแรงอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะค่อยๆ หันไปช้า ๆ
"พูดถึงก็มาเลย ตายยากจริงๆ : ใบม่อนมันพูดพร้อมกับกรอกสายตาไปมา...
ใบม่อนพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปเขี่ยผมตัวเองด้วยท่าทีรำคาญปนเบื่อหน่าย ส่วนสายตาเขม็งมองคนมาใหม่ด้วยแววไม่ต้อนรับอย่างแรง
"พี่ขอคุยกับพลอยหน่อยได้ไหม... : ดูเขาทำหน้าเข้าสิ..นึกว่าฉันจะสงสารหรือไง...แสดงให้ใครดู
สายตาของสิงหาดูอ่อนแรงปนเว้าวอน ดวงตาคู่นั้นเหมือนคนที่หมดเรี่ยวแรง หวังจะคว้าบางอย่างสุดท้ายกลับมาให้ได้...ใบหน้าเขาหม่นหมอง ดวงตาแดงเรื่ออย่างคนอดนอนและเผชิญทุกข์หนักมานาน
"เอาไง..คุยไหม : น้ำชา
".....ฉันพยักหน้าให้น้ำชา ก่อนที่น้ำชาและใบม่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ...
ฉันพยักหน้าเบา ๆ ทั้งที่ไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากพูด ไม่อยากรู้สึกอะไรอีกแล้วด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็หลบไม่พ้น...สองคนนั้นเดินผละออกไป ปล่อยให้ฉันเผชิญหน้ากับคนที่หัวใจเคยฝากไว้ด้วยตัวเอง
"มีอะไรคะ..พลอยว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ
ฉันยืนกอดอก น้ำเสียงนิ่งเรียบแต่แฝงไปด้วยระยะห่างอย่างชัดเจน ดวงตาไม่สบกับเขาเลยแม้แต่น้อย ความเจ็บปวดในใจถูกกดไว้แน่นอยู่ใต้ท่าทีเฉยชา
"พี่อยากรู้ว่าพลอยกับไอ้พายุ....สองคนเป็นอะไรกัน...
สิงหายืนนิ่งแต่แววตาเต็มไปด้วยความหึงหวง สับสน และหวาดกลัว หวั่นเกรงว่าคำตอบที่ได้จะทำร้ายเขามากกว่าที่เป็นอยู่
"เป็นอะไรกันคือ...?
"ก็วันนั้นที่มันพูด..มันพูดเหมือนพลอยอยู่กับมัน...
น้ำเสียงเขาสั่นน้อย ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยคำถามและความทุกข์ใจ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น หัวใจคงเต้นโครมครามอยู่ข้างในเพราะกลัวคำตอบที่จะได้รับ
"ทำไมคะ...พลอยกับพี่พายุเป็นอะไรกัน มันเกี่ยวกับพี่ยังไง..
ฉันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจในตรรกะเขา สายตาเรียบนิ่ง ไม่แม้แต่จะแสดงท่าทีขัดข้อง นอกจากเยือกเย็นและเฉยเมย
"พลอย...อย่าประชดพี่ได้ไหม...พี่รู้ซึ้งแล้ว พี่สำนึกผิดทุกอย่างแล้วจริงๆ
เสียงเขาอ่อนลง เศร้าลง หางเสียงแทบสั่น ดวงตาคู่นั้นอ้อนวอนแทบจะก้มกราบขอโอกาสอีกครั้ง ใบหน้าเขาดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
"พลอยไม่ได้ประชด..และพลอยก็ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นด้วย..
น้ำเสียงฉันเรียบสนิท แต่ภายในใจสั่นไหว พยายามควบคุมไม่ให้แสดงออก ดวงตาฉันยังคงไม่มองเขาโดยตรง เพราะกลัวความอ่อนแอในใจจะแตกกระจาย
"แล้วพลอยกับมันเกี่ยวข้องกันยังไง...สายตาที่มันมองพลอยมันเหมือน...
เสียงของสิงหาเริ่มเบาลง หายใจไม่ทั่วท้อง แววตาแฝงด้วยทั้งความหวังและความเจ็บปวดเหมือนเด็กที่กำลังจะถูกพรากของรักไปต่อหน้า
"อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนตัวเองสิคะ...พลอยกับพี่พายุเราเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกัน...
ฉันแค่นเสียงเบา ๆ คล้ายกับไม่อยากอธิบายอะไรมากนัก แววตาสะท้อนความเหนื่อยล้าเต็มเปี่ยม ราวกับไม่อยากยื้ออีกต่อไปแล้ว
"รุ่นพี่รุ่นน้องกันแบบไหน ?
