(ทอย)
7.21 pm.
(แล้วห้องเป็นไงบ้างถูกใจเลยใช่ไหม?)
"ดีครับห้องครัวใหญ่ดี"
(เออกูล่ะยอมจริงๆ หาคอนโดดีๆให้เลือกเป็นแสนแต่มาเลือกคอนโดที่ห้องครัวใหญ่)
"ประธานมีอะไรอีกไหมครับผมกำลังปาดหน้าเค้ก"
(โถ่ถังนายคงจะรำคาญพี่ชายคนนี้มากสินะเรียกซะห่างเหิน)
"ก็ผมยุ่งแล้วพี่ทำไมชอบโทรมากวนจัง เหงามากรึไง"
(เหงาดิปกติอากาศดีๆเหมือนฝนจะตกแบบนี้ต้องได้นั่งจิบเบียร์กับน้องรักแล้ว แต่นี่กลับมานอนเหงาอยู่บริษัทเพราะเด็กมันแยกออกไปนอนคอนโด)
"ก็ผมต้องเรียน แค่นี้นะพี่เจย์ผมอยากทำเค้กแล้ว"
(ทำแล้วใครจะกิน?)
ผมถอนหายใจและขยับยืนตรงหลังจากพยายามปาดครีมเค้กด้วยมือเดียว ส่วนมืออีกข้างก็กำลังจับโทรศัพท์แนบหูตัวเองอยู่ แล้ววันนี้พี่เจย์เป็นอะไรทำไมเขาทำตัวน่ารำคาญได้ขนาดนี้นะ
"กะจะให้ผู้จัดการครับเขามีลูกเดี๋ยวก็คงเอาไปให้ลูกกินพอใจพี่รึยัง?"
(ไม่หาคนมาช่วยชิมล่ะในเมื่อตัวเองชอบทำเค้กแต่ไม่ชอบกิน อย่างน้อยไปเรียนทั้งทีก็หาเพื่อนไว้บ้างสิทอย ให้ตาย..พี่ได้ยินผู้จัดการเล่าว่านายไปเรียนก็กลับมาอยู่ห้องแล้วก็รอไปทำงานแล้วแบบนี้มันจะหายเบื่อได้ไง)
"แค่ผมทำเค้กก็หายเบื่อแล้ว"
(ไม่เหมือนกันหรอกนะ)
"ผมก็แค่ชอบอยู่คนเดียว"
(ไม่เชื่อหรอก ไม่ก็เอาขนมไปให้น้องเก้าสิพ่อหนุ่มนักรัก)
"ผมว่าผู้จัดการชักจะคุยกับพี่มากเกินไปแล้วนะ"
(ฮ่าๆ จะอายอะไรเรื่องธรรมดาไหมล่ะ)
"ไม่ควรเอาชื่อเขามาพูดมันไม่ดี จะพูดอะไรก็ให้เกียรติคนอื่นด้วยผมขอล่ะ"
(เฮ้อ โอเคๆพี่ขอโทษๆ แต่ที่แซวเพราะเป็นห่วงแกจริงๆเพราะงั้นหาเพื่อนซะเข้าใจไหม)
ผมถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
"ไม่ครับ"
(ถ้าเอาแต่ตอบว่าไม่จะเพิ่มงานให้ไม่ได้มีเวลาว่างทำเค้กเลย)
"แม่ง"
(ห๊ะ อะไรนะเมื่อกี้แกสบถใส่ฉันเหรอไอ้ลูก..)
