“คนอย่างเราจะเอาอะไรไปตอบแทนเขาล่ะยาย” พิชชากล่าวประท้วงกับยายด้วยความไม่พอใจ
“งั้นก็เปลี่ยนเป็นเลี้ยงข้าวเย็นผมทุกวัน ซักหนึ่งเดือน แค่นี้ก็ถือว่าเราหายกัน” ภูผากล่าวเสียงเรียบ เขาไม่ได้ต้องการรับประทานอาหารที่บ้านของเธอ แต่แค่เขาต้องการให้เธอยอมให้เขาดูแลเธอระหว่างที่เธอต้องพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล
“ยายตกลง คุณภูผามากินที่บ้านได้เลย มากกว่าหนึ่งเดือนก็ได้นะ” นางพิมรีบตกลงแบบมัดมือชกหลานสาว เพราะถ้านางมองไม่ผิด ภูผาอาจจะมีใจให้หลานสาวนาง และถ้าไม่คว้าโอกาสดีๆ ที่จะได้ใกล้ชิดกับเศรษฐีเช่นภูผาไว้ หลานสาวของนางอาจจะไม่มีโอกาสนี้อีกเลย
“ยาย!!” พิชชาเอ่ยออกมาเสียงดังด้วยความไม่พอใจ ในขณะที่ภูผาได้แต่ยกยิ้มด้วยความพอใจ
“ไม่ต้องมาเรียก ยายตัดสินใจแล้ว” นางพิมหันไปกล่าวกับหลานสาว
“ในเมื่อยายพิมตอบตกลงแล้ว ความเห็นของคุณก็คงต้องตกไปนะคุณขวัญ” ภูผาหันไปกล่าวกับหญิสาวด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเธอมองว่าเป็นรอยยิ้มเยาะเธอ
“ก็ยายตกลงไปแล้ว แล้วฉันจะว่ายังไงได้ล่ะคะ” พิชชาค่อนขอดด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนคำสั่งประกาศิตของผู้เป็นยายได้
หลังจากวันนั้นหญิงสาวก็รักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลกว่าสองสัปดาห์ เพราะว่าเธอมีอาการซี่โครงหัก ทำให้ต้องพักรักษาตัวนานเป็นพิเศษ ซึ่งภูผาก็ยังมาเยี่ยมหญิงสาวทุกวัน ถึงแม้จะรู้ว่าเธอไม่ค่อยชอบหน้าเขาก็ตาม ยิ่งเธอทำท่าทางว่าเธฮไม่พอใจที่เขามาเยี่ยมเท่าใด เขาก็ยิ่งอยากจะแกล้งเธอเท่านั้น แล้วตอนนี้ยายพิมก็มาอยู่ฝั่งเขาเรียบร้อยแล้ว ทำให้พิชชาเป็นดังคนหัวเดียวกระเทียมลีบก็ไม่ปาน
และแล้ววันที่พิชชาดีใจที่สุดก็มาถึง เมื่อเธอจะได้กลับไปอยู่ที่บ้าน อย้างน้อยก็ไม่ต้องใช้เงินของเขาไปมากกว่านี้ แค่ยายเธอยอมรับเงินช่วยเหลือจากเขามากมาย พิชชาก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วเขาต้องมาจ่ายค่ารักษาเธอตั้งเท่าไหร่ ทั้งที่มันเป็นหน้าที่ของประกัน เธอก็ไม่รู้จะตอบแทนเขายังไงแล้ว
และที่สำคัญเมื่อภูผารู้ว่าหญิงสาวออกจากโรงพยาบาลวันนี้ เขาก็มาทำหน้าที่สารถีรับส่งเธอมาที่บ้านอย่างไม่รังเกียจ ยิ่งสร้างความอึดอัดใจให้กับหญิงสาว ในขณะที่ภูผานั้นก็ทราบดีว่าเธอไม่อยากให้เขาทำเช่นนั้น แต่เขาก็อยากที่จะแกล้งเธอ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่เห็นใบหน้าหวานของหญิงสาวงอเง้า เมื่อไม่พอใจอะไรสักอย่าง
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ กลับไปได้แล้วค่ะคุณภูผา” หญิงสาวรีบไล่ชายหนุ่มทันที
“ทำไมไปไล่คุณภูเขาแอย่างนั้นล่ะลูกคุณภูผาเขาอุตส่าห์มาส่ง” นางพิมเอ็ดหลานสาวตนเองทันที
“ก็มาส่งแล้วก็กลับไปสิคะ ขวัญเหนื่อยขวัญจะเข้าบ้านแล้วค่ะ” พิชชากล่าวอย่างไม่สนใจ สำหรับภูผาและยายพิมนั้นเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย จนเธอจะเป็นคนนอกอยู่แล้ว
“ปล่อยคุณขวัญเถอะครับยาย เขายังต้องเหม็นขี้หน้าผมอีกอย่างน้อยก็หนึ่งเดือน เพราะผมต้องแวะมากินข้าวที่นี่ทุกวัน” ชายหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะเดินกลับไปที่รถเพื่อกลับไปทำงานต่อ ในขณะที่หญิงสาวได้ยินสิ่งที่เขากล่าวเธอก็ได้แต่ฮึดฮัดอยู่คนเดียว ยายพิมได้แต่ส่ายหน้ากับพฤติกรรมของหลานสาว