วันต่อมา
ณ โรงพยาบาลเอกชน KS
หมอสาวมาทำงานในเวลาเช้ากว่าปกติ เนื่องจากวันนี้มีนัดน้อง ๆ นักศึกษา คณะแพทยศาสตร์ ที่อยากมาคุยเรื่องเคสผ่าตัดกับเธอ
“สวัสดีค่ะหมอมิริน แต่งตัวสวยเลยนะคะวันนี้” พยาบาลอย่างดาว ก็รีบทักทันทีเมื่อหมอสาวเดินเข้ามา
“ขอบคุณค่ะพี่ดาว วันนี้มิรินมีนัดคุยกับน้องนักศึกษานิดหน่อย”
“หืม มิน่าล่ะถึงได้สวยขนาดนี้ พี่ละอิจฉา”
“หึ ไม่ต้องอิจฉาหรอกค่ะ แต่งแค่ในโรงพยาบาลเนี่ยแหละไม่ได้ไปไหนเลย”
“ไม่ออกไปปาร์ตี้หน่อยเหรอคะ”
“พักก่อนค่ะ เหนื่อย” หมอสาวทำท่าเหนื่อยอิดออด เพราะเธอก็ทำงานต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวันมาก จนคิดได้ว่า ต้องลาพักร้อนจริง ๆ สักหน่อยแล้ว
“จริงสิ เรื่องคนไข้ที่มาโวยวายวันนั้นเป็นยังไงบ้างคะ พี่ออกเวรก่อน คงจะยุ่งมาก”
“ใช่ค่ะ บ้าที่สุดเลย ขออย่าเจออีกก็พอ”
“นั่นน่ะสิคะ ถึงแม้เขาจะหล่อ แต่เขาก็ดูน่ากลัวและอันตราย”
“...” ก็จริง เขาหล่อมาก แต่เขาดูร้ายและอันตรายเกินไป สัญชาตญาณของเธอเตือนว่า อย่าไปอยู่ใกล้คนแบบนี้เด็ดขาด แต่ก็รู้สึกแปลกใจ ทำไมอยู่ดี ๆ นึกถึงเขาแล้วใจหวิว ๆ ก็ไม่รู้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญครับ”
“งานยุ่งมากเหรอคะช่วงนี้” หมอสาวเดินเข้าไปในห้องของว่าที่คู่หมั้นเธอ
“ไง ไม่เจอกันเป็นเดือนเลยนะ” เมื่อเห็นใบหน้าสวย เขาก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
“มิรินต้องพูดคำนี้กับพี่หมอไหมคะ”
หมอกันต์ อัคราคินน์ อายุ 29 ปี หมอศัลยแพทย์หนุ่มสุดหล่อ ทั้งเขายังมีดีกรีเป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาลเอกชน KS ที่เธอกำลังทำงานอยู่
“หึ่ม แล้วทำไมวันนี้มาหาพี่ได้” มือหนาก็ลูบหัวเธอเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู ทั้งรอยยิ้มหล่อนั้น มันยังทำให้เธอยิ้มตามได้
“ก็อยากมาหาบ้างไม่ได้เหรอคะ คนเขาอุตส่าห์คิดถึง”
“ดูพูดจาเข้า”
“อยากมาคุยด้วยนิดหน่อย พอดีเห็นว่าพี่หมอไม่มีผ่าตัดเหมือนกัน”
“ใช่วันนี้พี่ว่าง วันก่อนได้ข่าวว่าเจอคนไข้ โดนยิงมาแล้วโวยวายเหรอ” หมอหนุ่มถามขึ้น ด้วยหน้าตาที่ซีเรียส แฝงไปด้วยความไม่สบายใจ เพราะผู้ชายคนนั้นคือไอ้นนท์น้องชายของเขา
“ค่ะ! แต่ช่างเถอะ ก็แค่คนบ้า” เธอตอบออกไปอย่างเบื่อหน่าย เขาทั้งไม่มีมารยาท และบ้าที่สุด
“คนบ้า?”
