หลังจากนอนโรงพยาบาลมาได้ถึงสองคืน คนที่อยู่นิ่งไม่ค่อยได้ ก็เตรียมตัวแล้วว่าจะกลับวันนี้ เขาไม่ยอมอยู่รักษาจนหาย เพราะเขาไม่ไว้ใจ แม้กระทั่งหมอที่อาจจัดการเขาได้ง่ายกว่าคนอื่น แม้ลูกน้องจะอยู่มากมาย แต่ภัยอันตรายก็ต้องป้องกันเสมอ กฎข้อเดียวในตอนนี้คือห้ามประมาท
Rrr Rrr Rrr
แต่ในตอนนั้นผู้ช่วยคนสนิท อย่างเป่าก็โทรเขามาพอดี ลูกน้องที่เฝ้าอยู่ตรงนั้น ก็เหลือบมองหน้ากัน เพราะก็พอเดาได้ ว่าที่มาเก๊าตอนนี้ ต้องมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นซักอย่าง
“นายครับเป่าโทรมา”
“อืม”
(เป่า : นายครับ ตอนนี้คุณหยางไปฝรั่งเศส จะกลับมาอีกที สองเดือนข้างหน้า)
“อะไรว่ะ มึงนัดล่วงหน้าไปนานแล้วไม่ใช่หรือไง” เขาสบถออกมาอย่างหงุดหงิด เนื่องจากหยางเจีย เป็นลูกค้ารายใหญ่ ที่เขาต้องดีลงานให้ได้ เพื่อขยายธุรกิจท่าเรือให้เติมโตยิ่งขึ้น
(เป่า : นัดแล้วครับนาย แต่เลขาของคุณหยางเพิ่งแจ้งมาเมื่อเช้านี้เอง)
“เออ! แล้วมีเรื่องอะไรนอกจากนี้อีกไหม”
(เป่า : เอ่อ...ครับ เมื่อคืนมีคนมาป่วนที่กาสิโน และเกิดการทะเลาะวิวาท จนแขกตกใจกลัวกันหมด)
“สัสเอ้ย แล้วจับตัวมันได้ไหม”
(เป่า : ไม่ได้เลยครับนาย มีแต่ลูกค้าที่บาดเจ็บสาหัส ส่วนไอ้คนที่มาป่วนมันหนีกันไปหมด)
“กูไม่อยู่แค่ไม่กี่วันมีแต่เรื่อง!”
(เป่า : เป็นคนของเหว่ยจางครับ)
“ไอ้พวกเหี้ย” เขาสบถออกมาด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะกดวางสายและทิ้งโทรศัพท์ลงบนเตียง
“ใจเย็นก่อนครับนาย เดี๋ยวแผลฉีก”
“กลับ!”
“นายไม่พักก่อนเหรอครับ ผมว่า”
“กลับ!” พูดจบร่างสูงก็ก้าวลงจากเตียง และเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุดทันที
ภายในกระจกใหญ่ที่หน้าเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า แววตาคมกวาดมองไปที่แผลผ่าตัด ตอนนี้ร่างกายเขาเต็มไปด้วยผ้าพันแผล มีความรู้สึกเจ็บตึงอยู่ตลอดเวลา จนนึกไปถึงว่าคงเป็นโชคดี ขนาดไม่ใช้เจ้าถิ่น เขายังสามารถรอดมาได้จนถึงตอนนี้
แต่อยู่ ๆ ในตอนนั้น ดวงตาสวยกลมโตดูมีเสน่ห์คู่นั้น ก็ผุดขึ้นมาในหัวเขา เธอและเขาจ้องตากันอย่างลืมตัว เขาไม่เคยมีจิตใจที่นึกถึงใครหรือจำใครได้ เท่าผู้หญิงคนนี้มาก่อน
“ยัยหมอตัวแสบ!”
