ด้วยความสามารถอย่างเขา การจะตามหาเธอไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ว่าเธอย้ายไปที่ไหนๆ ถ้าเขาอยากรู้เขาก็สามารถทำได้ ฉะนั้นเขาจะบอกว่าเธอหลบหน้าเขาไม่ได้ มีแต่เขานั่นแหละที่...ไม่เคยสนใจอะไรเธอเลย
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ จ้องมองอีกฝ่ายนิ่งด้วยสีหน้าและแววตาเยือกเย็นที่เลียนแบบเขา ก่อนจะตอบเขาด้วยน้ำเสียงดุจเดียวกับสีหน้าว่า
“ฉันคิดว่าคุณรู้ดีอยู่แล้วว่าฉันมาที่นี่ทำไม และมาเพื่ออะไร”
เมื่อเร็วๆ เอเดรียนเพิ่งจับตัวคนทุจริตในองค์กรของเขาได้...หนึ่งในพนักงานคนสำคัญในฝ่ายจัดซื้อได้ร่วมมือกับอีกหลายคนในนั้นเพื่อโกงเขา
คนพวกนั้นคิดว่าตัวเองจะรอดไปได้...แต่พวกเขาคิดผิด พวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเล่นอยู่กับอะไร และสุดท้ายเอเดรียนก็ไล่ตามจับแมลงร้ายในองค์กรของเขาได้หมด และหนึ่งในนั้นกลับซัดทอดว่าผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเป็นหัวหน้าขบวนการใหญ่ ปาหนันจะไม่เดือดร้อนเลยถ้าคนๆ นั้นจะไม่ใช่ปีเตอร์...พี่ชายของเธอเอง!
และเพราะเหตุนั้น...ถึงได้ทำให้เธอกลับมายืนอยู่ตรงนี้ หาญกล้าบุกเข้าปราสาทของจอมมารทั้งๆ ที่เธอเคยสาบานกับตัวเองแล้วว่าเธอจะไม่มีวันกลับมา...แม้ตลอดห้าปีที่ผ่านมาเธอจะลำบากอยู่หลายครั้งจนเลือดตาแทบกระเด็นมากแค่ไหน แต่เธอก็อดทนและกัดฟันสู้ ศักดิ์ศรีและความเจ็บปวดไม่อนุญาตให้เธอกลับไปหาเขาและคุกเข่าอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ
เธอกำลังผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นไปได้...ห้าปีที่ผ่านมาหัวใจที่เจ็บปวดแหลกสลายของเธอกำลังดีขึ้น มันกำลังดีขึ้นมาแท้ๆ แต่สุดท้ายเธอก็ต้องซมซานกลับมาหาเขา และอ้อนวอนอย่างไร้ศักดิ์ศรี เธอยอมทำได้ทุกอย่าง
ถ้าเพียงแต่เขาจะยอมช่วยปีเตอร์สักครั้ง...
ชีวิตของพี่ชายอยู่ในกำมือของเขา...และเธอจะปล่อยให้พี่ชายเข้าไปอยู่ในคุกไม่ได้!
พ่อกับแม่ของเธอจะทำอย่างไรถ้ารู้เรื่องพวกนั้น...อีกอย่างที่พีททำอย่างนั้นลงไปส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของเธอแท้ๆ เพราะความเห็นแก่ตัวของเธอทำให้เขาตัดสินใจโง่ๆ เข้าร่วมขบวนการทุจริตพวกนั้นจนถูกใส่ร้ายว่าตัวเองกลายเป็นหัวหน้าใหญ่ ทั้งๆ ที่พีทเป็นเพียงฟันเฟืองเล็กๆ พวกนั้นหรือ
“ฉันไม่รู้หรอกปาหนัน...ฉันบอกเลยว่าฉันไม่รู้”
การปฏิเสธอย่างหน้าตาเฉยของเอเดรียนทำให้ปาหนันถึงกับชะงักไปอีกครั้ง เธอพูดอะไรไม่ออก ขณะที่ชายหนุ่มก็เอ่ยต่อไปว่า
“ฉันไม่ใช่พระเจ้าที่จะเดาใจเธอออกนะ ไม่ใช่ทั้งในอดีตจนกระทั่งตอนนี้นั่นแหละ”
เป็นอีกครั้งที่เขาเสียดสีเธอถึงเรื่องในอดีต น้ำเสียงและท่าทางนั้นทำให้ปาหนันสะอึก ตระหนักในตอนนี้อย่างชัดเจนว่าเอเดรียนโกรธมากเพียงใดกับเรื่องระหว่างเธอกับเขาเมื่อห้าปีก่อน
ถ้าเธอรู้อนาคต จะไม่ยอมให้ความคิดชั่วแล่นนั้นเกิดขึ้น จะยอมศิโรราบ ยอมเป็นฝ่ายถูกทิ้งก่อนเพื่อให้อย่างน้อยในตอนนี้...เอเดรียนจะได้มีความเห็นใจและช่วยเหลือเธอบ้าง!