พรึบ
โทรศัพท์ในมือถูกผมทิ้งไปไกล ก่อนจะหันมาปาดครีมใส่ตัวเค้กอีกครั้งผมถอนหายใจพลางหมุนจานรองไปมาเพื่อดูเค้กที่ตัวเองตั้งใจให้มันเป็นสีรุ้งด้วยความพอใจ แม้จะเพิ่งคุยกับคนที่ทำให้อารมณ์เสียเสร็จไปเมื่อกี้
"ดูดีใช้ได้เลยนี่"
ผมยกยิ้มมุมปากมองเค้กขนาดครึ่งปอนด์ฝีมือตัวเองด้วยความชอบใจ ก่อนจะหันกลับมามองห้องรับแขกขนาดปานกลางที่ตอนนี้ยังมีพวกกล่องใส่ของวางระเกะระกะอยู่ตามพื้นห้อง เพราะผมเพิ่งจะย้ายเข้ามาไม่ถึงสองวันด้วยซ้ำ
แต่ที่ตัดสินใจเอาคอนโดที่นี่เพราะห้องครัวจริงๆแหละ สไตล์มันถูกใจผมแถมยังมีของแถมเป็นพวกอุปกรณ์สำหรับทำอาหารและขนมแบบครบอีก แล้วที่ผมรู้เพราะผมเห็นจากห้องของน้องนับเก้าวันที่ผมไปนอนกับเธอนั่นแหละ..เมื่อตอนบ่ายเธอคงตกใจไม่ใช่น้อยที่ได้รู้ว่าผมอยู่ที่นี่แถมเราจะมีปัญหาไม่ลงรอยกันอีก
'ถ้าพี่สงสารเพียงเพราะเห็นว่าเก้าเพิ่งเลิกกับแฟนคือพี่ไม่ต้องมาสงสารกันหรอกค่ะ'
พอได้ยืนคิดอะไรคนเดียวบทสนทนาระหว่างผมกับน้องก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง แต่ว่าก็ว่าผมไม่ได้รู้สึกสงสารเธอเลยสักนิด แต่คำพูดที่ผมพูดออกไปมันคงตรงเกินไป จริงๆผมรู้ว่าเธอไม่โอเค แต่ทำเป็นเหมือนว่าทุกอย่างโอเคจนผมรู้สึกหงุดหงิดน่ะ เพราะเธอดันเหมือนใครอีกคนเอามากๆจนทำให้ผมนึกถึงอีกครั้ง
"อย่างน้อยก็ควรไปขอโทษน่ะนะ"
ผมพึมพำกับตัวเองเสียงเบาก่อนจะหันมองเค้กก้อนที่ตัวเองเพิ่งทำเสร็จอีกครั้ง และใช่ผมเลือกที่จะเดินไปเอาเค้กใส่กล่องมากกว่าที่จะจัดข้าวของตัวเอง เพราะตอนนี้ยังขี้เกียจอยู่
ตอนนี้ไม่มีอารมณ์อยากจัดของสักเท่าไหร่น่ะนะ
(นับเก้า)
8.12 pm.
(แล้วเมื่อไรพี่เก้าจะกลับบ้านสักทีมาเฟียคิดถึงจะแย่)
"เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ก็กลับแล้วพี่สัญญาเลย"
(พี่ซื้อขนมมาฝากเราเยอะๆนะคะ)
"จ้าๆ แล้วนี่ทำไมเด็กสองคนนี้ไม่นอนคะแม่พรุ่งนี้ไม่ต้องไปเรียนรึไง?"
ฉันเลิกคิ้วมองผ่านกล้องไปที่แม่ตัวเองด้วยความสงสัยระหว่างที่เรากำลังวิดิโอคอลกันอยู่ แม่ยิ้มให้บางๆและมองสองแฝดที่กำลังนั่งวาดรูปกันอยู่
(สองคนนี้บอกว่าจะรอคุยกับพี่สาวก่อนนอนน่ะเลยไม่ยอมนอนกัน)
"หึ้ย รู้งี้เก้ารีบคอลหาแม่ดีกว่าอ่ะน้องเลยได้นอนดึกเลย"
(ไม่เป็นไรๆเดี๋ยวแม่ก็กะจะพานอนแล้วล่ะ แล้ววันจะกลับบ้านจะให้ไปรับไหม?)
"อืม ชวนพ่อมาหาอะไรอร่อยๆกินในเมืองไหมล่ะแม่อีกอย่างน้องๆจะได้กินขนมที่อยากกินด้วย"
(ก็ดีนะ พ่อว่าไงพรุ่งนี้อยากเข้าเมืองไหมจะได้ไปรับลูกด้วย?)
