ในเวลาเดียวกัน ทางฝั่งของช่อแก้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ช่อแก้วก็ดึงสมาธิตัวเองให้กลับมาจดจ่ออยู่กับการทำขนมของเธอต่ออย่างเต็มที่ วันนี้ลูกค้าที่ร้านเธอเยอะเป็นพิเศษ ทำให้เธอต้องหัวหมุนกับการอบขนมและจัดเตรียมเมนูต่างๆ อย่างไม่หยุดหย่อน เพราะร้านขนมของเธอเน้นการขายแบบเพิ่งออกจากเตาใหม่ๆ นั่นจึงทำให้เธอต้องง่วนอยู่กับสิ่งนี้เกือบตลอดทั้งวัน จะมีโอกาสออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้างก็แค่ตอนที่เธอต้องยกถาดขนมที่ร้อนระอุออกมาจัดเรียงที่หน้าร้าน หรือไม่ก็เป็นช่วงตอนที่ขนมกำลังถูกอบอยู่ในเตาซึ่งเป็นเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น
“วันนี้ลูกค้าเยอะทั้งวันเลย ช่อขอโทษนะคะที่ทำให้พี่เขตต้องมาเหนื่อยด้วย ทั้งที่วันนี้มันเป็นวันหยุดพักผ่อนของพี่แท้ ๆ ช่อรู้สึกผิดจริง ๆ ค่ะ”
หนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะถึงเวลาปิดร้าน ช่อแก้วที่ทำการปิดใช้งานเตาทำขนมแล้ว ก็รีบมาเอ่ยขอโทษแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เธอไม่ได้มีเจตนาอยากใช้งานเขตแบบนี้เลยแม้แต่น้อย
“เรื่องเล็กน้อยน่ะช่อ พี่เต็มใจมาช่วยช่อนี่นา ไม่ได้เหนื่อยอะไรเลย”
เขตที่กำลังยืนประจำอยู่ตรงตำแหน่งคิดเงินตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ เหมือนไม่ได้มองว่าสิ่งนี้มันเป็นเรื่องใหญ่อะไร เขาเพียงแค่ยิ้มตอบกลับไปอย่างใจดี จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาอีก คล้ายเพิ่งฉุกคิดอะไรบางอย่างได้
“แต่จะว่าไปแล้ว พี่เองก็อยากได้ค่าตอบแทนจากช่ออยู่นะ” เขตพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ราวกับมีแผนการบางอย่าง
ช่อแก้วไม่รู้ว่าแฟนหนุ่มพูดจริงจังหรือก็แค่เย้าแหย่เธอเล่นเท่านั้น แต่ไม่ว่ายังไง เธอจะถือว่าเขาพูดจริง เนื่องจากเธอไม่มีเจตนาคิดจะเอาเปรียบเขาอยู่แล้ว อีกทั้งยังรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องมาเหนื่อยในวันหยุด
“พี่เขตอยากได้เป็นอะไรดีคะ จะเอาเป็นเงินค่าแรงหรือเอาเป็นอะไรดี บอกช่อได้เลยนะ ช่อจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ” ช่อแก้วเอ่ยถามแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นและจริงจังกว่าที่คิด และคำพูดเหล่านั้นของเธอมันก็ทำให้เขตยิ้มกว้างออกมาโดยพลันอย่างพึงพอใจ
“ข้าวครับ” เขตตอบกลับมาสั้น ๆ แต่กลับทำให้ช่อแก้วเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“คะ? ข้าวเหรอคะ” ช่อแก้วยังคงงุนงงเล็กน้อยกับคำตอบที่เรียบง่ายนั้น
“ครับ ถ้าปิดร้านแล้ว...พี่อยากให้ช่อไปทานข้าวกับพี่ ช่อไปด้วยกันนะ”