“ค่ะ มิรินไม่อยากนึกถึงคนไข้แบบนั้นอีก คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ร้ายกาจที่สุด ถ้าไม่ติดว่าตัวเองเป็นหมอนะ มิรินคงเอากรรไกรผ่าตัด ตัดแผลฉีกไปแล้ว ให้สมกับความปากดี”
“ฮ่า ๆ” เมื่อได้ยินแบบนั้น หมอหนุ่มก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ปกติแล้วไอ้น้องชายจอมรั้นของเขา ไปอยู่ที่ไหนก็มีแต่ผู้หญิงชอบและอยากได้ แต่ดูสิ่งที่หมอสาวคนสวยพูดถึงสิ จะฆ่ามันให้ตายชัด ๆ
“พี่หมอขำอะไรคะ นี่มิรินกำลังซีเรียสนะ” เธอทำหน้างอง้ำ เมื่อหมอรุ่นพี่ หัวเราะเหมือนเป็นเรื่องตลกมาก
“พี่ไม่เคยเห็นมิรินพูดถึงใครแบบนี้ไง หมอมิรินที่น่ารักแสนดี ถึงขั้นอยากเอากรรไกรตัดแผลคนไข้ คนนั้นต้องขนาดไหน”
“ก็มันจริงนี่คะ โวยวายบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของโรงพยาบาล แล้วจะไม่ให้มิรินผ่าตัดให้ จะผ่าตัดแค่กับหมอผู้ชายเท่านั้น เรียกหาพี่หมอด้วย”
“ใช่ พี่ดาวเล่าให้พี่ฟังแล้ว”
“แบบนี้ไม่ได้นะคะพี่หมอ คิดว่าตัวเองเป็นใคร ยิ่งใหญ่มาจากไหน มีลูกน้องมากมาย ถึงกล้ามาแอบอ้างแบบนั้นได้ พี่หมออย่าไปยอมนะ เดี๋ยวจะเสียหายถึงโรงพยาบาล”
“คือผู้ชายคนนั้น...”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตค่ะ หมอมิรินคะ นักศึกษาแพทย์ที่นัดไว้มาถึงแล้วค่ะ” ในตอนนั้นพยาบาลหน้าห้องก็เดินเข้ามาตามพอดี
“ค่ะ ๆ แจ้งให้ไปรอที่ห้องประชุมเล็กได้เลยค่ะ มิรินกำลังไป”
“ค่ะ”
“ถ้าอย่างงั้นมิรินขอตัวก่อนนะคะพี่หมอ ไว้ว่างแล้วเดี๋ยวมิรินมาคุยด้วยใหม่”
“โอเค ส่วนเรื่องผู้ชายคนนั้นเขา...”
“ช่างเถอะค่ะพี่หมอ คนบ้าแบบนั้น มิรินไม่อยากพูดถึงอีกแล้ว สวัสดีค่ะ” พูดจบหมอสาวก็รีบเดินออกจากห้องไป
ที่ไม่อยากพูดถึงอีก ก็เพราะคนแบบนั้นเธอคงไม่เจอเขาอีกแล้ว คงไม่มีใครโชคร้ายโดนยิงซ้ำยิงซ้อนหรอกนะ
‘มาเฟียเถื่อน!’
“เฮ้อ ไอ้นนท์” เมื่อเรื่องราวเป็นแบบนี้ ก็รีบต่อสายหาคนที่บ้านของไอ้น้องชายตัวดีทันที ด้วยที่โทรหาแล้วมันไม่ยอมรับโทรศัพท์เขา
ชินกร Talk
ร่างสูงคิ้วขมวด หลังดูภาพจากกล้องวงจรปิด มันเป็นอีกเรื่องที่เขาแทบไม่เชื่อ หมอประจำตัวที่เขาไว้ใจให้ดูแล ตอนนี้มันกลับเป็นคนที่ทรยศและหักหลัง ซึ่งเขาเกลียดคนแบบนี้ที่สุด
“อย่าพึ่งทำอะไรมัน”
“แต่นายครับ”
“กูจะเลี้ยงงูเห่า”
“ครับ”
Rrr Rrr Rrr
“นายครับ คุณกันต์โทรมา”
“อืม” เมื่อตอบรับแล้วลูกน้องคนสนิทก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ และเขาก็มีสีหน้าที่ผ่อนปลงลง เพราะไม่อยากให้คนอื่นรับรู้ปัญหาด้านนี้มากนัก มันจะนำมาซึ่งความเป็นห่วง
“ถ้ากูจะตายนี่กูตายไปแล้วนะ” ทันทีที่กดรับสาย เขาก็โหวกเหวกโวยวายขึ้นทันที
(กันต์ : เออ อย่างน้อยกูก็รู้แล้วว่าตอนนี้มึงยังไม่ตาย) ปลายสายมีน้ำเสียงที่ผ่อนคลายลง เมื่อรู้ว่าน้องชาย ยังปากดีอยู่เหมือนเดิม