ฉันเลิกคิ้วมองแม่ที่เงยหน้าไปถามพ่อ ก่อนร่างสูงคุ้นตาจะเดินเข้ามาในกล้องและเท้าแขนกับโซฟามองฉันด้วยรอยยิ้ม
"มาไหมคะพ่อ?"
(อยากให้พ่อไปหาล่ะสิ)
"ก็อยากสิคะ แล้วพ่อไม่อยากมารึไง?"
(พ่อไม่มีปัญหาอยู่แล้ว งั้นพรุ่งนี้เราจะไปรับพี่ใหญ่กันดีไหมเด็กๆ)
(ดีเลยครับ!/ดีเลยค่าา)
ฉันยิ้มกว้างมองน้องๆที่เงยหน้ามาตอบด้วยความดีใจ แต่พอเห็นเด็กๆแล้วอยากจะหยิกแก้มชะมัด
"พี่จะหยิกแก้มให้หนำใจเลย"
(ไม่เอานะพี่เก้ามันเจ็บ!/ฮ่าๆ)
มาเฟียลุกขึ้นมามองแรงฉันทันทีที่ฉันพูดออกไปแบบนั้นด้วยความมันเขี้ยวก่อนเราจะตกลงเรื่องเวลากันอีกนิดแม่เลยขอวางเพื่อจะได้พาน้องๆไปนอน ส่วนฉันก็จะได้เตรียมจัดกระเป๋าเพื่อกลับบ้านในวันหยุดยาวที่จะถึงนี้ คิดแล้วก็คิดถึงเด็กชะมัด!
ติ่งต่อง
เสียงออดทำให้ฉันที่กำลังนั่งพับผ้าต้องวางมือ และเดินขมวดคิ้วไปส่องตาแมวว่าใครมากดก่อนจะต้องเบิกตามอง เพราะไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าตอนนี้พี่ทอยกำลังยืนอยู่หน้าห้อง ฉันเม้มปากมองบานประตูอย่างชั่งใจ แต่สุดท้ายก็เอื้อมมือไปบิดลูกบิดและเปิดมันออกช้าๆ
"ขอโทษที่มารบกวนตอนนี้"
ฉันพยักหน้าและเงยหน้ามองพี่ทอยด้วยความสงสัย
"มีอะไรเหรอคะ?"
"เอาเค้กมาให้น่ะ"
ฉันก้มมองกล่องเค้กที่พี่ทอยยื่นมาตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ เพราะก่อนหน้านี้ฉันบอกเขาไปแล้วนี่ว่ายังไงก็ไม่เอา ฉันเงยหน้ามองพี่ทอยอีกครั้งขณะที่เขากำลังเลิกคิ้วมองมาด้วยความสงสัย
"อ่อ อีกเรื่องคือมาขอโทษเรื่องเมื่อตอนเย็นด้วยน่ะ..พี่ชอบพูดอะไรไม่คิดไปหน่อย"
"เอ่อ.."
"ถือเป็นของแทนคำขอโทษนะ"
พี่ทอยยื่นกล่องมาใกล้ฉันเรื่อยๆจนฉันต้องเอื้อมมือไปรับและหรี่ตามองเค้กสีสันน่ารักในกล่อง ก่อนจะเงยหน้ามองพี่ทอยอีกครั้ง
"พี่ทำเองเลยเหรอคะ?"
"ยังไม่เชื่ออีกเหรองั้นไปดูที่ห้องไหมล่ะ..อ่าแต่ยังไม่ได้จัดของน่ะนะ"
"เอ่อ ขอโทษค่ะยังไงก็ขอบคุณมาก"
"ครับ"
พี่ทอยพยักหน้าและเดินหันหลังเตรียมเดินไปจากห้องฉัน
"พี่ทอยคะ!"