ณ ห้างสรรพสินค้า
มาริกา Talk
“ฮัดชิ้ว!” ด้านหมอสาวที่กำลังนั่งทานข้าวในวันหยุด กับเพื่อนซี้อยู่ ก็รู้สึกคัดจมูกขึ้นมา
“เป็นอะไรของแกเนี่ยยัยหมอ” นกรีบถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนรักจามจนหน้าแดง
“ปะ...เปล่า ฝุ่นเยอะมั้ง”
“ก็ไม่นะ จามแบบไม่มีสาเหตุแบบนี้ หรือมีคนกำลังนินทาแกอยู่หรือเปล่า”
“บ้า ถ้าจะมีคนนินทาฉัน ก็คงมีแต่คนไข้เท่านั้นแหละ วัน ๆ ฉันเจอใครที่ไหน ขนาดพวกแก 2 คนก็เพิ่งได้เจอเนี่ยแหละ”
“ก็จริง ฉันว่านักธุรกิจอย่างพวกฉันงานยุ่งแล้ว หมออย่างแกไม่มีเวลามากกว่าอีก” รุ้งเพื่อนสนิทอีกคนก็พูดขึ้น
“ก็แหงสิ ฉันแทบไม่มีเวลาจริง ๆ แหละ ช่วงนี้รับเข้าเวรหมดเลย”
“แกเป็นหนี้ร้อยล้านหรือไง หาเวลาพักผ่อนไปเที่ยวบ้าง หาเงินอย่างเดียวไม่ได้ใช้ชีวิต”
“ตอนนี้หาได้ก็อยากหาก่อน ตอนไม่มี มันลำบากมากไง” เนื่องด้วยแต่ก่อนมีฐานะที่ไม่ค่อยดี มาริกาก็เลยต้องขัดเกลาตัวเอง เก็บหอมรอมริบมาโดยตลอด เพราะรู้ซึ้งดีว่าการไม่มีมันลำบากยังไง
“ฉันเข้าใจแก แต่ก็อยากให้แกได้มีชีวิตของตัวเองบ้าง”
“โอเค ฉันก็ว่าจะลาพักร้อนสักเดือนอยู่เหมือนกัน ให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อน” เป็นช่วงกอบโกยของเธอ ทั้งรับเคสทั้งรับขึ้นเวร ไม่หาตอนนี้จะหาตอนไหนล่ะรายได้ดีขนาดนี้
“ฉันเห็นด้วยกับยัยรุ้งนะ แกควรไปเที่ยวบ้าง ถ้าจะไปประเทศไหน เดี๋ยวฉันออกค่าตั๋วเครื่องบินให้เอง”
“ส่วนฉันออกค่าโรงแรม แกจะไปกี่วันฉันก็ไม่ติด”
“ใจเย็น พวกแกไม่ต้องใจดีกับฉันขนาดนั้นก็ได้ไหม ฉันยังไม่บอกเลยว่าตอนนี้”
“แล้วคุณหมอสุดหล่อ ว่าที่คู่หมั้นแกล่ะ ตอนนี้ความสัมพันธ์เป็นยังไงบ้าง” เนื่องจากพวกเธอทั้งสองก็รู้เรื่องนี้ด้วย ทีแรกก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน แต่พอเห็นว่าเพื่อนรัก กับผู้ชายคนนั้นก็ดูสนิทสนมกันดี ถึงแม้จะยังไม่รักกันตามที่บอกก็เถอะ แต่ก็คงแย่ถ้าได้ผู้ชายโปรไฟล์ดีขนาดนี้มาเป็นคู่ครอง เผื่อสักวันอาจจะรักกันได้
“ก็เรื่อย ๆ ช่วงนี้พี่หมอก็งานยุ่งมากเหมือนกัน ก็มีบินไปดูงานที่มาเก๊า นี่ก็เพิ่งกลับมา” คนที่เพื่อนเธอหมายถึง คือหมอกันต์ ‘นายแพยท์กันต์ อัคราคินน์’ ศัลยแพทย์หนุ่มสุดหล่อ ว่าที่คู่หมั้นในนามของเธอ
ซึ่งเรื่องราวระหว่างเธอกับเขา จะเกิดขึ้นแค่ในนามเท่านั้น เพราะทั้งคู่ไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกัน มากไปกว่าพี่น้อง เพียงแต่ที่ตกลงหมั้น เพราะความจำเป็นระหว่างตระกูลเขา พี่ต้องรับผิดชอบเธอ ด้วยที่มีอุดมการเดียวกัน คือไม่อยากแต่งงานมีครอบครัว ก็เลยตกลงกันได้ในเรื่องหมั้นแค่ในนาม โดยเต็มใจทั้งสองฝ่าย
“มาเก๊าเหรอ ที่นั่นก็สวยดีนะ อลังการมาก ๆ”
“ก็ต้องอลังการสิ เมืองกาสิโน” มาริกาได้เพียงแต่ส่ายหัวให้เพื่อนทั้งสอง ที่มักจะเชียร์อัพให้เธอไปเที่ยวเสมอ
“แล้วแกไม่อยากไปด้วยบ้างเหรอ กับพี่หมอแกอะ ไม่แน่ความสัมพันธ์อ่านจะดีต่อกันกว่านี้ก็ได้”