สาเหตุที่ทำให้เขตขออะไรที่ค่อนข้างเรียบง่ายเช่นนี้ ก็น่าจะเป็นเพราะเธอกับเขาไปไหนมาไหนด้วยกันแทบนับครั้งได้ ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่เขตที่มาหาเธอที่ร้าน และไม่ค่อยได้ออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ด้วยกันเลย
“ได้สิคะ เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวครั้งนี้ช่อเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวเย็นพี่เขตเองนะคะ ถือเป็นการตอบแทนที่พี่เขตมาช่วยช่อในวันนี้ค่ะ” ช่อแก้วรีบตอบรับอย่างยินดี
ช่อแก้วคิดว่าสาเหตุที่ทำให้แฟนหนุ่มร้องขอสิ่งนี้จากเธอ มันคงเป็นเพราะเขาอยากใช้เวลาร่วมกันบ้าง อยากสร้างความทรงจำดี ๆ ด้วยกัน ดังนั้นแทนที่เธอจะเอาแต่บ่ายเบี่ยงด้วยข้ออ้างที่ว่าเธอเหนื่อย อีกทั้งก่อนหน้านี้เธอก็รู้สึกผิดกับเขาอยู่แล้ว เธอจึงเลือกที่จะตอบรับคำชวนของเขาในทันที ถือเสียว่าทำหน้าที่แฟนที่ดีคนหนึ่ง ซึ่งคำตอบรับของเธอ ก็ทำให้เขตถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ราวกับตัวเขาเองก็กลัวว่าจะถูกเธอปฏิเสธเช่นกัน เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยปฏิเสธคำชวนของเขามาหลายครั้งด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา
เมื่อทั้งสองตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าจะไปทานข้าวด้วยกันหลังจากที่ร้านขนมปิดแล้ว เขตก็อาสาขับรถไปส่งช่อแก้วที่คอนโดก่อน เพื่อให้เธอได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งตามปกติแล้วช่อแก้วมักจะแวะตลาดก่อนกลับเสมอ เพื่อซื้อวัตถุดิบและของใช้ส่วนตัว แต่ในวันนี้เธอได้ปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของเธอเล็กน้อย ด้วยการมานั่งทานข้าวกับแฟนหนุ่มที่ร้านอาหารไทยติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาแทน
ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านที่เขตเลือก บรรยากาศภายในร้านมีโต๊ะนั่งทั้งในส่วนที่เป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ และส่วนที่เป็นระเบียงด้านนอกที่เปิดโล่งรับลมเย็น ๆ จากแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มที่ แสงไฟสีนวลตาจากโคมไฟระยิบระยับสะท้อนลงสู่ผิวน้ำ ทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกและเงียบสงบ เหมาะสำหรับการมาทานอาหารกับคนรู้ใจมาก
ด้วยความที่นาน ๆ ทีเธอถึงจะได้ออกมาทานข้าวนอกบ้านแบบนี้ โดยไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องงาน ช่อแก้วจึงแสดงท่าทีผ่อนคลายออกมาอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าของเธอเปื้อนยิ้ม บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าพอใจกับบรรยากาศร้านนี้มากแค่ไหน