เขาหันกลับมาอีกครั้งหลังจากฉันตัดสินใจเรียกไป
"เก้าก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่พูดอะไรใช้อารมณ์ไป"
คนตรงหน้าฉันยกยิ้มก่อนจะพยักหน้าตอบ ขณะที่ฉันกำลังมองเขาอยู่ด้วยความประหม่า
"เห็นพี่บอกว่ายังไม่จัดของ คือพี่เพิ่งย้ายมาเหรอคะ?"
"ใช่ครับ เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อสองวันก่อน"
"อ่อ"
"ยังไงถ้ากินแล้วก็บอกด้วยล่ะว่ามันอร่อยไหม"
"ได้เลยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ"
"ครับ"
ฉันก้มหัวให้พี่ทอยที่เดินออกไปจนลับสายตาก่อนจะก้มมองกล่องเค้กในมือตัวเองอีกครั้ง เพราะไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าเขาทำมันจริงๆ
แกร๊ง
ฉันปิดประตูห้องและเดินเข้ามาวางกล่องที่บาร์ในครัวก่อนจะจัดการแกะกล่องเค้ก และมองก้อนเค้กสีสันสวยงามตรงหน้า มันละมุนมากจนไม่กล้าจะกินเลยอ่ะ ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่เพราะกลิ่นหอมอ่อนๆที่โชยมาจากเค้กจนอดไม่ได้ที่จะไปหยิบมีดมาตัดเป็นทรงสามเหลี่ยมใส่จานและหยิบส้อมมาตักเข้าปาก
"อื้อ!"
อร่อยมาก! สีสันว่าละมุนแล้วแต่พอกินเข้าไปเนื้อเค้กแทบจะละลายในปากเลยอ่ะ แถมยังมีวิปครีมเป็นไส้อีก รสชาติทุกอย่างมันเข้ากันซะจนฉันต้องตักกินอีกรอบและยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"นี่มันอร่อยมากๆเลยนี่"
อร่อยจนไม่อยากกินหมดเลยอ่ะ ฉันอยากให้เด็กๆได้มากินด้วยจัง..ฉันคิดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะจัดการเก็บเค้กส่วนที่เหลือใส่กล่องเอาเข้าตู้เย็น ก่อนจะกลับมายืนกินเค้กที่เหลือในส่วนของตัวเองจนหมดและกลับไปพับผ้าต่ออย่างอารมณ์ดีไม่หาย
แค่ว่าพี่ทอยทำเค้กเป็นก็ไม่น่าเชื่อจะตายแล้ว แต่นี่กลับทำอร่อยด้วยนี่สิยิ่งน่าทึ่งไปใหญ่คนอะไรมีความสามารถจริงๆ
4.36 pm.
"พี่เก้า!!"
"มาแล้วพี่มาแล้วเด็กๆของพี่"
ฉันยิ้มกว้างพร้อมเดินไปกอดน้องทั้งสองที่วิ่งเข้ามากอดฉันซะแน่นจนแทบจะหายใจไม่ออก แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็เต็มใจให้น้องๆรัดคอน่ะนะ
"พ่อกับแม่มานานยังคะ?"
ฉันเงยหน้ามองพ่อกับแม่ที่กำลังนั่งจิบชากันอยู่ที่โต๊ะกินข้าวด้วยความสงสัย เพราะพวกเขามาถึงก่อนฉันจะเรียนเสร็จฉันเลยให้พวกเขามารอที่คอนโดแทน
"ก็ชั่วโมงกว่าๆได้เนาะพ่อเนาะ"
"ใช่ เด็กๆอยากกินขนมจะตายแล้ว"
"เอ้านี่ไม่เห็นเค้กในตู้เหรอคะ?"