“เหอะ ไม่มีทาง อีกอย่างฉันก็ไม่ชอบที่นั่นด้วย จากที่พี่หมอเล่าให้ฟังวุ่นวายน่าดู” จากที่หมอกันต์เล่าให้ฟัง ทุกอย่างล้วนวุ่นวายไปหมด แค่คิดเธอก็ปวดหัวแล้ว
“แกยังไม่เคยไปเลย ไม่แน่แกอาจจะชอบก็ได้นะ”
“ใช่ เกลียดอะไรได้อย่างนั้น ไม่แน่อาจจับพลัดจับพลู ได้ไปอยู่ที่นั่นก็ได้ ระวังไม่ชอบอะไรจะได้อย่างนั้น”
“เหอะ ไม่มีทางอ่ะ ถ้าฉันจะได้ไปอยู่ ก็มีแต่ตำแหน่งผู้บริหารเท่านั้นแหละ” มาริกา พูดขึ้นอย่างติดตลก ตำแหน่งนี้สำหรับคนในตระกูล อัคราคินน์ เท่านั้นแหละ ซึ่งเธอก็ไม่ใช่ตัวจริง
หลังจากทานข้าวเสร็จ ทั้งสามคนก็แยกย้ายกันกลับ โดยห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ อยู่ใกล้กับโรงพยาบาล มาริกาที่ลืมของไว้ในห้องพัก ก็กะว่าจะแวะไปเอาของก่อนค่อยกลับบ้าน
แต่ในจังหวะนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นพอดี ปรากฏชื่อปลายสายเป็นอดีตแม่เลี้ยงของเธอ มาริกาถอนหายใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่เป็นจังหวะที่โทรศัพท์หล่นลงเท้าพอดี จึงเอื้อมตัวลงไปเพื่อจะเก็บมัน
เอี๊ยดดดดดด
“กรี๊ดดดดดด” หมอสาวตกใจสุดขีด ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นว่าเธอเกือบชนรถที่กำลังจะขับออกมาจากโรงพยาบาล โชคดีที่รถเบรคอัตโนมัติให้ ก็เลยยังไม่เกิดอุบัติเหตุใด ๆ
“นะ...นายครับ” วิทย์เรียกผู้เป็นนายด้วยความตกใจ เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายอะไรขึ้นอีก
“เหี้ยอะไรอีกว่ะ!” ร่างสูงที่นั่งอยู่บนรถสบถออกมา ดวงตาคมมีแวววิโรจน์ ช่วงนี้ดวงเขาคงจะตกจริง ๆ มีแต่เรื่องที่คาดไม่ถึง ตั้งแต่มาเหยียบที่เมืองไทย
“ลงไปดู” วิทย์สั่งคนขับรถ
“ครับ”
ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก
“คุณ ๆ” คนขับรถร่างกำยำ ก็เดินลงไปเคาะกระจกรถเจ้าปัญหา
“อะ...เอ่อ ขอโทษนะคะ พอดียังไม่ทันดู” หมอสาวลดกระจกลงมาเพียงครึ่ง ทั้งยังพูดเสียงสั่น เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เป็นจังหวะที่เธอกำลังควานหา โทรศัพท์ที่หล่นลงเท้า ในช่วงเวลาที่แป๊บเดียวเท่านั้น
“ขับรถแบบนี้อันตรายมากนะ ดีนะที่ยังไม่ชน” คนขับรถพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตำหนิ
“ขะ...ขอโทษจริง ๆ ค่ะ คนในรถเป็นอะไรไหมคะ” หมอสาวรู้สึกผิดมากขึ้น ทั้งยังถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไร แต่ขับรถแบบนี้ ผมจำเป็นต้องลงมาเตือน”
“เอ่อ ค่ะ ๆ” หมอสาวตอบเสียงสั่น
“แล้วต่อไประวังด้วยนะ”
“ค่ะ ๆ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะคะ” เมื่อพูดจบรถปอร์เช่สีขาวราคาแพงของเธอ ก็รีบขับไปด้วยความรู้สึกที่ขวัญเสีย มันเป็นความผิดของเธอจริง ๆ อย่างนี้แหละนะ ขับรถจะประมาทแม้แต่นาทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะมันอันตรายถึงชีวิต ทั้งยังโดนต่อว่าอีก
“ไม่มีอะไรแล้วครับนาย” คนขับรถเมื่อขึ้นมาในรถ ก็รีบก้มหัวให้เขา ด้วยที่รู้สึกผิดเหมือนกัน
“นายครับ รถคันเมื่อกี้คือหมอผู้หญิงคนนั้น” ฉินพูดขึ้น
“...” เธอเหรอ...