“เป็นยังไงบ้างช่อ ร้านที่พี่เลือก พอจะถูกใจช่อบ้างหรือเปล่า”
ขณะที่กำลังนั่งรออาหารด้วยกันอยู่นั้น เขตที่สังเกตเห็นว่าช่อแก้วดูพึงพอใจกับร้านนี้มากเพียงใดก็เอ่ยถามด้วยความใคร่รู้ ราวกับต้องการคำชมจากเธอ
“ชอบมากเลยค่ะพี่เขต บรรยากาศดีมากเลยค่ะ ลมเย็นสบายด้วย ไม่เคยรู้เลยว่ามีร้านแบบนี้อยู่ใกล้ ๆ คอนโด ขอบคุณมากนะคะที่พามา” ช่อแก้วที่กำลังอารมณ์ดีให้คำตอบกลับไป เธอรู้สึกประทับใจกับร้านนี้จริง ๆ
ช่วงเวลาเดียวกันอาหารที่ทั้งสองสั่งไปในรอบแรกก็ถูกนำมาเสิร์ฟพอดี พนักงานวางจานอาหารลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง มีทั้งต้มยำกุ้งน้ำข้น แกงเขียวหวานไก่ และปลาทอดสมุนไพรตามแบบฉบับที่ช่อแก้วชอบ หลังจากนั้นทั้งคู่ไม่ได้มีบทสนทนาร่วมกันมากนัก เพราะพออาหารถูกนำมาเสิร์ฟจนครบแล้ว ช่อแก้วกับเขตก็เริ่มทานทันที เพราะตั้งแต่ที่ทั้งสองทานข้าวเที่ยงกันเมื่อตอนกลางวันที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องของทั้งคู่อีกเลย
“ว่าแต่…ถ้าทานเสร็จแล้วช่ออยากดื่มอะไรอีกไหม พี่ว่าถ้าเรานั่งจิบค็อกเทลเบา ๆ พร้อมรับลมเย็น ๆ ไปด้วย มันก็ไม่แย่นะ จะได้นั่งคุยกันนาน ๆ หน่อย”
หลังมื้อเย็นที่ค่อนข้างเรียบง่ายของช่อแก้วกับเขตใกล้จบลงแล้ว เขตที่น่าจะเครื่องเริ่มติดอยากนั่งต่ออีกยาว ๆ ก็เอ่ยถามแฟนสาวด้วยท่าทีมุ่งมั่น เหมือนต้องการชวนให้เธออยู่ด้วยกันต่อ
“ตอนนี้เหรอคะ” ช่อแก้วถามกลับแฟนหนุ่มด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย พลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาที่บ่งบอกว่าใกล้จะสี่ทุ่มแล้ว จากนั้นเธอก็เริ่มทำหน้าลำบากใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“เอ่อ... เห็นทีคงจะไม่ได้แล้วมั้งคะพี่เขต เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ช่อจะลุกไปเปิดร้านไม่ไหวค่ะ”
ช่อแก้วบอกด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด เธอจำเป็นต้องปฏิเสธคำชวนของเขาอย่างเสียไม่ได้ เพราะเธอต้องเป็นคนไปเปิดร้านด้วยตัวเองตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อรองรับลูกค้าที่เป็นพนักงานบริษัทและมักจะชอบแวะมาซื้อขนมพร้อมด้วยเครื่องดื่มก่อนขึ้นตึกทำงานเป็นประจำ เธอจึงไม่อยากเสียลูกค้าหลักของตัวเองไป ทำให้ต้องตัดใจปฏิเสธเขตไปตามตรง
หลังจากที่ช่อแก้วพูดออกไปแบบนั้น เขตก็ทำหน้าเสียดายออกมาแต่ก็เพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น แม้มันจะเกิดขึ้นเพียงแค่เสี้ยววินาที แต่เธอที่มองเห็นร่องรอยแห่งความผิดหวังเหล่านั้นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดต่อเขาอยู่ดี เธอรู้ว่าเขาพยายามที่จะใช้เวลาอยู่กับเธอให้มากขึ้น