"เห็นค่ะพี่เก้า แต่คุณแม่ไม่ให้กินมันเสียมารยาท"
"หนูก็ลืมบอกด้วยแหละว่าเอาไว้ให้"
ฉันลูบหัวเด็กหญิงวิเวียนน้องสาวที่ตอนนี้อยู่ป.4 ของฉันด้วยความเอ็นดูขณะที่เด็กชายมาเฟียที่ตอนนี้อยู่ปอ.4 เหมือนกันวิ่งไปเกาะตู้เย็นรอแล้ว พอดีที่ฉันมีน้องที่เด็กกว่าฉันมากเพราะว่าพ่อแม่รักกันมากซะจนไม่คิดว่าจะมีลูกอีกตอนที่อายุสี่สิบกว่าน่ะสิ แต่พอมีก็มีซะเด็กแฝดเลย
"วิเวียนแอบเปิดดูด้วยค่ะพี่เก้ามันสวยมากเลย"
"ใช่ๆ มาเฟียอยากกินเร็วๆ"
"ใจเย็นๆนะได้กินแน่นอน แต่ตอนนี้ไปล้างมือแล้วไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนเข้าใจไหมเด็กๆ"
"ค่า/ครับผม!"
เด็กแฝดรีบวิ่งไปล้างมือและไปนั่งรอที่โต๊ะกับพ่อและแม่อย่างว่าง่ายฉันจึงจัดการแบ่งขนมเค้กให้ได้สัดส่วนที่เท่ากันก่อนจะเอาไปวางให้เด็กๆกิน โดยไม่ลืมที่จะให้พ่อกับแม่กินด้วย
"อร่อยมากเลยนิไปซื้อมาจากไหนล่ะ?"
แม่เลิกคิ้วมองฉันหลังจากพ่อตักป้อนให้แม่ชิมก่อนทั้งที่ช้อนก็ให้ไปถึงสองอัน..ให้ตายหวานได้ตลอดจริงๆ
"เพื่อนทำมาให้น่ะค่ะ"
"เสียดายถ้ารู้ว่าร้านไหนทำแม่จะซื้อกลับบ้านไปฝากย่าสักหน่อย"
"เดี๋ยวเก้าจะถามเพื่อนนะคะว่าจะทำขายไหม เพราะเขาทำอร่อยจริงๆ"
"เขาเหรอ?" พ่อหรี่ตามองฉันด้วยความสงสัย "ผู้ชายทำเค้กเหรอ?"
"ค่ะพ่อ ตอนแรกเก้าก็ไม่อยากจะเชื่อแต่เขาทำจริงๆ"
"เออผู้ชายสมัยนี้มากความสามารถ"
"ผู้หญิงก็เหมือนกันแหละพ่อ"
"ฮ่าๆ แน่นอนจ๊ะแม่จ๋า"
ฉันยิ้มขำกับพ่อและแม่ก่อนจะมองน้องๆที่กำลังตั้งหน้าตั้งตากินจนหมดในพริบตา และเลยไปกินของพ่อกับแม่ต่อแทน
"อืมว่าแล้วเก้าไม่ชวนออแกนไปกินข้าวด้วยกันเหรอลูกแม่ไม่ได้เจอออแกนมานานแล้วแม่ล่ะคิดถึง"
ฉันที่กำลังมองน้องกินด้วยรอยยิ้มกลับต้องชะงักทันทีหลังแม่ถามแบบนั้น เพราะตัวเองก็ยังไม่คิดเลยว่าจะบอกยังไงแต่ถ้ามันได้มาขนาดนี้แล้วฉันก็ไม่อยากจะปิดน่ะ
"เราเลิกกันแล้วน่ะค่ะ"
แม่เบิกตากว้างด้วยความตกใจไม่ต่างจากพ่อที่เงียบไปเลย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็เลือกที่จะยิ้มให้พ่อกับแม่แทนเหมือนว่ามันไม่ได้เป็นอะไรมาก..
"หนูโอเคค่ะแม่เราเลิกกันด้วยดี"
ฉันลูบหัวมาเฟียและวิเวียนมองเด็กทั้งสองกินอย่างเอร็ดอร่อยต่อท่ามกลางสายตาของพ่อแม่ที่มองมาด้วยความเป็นห่วง จริงๆฉันก็ไม่อยากจะบอกหรอกแต่มาถึงขั้นนี้แล้วปิดไปมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรน่ะนะ