ท่าทีเย็นชาและเต็มไปด้วยโทสะของเขาในยามนี้บอกชัดเจนว่าชายหนุ่มไม่มีทางช่วยเหลือเธออย่างแน่นอน
“ฉัน…” ปาหนันกลืนก้อนแข็งๆ ลงในลำคออย่างยากลำบาก พยายามลดท่าทีแข็งกร้าวของตัวเองลงแล้วอ้อนวอนเขา “อยากจะขอร้องให้คุณช่วย...” น้ำเสียงตอนท้ายของเธอขาดหาย และชายหนุ่มก็ทนไม่ไหวที่จะยืนฟังเธออึกอักเช่นนี้ จึงย้ำเสียงห้วนและเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว
“ช่วยอะไร พูดออกมาสิ”
ปาหนันกัดปากตัวเองแรงๆ เรียกสติทีหนึ่ง แล้วโพล่งออกไปในที่สุดอย่างหมดเปลือก
“ช่วยอย่าเอาเรื่องพี่ชายของฉันได้ไหมคะ พอดีว่าเขา...”
“พี่ชายของเธอ...” ทว่าพูดไม่ทันจบ เอเดรียนก็เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน “พี่ชายของเธอมันเป็นใครกัน! ฉันไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่าเธอมีพี่ชายกับเขาด้วย!”
คำถามเย้ยหยันและสีหน้าที่บ่งบอกชัดว่าชายหนุ่มไม่เคยสนใจอะไรเกี่ยวกับเธอเลยแม้แต่น้อยนั้นทำให้ปาหนันชาไปทั้งร่าง เธอเคยคิดมาตลอดว่าที่เอเดรียนเล่นงานปีเตอร์อย่างรุนแรงนั้นเป็นเพราะเขารู้ว่าปีเตอร์เป็นพี่ชายของเธอ...เอเดรียนคงอยากจะแก้แค้นเธอถึงได้ทำอะไรไม่เห็นแก่กันเลยสักนิด
ทว่าเธอคิดผิด คิดไปเองที่เชื่ออย่างนั้น เหมือนกับตอนที่เข้าใจผิดไปเองว่าเขารักกัน เพราะสุดท้ายแล้วเอเดรียนก็ไม่เคย...ไม่เคยสนใจกันเลยจริงๆ
ไม่แม้แต่นิดเดียว...
หัวใจของหญิงสาววิบโหวง ว่างเปล่า... เธอชาไปทั่วร่าง ท่าทีที่เคยแข็งกร้าวนั้นเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันเมื่อตระหนกได้ว่าอะไรเป็นอะไรอย่างแท้จริง
“ฉันไม่เคยเล่าให้คุณฟังในตอนที่ยังอยู่กับคุณ...” หญิงสาวเริ่มเอ่ยขึ้นเสียงเบา “ปีเตอร์เขาเป็นลูกติดของพ่อเลี้ยงฉันน่ะค่ะ”
“อ้อ…พี่ชายของเธอ แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน” คำถามย้อนกลับนั้นเจ็บแสบเสียจนปาหนันนึกอยากหายตัวไปจากตรงหน้าเขาให้รู้แล้วรู้รอด แต่เธอทำอย่างนั้นไม่ได้
พ่อ…แม่…พีท…
เธอทิ้งพวกเขาไม่ได้...
ถ้าไม่ใช่เพราะพีทไม่เหลือทางเลือกแล้วคงไม่มาขอร้องอ้อนวอนเธอให้กลับมาช่วย ทั้งๆ ที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่รู้อะไรๆ ดีที่สุดคนหนึ่ง
พีทเคยช่วยเหลือเธอมามาก ในยามที่ลำบากที่สุดเธอมีพีทคอยช่วยเหลือ ฉะนั้นเรื่องแค่นี้ทำไมเธอจะทำเพื่อพี่ชาย...เพื่อครอบครัวของตัวเองไม่ได้
“เขา…เขาทำงานที่นี่ แล้ว…” เธอตอบชายหนุ่มอย่างตะกุกตะกัก ยิ่งถูกซักไซ้ด้วยน้ำเสียงเข้มจัดและสีหน้าดุดันที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ของเอเดรียนเธอก็ยิ่งปากคอสั่นจนเอ่ยอะไรออกมาไม่ถูก
“แล้วอะไร?”
ปาหนันส่ายหน้ายิก สุดท้ายเธอก็พูดไม่อาจพูดสิ่งที่ต้องการขอร้องเขาตรงๆ ได้ และเมื่อมองหน้าเอเดรียนในตอนนี้จึงรับรู้ว่าชายหนุ่ม ‘รู้’ มาตลอดว่าเธอหมายถึงเรื่องอะไร เผลอๆ เขาอาจจะรอคอยการมาของเธอด้วยซ้ำ
เธอเคยเห็นเขาสนุกกับการไล่ต้อน ‘เหยื่อ’ มาแล้ว และเธอก็เคยอยู่ในสถานะนั้นเช่นเดียวกัน ทำไมเธอจะมองเขาในตอนนี้ไม่ออก แม้ว่าจะไม่ได้เห็นมานานกว่าห้าปีแล้วก็ตาม!
“ฉันว่าคุณรู้แล้ว” น้ำเสียงของเธออัดอั้น “อย่าคาดคั้นให้ฉันพูดมันออกมาเลยนะคะ” ตอนท้ายเธอแทบจะอ้อนวอนเขา แต่เอเดรียนกลับไม่ฟังคำอ้อนวอนของเธอเลยแม้แต่น้อย
“ไม่ปาหนัน” ชายหนุ่มย้ำเสียงหนักแน่น “ฉันบอกเธอแล้วว่าฉันไม่รู้ถ้าเธอไม่พูดมันออกมา”