“เลื่อนไปเป็นคืนวันเสาร์ก็แล้วกันนะคะพี่เขต” ช่อแก้วเสนอ
ทว่าเขตเงียบไปครู่หนึ่งราวกับกำลังใช้ความคิด พิจารณาข้อเสนอของเธอ
“วันอาทิตย์ช่อไม่ได้เปิดร้านค่ะ พอถึงตอนนั้นเราค่อยมานั่งดื่มด้วยกันที่ร้านนี้อีกครั้งนะคะ ช่อจะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องร้านด้วย” เธออธิบายเพิ่มเติมเพื่อทำให้เขามั่นใจ
“งั้น…ช่อสัญญากับพี่แล้วนะ” นานเกือบนาทีกว่าที่เขตจะถามกลับมา
“ค่ะ ช่อสัญญาค่ะ” ช่อแก้วพยักหน้ายืนยันกลับไปให้แฟนหนุ่มของเธอ “ช่อไม่ผิดสัญญาอยู่แล้วค่ะ”
“งั้นก็ได้ครับ คืนวันเสาร์ก็ได้” เขตตอบรับด้วยท่าทีที่ดีขึ้นกว่าตอนแรกอย่างเห็นได้ชัด
พอเห็นอย่างนั้น ช่อแก้วก็ลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เธอรู้สึกดีใจที่ทำให้เขามีความสุขขึ้นมาได้
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นเรียกให้พนักงานมาคิดเงินเลยดีไหมคะ เพราะตอนนี้ช่อชักง่วงแล้วน่ะ” ช่อแก้วพูดพลางหาวหวอด ๆ อย่างน่าเอ็นดู
“ได้ครับ เดี๋ยวพี่เรียกเอง” เขตบอกกลับมาพร้อมหันไปเรียกให้พนักงานนำใบเสร็จค่าอาหารมาให้ช่อแก้วชำระ
เมื่อช่อแก้วจัดการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เธอกับเขตก็เดินออกมาจากร้านอาหารอย่างไม่รีบร้อน แต่ระหว่างที่กำลังเดินกลับไปยังลานจอดรถที่อยู่ด้านหน้าร้าน ทันใดนั้นฝีเท้าของทั้งคู่ก็ต้องชะงักไปกะทันหัน เมื่อเขตบังเอิญเจอคนรู้จักเข้าพอดี
“อ้าว ไอ้เขต! นี่มึงมาทำอะไรร้านนี้วะ ไม่เจอกันนาน…หายหัวไปเลยนะมึงอะ”
เสียงทักทายอย่างคนคนที่สนิทสนมกันดังขึ้นจากด้านข้าง ทำให้ช่อแก้วที่เดินนำแฟนหนุ่มไปยังลานจอดรถก่อน ต้องหันกลับไปมองตามเสียง ก่อนจะมีอาการชะงักไปเล็กน้อย เมื่อคนที่เข้ามาทักทายแฟนหนุ่มเป็นคนที่เธอเคยเจอมาก่อนแล้ว เขาคือคนที่เคยทำสายตากะลิ้มกะเหลี่ยใส่เธอในวันที่เขตพาเธอไปแนะนำกับเพื่อน ๆ ว่าเธอคือแฟนของเขานั่นเอง ช่อแก้วจำใบหน้าและแววตาเจ้าชู้ของเขาได้เป็นอย่างดี
เธอจำได้ดีว่าชายคนนั้นมีชื่อว่า เบส ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในเพื่อนจากกลุ่มคนสนิทที่ซี้กันมากที่สุดของเขต ก่อนหน้านี้เขาก็มักจะมาที่ร้านของช่อแก้วพร้อมกับเขตอยู่บ่อย ๆ แต่ช่อแก้วก็ยังยืนยันคำเดิมกับตัวเองว่า เธอนั้นไม่ค่อยชอบใจในท่าทางและคำพูดคำจาของเขาเท่าไรนัก เพราะสายตาที่เบสมองเธอนั้นมันดูออกได้ชัดเจรเลยว่าแตกต่างจากสายตาที่เขามองเพื่อนร่วมโต๊ะคนอื่น ๆ เสมอ
ช่อแก้วกระแอมในลำคอเล็กน้อยและแอบกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนที่เธอจะเบี่ยงตัวหลบไปยืนเยื้อง ๆ อยู่ข้างหลังของเขต เพื่อพยายามจะหลีกเลี่ยงการสบตาหรือเผชิญหน้ากับเบสให้ได้มากที่สุด แต่ก็สายไปแล้วเช่นกัน