เขาถามเสียงเบา แต่แฝงแรงสะกดสายตา หวังให้ฉันพูดบางอย่างที่ช่วยปลอบประโลมใจเขาได้...แต่คำตอบกลับตอกย้ำความจริงให้เขายิ่งเจ็บ
"หึ..ไม่ได้เป็นแบบที่พี่เป็นหรอกค่ะ...ถ้าจะพูดแค่นี้พลอยขอตัวนะคะ..
ฉันหัวเราะในลำคอเล็กน้อยอย่างเหนื่อยหน่าย หมุนตัวจะผละไป แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้า มือหนาของเขาก็คว้าข้อมือไว้ทันที
"เดี๋ยวพลอย... สิงหาจับแขนพลอยใสไว้ สายตาที่ส่งมาให้มันเหมือนกับคนที่หัวใจแลกสลาย...ลมหายใจแทบจะหมดลงไปทุกที...คนเป็นน้องที่เห็นสายตาแบบนั้น..ไม่กล้ามองมันเลยแม้แต่น้อย กลัวเหลือเกินกลัวว่าหัวใจเจ้ากรรมจะไม่รักดี ยอมแพ้ต่อสายตาและความรู้สึกนั้น...
มือหนานั่นกำข้อมือฉันแน่นราวกับกลัวว่าฉันจะหายไปตลอดกาล ดวงตาเขาสั่นไหว เหมือนคนจมน้ำที่กำลังควานหากิ่งไม้สุดท้ายให้เกาะ
"พี่เลิกยุ่งกับพลอยสักที...
ฉันพูดออกไปโดยไม่เหลียวหลังกลับ ดวงตาเริ่มร้อนผ่าว แต่ยังคงฝืนยืนตรงและแข็งแรงให้มากที่สุด
"พลอยไม่รักพี่แล้วเหรอครับ... : สิงหามองพลอยใสสายตาด้วยสายตาแบบเดิมอีกครั้ง..เขารู้จุดอ่อนของเธอดี..เธอเป็นคนขี้สงสาร..หากว่าเธอยังมีความรู้สึกดีดีให้ คงไม่ปล่อยให้เขาเศร้าเสียใจอยู่แบบนี้
เสียงเขาสั่นเครือเล็กน้อย ใบหน้าขอความเมตตานั้นแทบจะร้องไห้ ดวงตาจ้องจับอยู่ที่ใบหน้าฉันอย่างวิงวอน คำถามนี้...คือคำถามที่เขารอคำตอบมานาน
"เคยรัก...แต่ตอนนี้ไม่รักแล้ว... : พลอยใสสะบัดแขนออกอย่างไร้เยื่อใย สายตาที่แข็งกร้าวไม่มองสบตาสิงหาเลยแม้แต่น้อย ทำเอาคนที่ตั้งความหวังเอาไว้มากถึงกับเซไม่เป็นท่า...สิงหาหยุดนิ่งไปชั่วขณะกับคำว่า "ไม่รัก" คำๆนี้ทำเอาหัวใจเขาแทบหยุดนิ่ง หมดลมหายใจลงไปตรงนั้น ก่อนเคยคิดว่าพลอยใสแค่โกรธ ไม่นานก็คงหาย..ขยันง้อเขาหน่อยเดี๋ยวเธอก็คงใจอ่อนอย่างเช่นทุกครั้ง แต่ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะคิดผิด..คนใจดี..อ่อนโยน อะไรก็ได้ ง่ายๆสบายๆ ขี้อ้อนเอาอกเอาใจ และเรียกร้องหาแต่เขาคนเดิมคนนั้น หายไปแล้ว เหลือไว้เพียงคนเย็นชา เฉยเมย ไม่สนใจเขาเลยสักนิด
มือเขาค่อย ๆ ลดลงข้างลำตัว ราวกับหมดแรงจะยื้อ...ดวงตาสั่นระริกไม่สามารถซ่อนความเจ็บปวดไว้ได้อีก ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยอย่างช็อก หัวใจของเขาในตอนนี้เหมือนถูกเหยียบซ้ำซากโดยไม่ปรานี
เขาได้แต่คิดว่าจะไม่มีโอกาสอีกครั้งแล้วจริงๆหรือ....แค่คิดหัวใจเขาก็เหมือนตายทั้งเป็นแล้ว ภาพของพายุกับพลอยใสลอยเข้ามาในหัวสมอง..รอยยิ้มที่เธอมอบให้คนอื่น...กับใบหน้าที่เรียบเฉยที่มอบให้เขา ความรู้สึกที่ได้รับมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน...ดั่งเช่นความรู้สึกของเขาตอนนี้..นับวันยิ่งด่ำลึกลงไปทุกที....จะมีทางไหนที่จะทำให้ความรักที่เคยสวยงามหวนคืนมาได้อีกครั้ง..เขาต้องทำยังไง.....หรือต้องบังคับขืนใจเธออีกครั้งน่ะเหรอ...แบบนั้นเขายิ่งไม่กล้า เพราะพลอยใสไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว ความรู้สึกเธอไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว