เรื่องเล่าของพ่อกับแม่
โรงเรียนอนุบาลดวงตะวัน
เด็กที่อยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวชนชั้นสูงที่มีหน้ามีตาทางสังคม เด็กหญิงณัชชาหรือน้องใบเฟิร์นก็เช่นกัน เธอเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของภูผาและพิชชา ซึ่งภูผามีธุรกิจโลจิสติคส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและอีกหลายๆ ธุรกิจ
ดังนั้นเด็กน้อยใบเฟิร์นจึงเป็นดังแก้วตาดวงใจของทั้งคู่ก็ไม่ปาน เธอถูกส่งมาเรียนที่โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ เด็กน้อยสามารถเข้ากับเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับเด็กชายต้นกล้า บุตรชายของเสี่ยเจ้าของร้านทองชื่อดังประจำจังหวัด
“ใบเฟิร์น นี่ตุ๊กตาคุณแม่เราฝากมาให้” เด็กชายต้นกล้าส่งตุ๊กตาโพนี่สีชมพูให้กับเด็กหญิงตัวน้อย
“ทำไมแม่ของต้นกล้าต้องให้ใบเฟิร์นล่ะ” เด็กน้อยสงสัย เพราะเธอถูกสั่งสอนมาว่าไม่ให้รับของกำนัลจากคนอื่น
“คุณแม่บอกว่า คุณแม่ชอบใบเฟิร์น ใบเฟิร์นน่ารัก แล้วคุณแม่ยังชอบพ่อกับแม่ของใบเฟิร์นอีกนะ” เด็กชายต้นกล้ากล่าวอย่างคล่องแคล่ว แต่ยิ่งบอกก็ทำให้เด็กหญิงณัชชายิ่งสงสัย
“คุณแม่ต้นกล้ารู้จักคุณพ่อคุณแม่ใบเฟิร์นด้วยเหรอ” เครื่องหมายคำถามปรากฏอยู่ตรงหน้าเด็กน้อย
“ไม่รู้สิ คุณแม่เราชอบเรื่องตอนที่พ่อแม่ใบเฟิร์นเริ่มคบกัน” เด็กชายต้นกล้ากล่าวตามที่ได้ยินมา
“แต่ใบเฟิร์นไม่เห็นรู้เรื่องอะไรของคุณพ่อคุณแม่เลยนะ” เด็กน้อยเริ่มสงสัยในสิ่งที่เพื่อนของเธอพูด
“ถ้าใบเฟิร์นอยากรู้ก็ไปถามคุณพ่อกับคุณแม่ดูสิ” ต้นกล้ารีบแนะนำตามประสาเด็ก
“ใช่ๆ เดี๋ยวเย็นนี้เราจะถามคุณแม่ดู แล้วก็จะบอกด้วยว่าคุณแม่ของต้นกล้าปลื้มคุณพ่อกับคุณแม่เรามาก” เด็กน้อยกล่าวแววตาใส เธอตั้งมั่นไว้ว่าเย็นนี้เธอจะต้องกลับไปถามเรื่องนี้กับมารดาให้ได้ เด็กน้อยไม่เข้าใจเรื่องราวของผู้ใหญ่เท่าใดนัก แต่เมื่อเห็นว่ามีคนชื่นชมบิดามารดาถึงเรื่องราวความรักของทั้งคู่ เด็กน้อยจึงเกิดความสงสัยขึ้นในใจ
และเมื่อถึงเวลาเลิกเรียน เด็กน้อยก็กลับมาที่บ้านด้วยตามปกติ ด้วยความเป็นเด็กทำให้เด็กน้อยลืมไปเลยว่าเธอต้องถามถึงเรื่องของบิดามารดา เด็กหญิงณัชชายังคงวิ่งเล่นที่สนามกับพี่เลี้ยงของเธอ จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็น ก่อนที่เด็กน้อยจะเข้านอน
“ใบเฟิร์น นี่ตุ๊กตาของใครเหรอลูก” พิชชาเอ่ยถามเด็กน้อยด้วยความสงสัย เพราะปกติแล้ว เธอจะไม่ให้บุตรสาวรับของจากคนแปลกหน้า
“ของคุณแม่ต้นกล้าค่ะ เขาฝากมาให้ใบเฟิร์น” เด็กน้อยยังคงเจื้อยแจ้ว และไม่ได้นึกถึงเรื่องที่เธอจะถาม