“ไอ้เหี้ยเฮีย กูโดนยิงเกือบตาย โดนกระสุนที่ไหล่เต็ม ๆ โทรหามึงเป็นสิบ ๆ สายก็ไม่รับ” เป็นอีกเรื่องที่เขาเคือง
(กันต์ : กูไม่สบาย นอนซมพิษไข้อยู่ แล้วใครจะรู้ว่ามึงกลับมาถึงเมืองไทยวันแรก ก็โดนเล่นซะงั้น)
“ก็แค่ไอ้พวกหมาลอบกัด” ไอ้เหี้ยพวกนี้ ก็ทำได้แค่นี้แหละ
(กันต์ : หมาลอบกัด ที่ยิงมึงเลือดอาบ จนไปโหวกเหวกโวยวายที่โรงพยาบาลเนี่ยนะ)
“ก็ตอนนั้นมันโมโหไงเฮีย กูไม่อยากให้ใครผ่าตัดให้ถ้าไม่ใช่มึง”
(กันต์ : หมอที่โรงพยาบาลมีแต่คนเก่ง ๆ มึงรอดตายมาได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว)
“กว่าจะรอดกูก็เกือบตาย ไล่ออกเลยนะหมอผู้หญิง คนที่ผ่าตัดให้กู” เมื่อนึกถึงก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอีก เธอคือผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขาดูแย่
(กันต์ : มิริน?)
“เออ จะชื่ออะไรก็แล้วแต่ มึงไล่ออกวันนี้เลยนะเฮีย ไม่เอาหมอคนนี้อยู่โรงพยาบาลเราเด็ดขาด”
(กันต์ : มึงใจเย็นก่อน ปกติมิรินใจดีใจเย็นจะตาย มึงไปทำอะไรไว้ก่อน ถึงได้เป็นแบบนั้น)
“เฮีย! นี่กูน้องมึงนะ”
(กันต์ : ก็เพราะมึงเป็นน้องกูไง กูถึงได้เตือนสติ เขาคุยกันทั้งโรงพยาบาล ว่ามึงไปโหวกเหวกโวยวาย ทำเรื่องขนาดนั้นมึงไม่อายหรือไง) กันต์รู้ดีว่าไอ้นนท์หัวร้อนแค่ไหน แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะบ้าได้ขนาดนี้
“ก็...” ตอนนั้นก็ไม่อายหรอกเพราะมันเจ็บ และรู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เพราะหมอผู้หญิงคนนั้นคนเดียว ที่ทำให้เขาดูแย่ แต่ตอนนี้เมื่อย้อนกลับไป เขาคงไม่กล้าไปโรงพยาบาลอีกแล้ว มันมารู้สึกอายเอาตอนนี้
(กันต์ : แล้วนี่มึงไม่พักรักษาตัวก่อนเหรอ มึงจะรีบกลับบ้านไปทำไม)
“กูไม่อยากอยู่โรงพยาบาล มึงรู้ไหมเฮีย ยัยหมอคนนั้น มันฉีดยานอนหลับให้กู ฉีดทั้งที่กูยังมีสติอยู่” เป็นอีกเรื่องที่เขาเจ็บใจ ชีวิตเขาเคยโดนเข็มตอนมีสติแบบนี้ที่ไหน แล้วก็ไม่คิดว่าเธอจะเล่นทีเผลอ ฉีดยาให้เขาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว มารู้ตัวอีกทีก็หมดสติไปแล้วอย่างน่าอาย
(กันต์ : ฮ่า ๆ) ปลายสายหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง อย่างชอบใจ เพราะกันต์เองก็รู้ดีว่าไอ้น้องชายตัวดีมันกลัวเข็มขนาดไหน ตั้งแต่เกิดมา มันแทบไม่เคยโดนฉีดยาทั้งที่ยังเป็นอยู่แบบนี้ มันต้องหลับก่อนเท่านั้นถึงจะฉีดยาให้มันได้ แต่ดูแล้วหมอมิรินคงแสบกับมันมากเหมือนกัน คงจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันละมั้งคู่นี้
“มึงหยุดหัวเราะเลยนะเฮีย เรื่องนี้กูซีเรียส”
(กันต์ : เออ มึงก็หุบปากแล้วพักผ่อนได้แล้ว อย่าก่อเรื่องให้วุ่นวายอีก โตเป็นควายแล้ว) แล้วก็ได้แต่บ่นในความใจร้อนของไอ้น้องชายตัวดี ก็ไม่รู้จะทำยังไงกับมันเหมือนกัน