เธอมาขอร้องเขาต่างหาก...
ขอร้อง…ทั้งๆ ที่เธอคิดว่าเขาควรจะต้องตกลงเพื่อทำสิ่งนี้ชดใช้ให้กับเธอ ชดใช้ให้กับอดีตที่เขาเคยทำร้ายเธออย่างไม่มีชิ้นดี ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ‘บังเอิญ’ รู้เท่าทัน เธอก็คงจะเป็นคนโง่ที่ไม่รู้เลยว่าเขาคิดจะทิ้งเธอไปอยู่แล้ว ไม่ได้ฉวยโอกาสสุดท้ายนั้นเป็นฝ่ายเดินจากไปอย่างมีศักดิ์ศรีเสียก่อนหรอก!
“ฉันอยากจะ...” หญิงสาวกล้ำกลืนความรู้สึกส่วนตัวทุกอย่างของตัวเองลง แล้วทำสิ่งที่เธอควรจะทำเสียที “คือมันเป็นเรื่องที่พูดยากนะคะ” เธอพึมพำเสียงเบาในประโยคนี้ เมื่อสำนึกได้ว่าพี่ชายของเธอทำผิดไปมากเพียงไร และมันร้ายแรงแค่ไหนจึงทำให้เธอจำต้องบากหน้ากลับมาให้เอเดรียนเหยียดหยัน ก่อนจะเอ่ยเสียงดังขึ้นในประโยคสุดท้าย “แต่...ฉันอยากจะมาขอร้องคุณเรื่องหนึ่ง”
เธอเอ่ยจบก็ประสานสายตากับเขาที่จ้องมองตรงมายังเธออยู่ตลอดเวลานับตั้งแต่เธอเข้ามาในห้องนี้ แล้วหญิงสาวก็ตัวชาวาบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะอย่างเยาะหยันของอีกฝ่าย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เหยียดหยาม และเมื่อเสียงหัวเราะนั้นซาลง เอเดรียน แอดดิสันก็ตอบคำขอร้องของเธอด้วยสีหน้าหยิ่งยะโสว่า
“ฉันคิดว่าเธอคงมาผิดที่แล้วล่ะปาหนัน ถ้าเธอจะเห็น...” เขากางมือทั้งสองข้างออกกว้างเป็นเชิงบอกให้เธอดูรอบๆ เสียให้เต็มตา “...ที่นี่คือบริษัทการเงิน ไม่ใช่องค์กรการกุศล ฉันเป็นนักธุรกิจไม่ใช่นักสังคมสงเคราะห์ที่จะได้เที่ยวทำตามคำขอร้องของใครไปเสียหมด”
ใบหน้าของคนฟังเหยเก รู้สึกเจ็บชาไปทั้งร่าง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่อาจถอยได้อีกแล้ว
“แต่ว่าเรื่องนี้มัน...”
หญิงสาวพยายามจะอธิบาย ทว่าเอเดรียนกลับขัดขึ้นมาเสียก่อน
“เรื่องนี้มันยังไงเหรอ”
น้ำเสียงและสีหน้าเย้ยหยันของเขาทำให้หญิงสาวรู้สึกอัดอั้นจนแทบหายใจไม่ออก เธอกำมือแน่นมากยิ่งขึ้น และเอ่ยเสียงดังมากขึ้นด้วยความรู้สึกคุกรุ่นในอก ถึงคนอื่นจะไม่รู้ แต่เธอซึ่งอยู่ใกล้ชิดเขามาตลอดรู้ดีว่าตอนนี้เอเดรียนกำลังก่อกวนเธออยู่
“คุณยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันจะขอร้องคุณเรื่องอะไรเลยนะคะเอเดรียน” แล้วความลืมตัวก็ทำให้หญิงสาวเผลอเรียกเขาอย่างสนิทสนมเหมือนเมื่อห้าปีก่อนจนได้ เมื่อรู้ตัวปาหนันก็ได้แต่ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองแน่นด้วยความตกใจ
“เอเดรียน?” เจ้าของชื่อเลิกคิ้วขึ้นสูง มุมปากของเขาเหยียดยิ้มหยัดที่ชวนให้รู้สึกอยากจะทำอะไรก็ได้เพื่อลบรอยยิ้มนั้นออกไปจากใบหน้าหล่อเหลานั้น อะไรก็ได้ที่รุนแรงด้วย! “…ไหนว่าเธอกับฉันไม่ได้เป็นอะไรกัน ความสุภาพเมื่อครู่นี้ของเธอหายไปไหนแล้วล่ะปาหนัน”
ชายหนุ่มเสียดสีเสียจนเธอหน้าเสีย ความพยายามที่จะห่างเหินและเย็นชากับเขานั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง!
“ฉัน…” หญิงสาวถึงกับยืนกระสับกระส่าย พูดอะไรไม่ออก
เอเดรียนดูเหมือนจะหมดสิ้นความอดทนกับเธอเสียแล้ว หญิงสาวเห็นชายหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นยืนอย่างฉับพลัน ฝ่ามือใหญ่ดึงชายเสื้อสูทที่ร่นขึ้นให้กระชับตัว เขาติดกระดุมในขณะที่จ้องมองเธอเขม็งพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเบื่อหน่ายมากแค่ไหน
“เลิกทำท่าอึกอักสักทีเถอะ เห็นแล้วฉันรำคาญ”
น้ำเสียงของชายหนุ่มห้วนสั้น เป็นสัญญาณบ่งบอกชัดว่าถ้าเธอยังไม่ยอมเข้าเรื่องอีกละก็ เขาจะไล่เธอออกไปจากที่นี่ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน!
“ฉันไม่ได้อึกอัก” หญิงสาวโต้แย้งทันควัน “แต่คุณเอาแต่พูดแทรกแบบนี้ ฉันจะได้พูดธุระไหมคะ!” เธออดขึ้นเสียงไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของคนที่ได้ชื่อว่าเยือกเย็นและไร้อารมณ์มาตลอด “ฉันก็เหมือนกับคุณนั่นแหละ ไม่ได้อยากจะมายืนอยู่ตรงนี้นักหรอกถ้าไม่จำเป็นน่ะ!” ตอนท้ายเธอเผลอหลุดปากถึงความรู้สึกที่แท้จริงออกไปจนได้ ซึ่งพอพูดออกไปแล้วปาหนันก็นึกอยากจะตบปากตัวเองเป็นกำลัง
ทำไมเธอถึงได้หลุดความคิดทุกสิ่งอย่างเวลาอยู่ต่อหน้าเขานะ! ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ก็ยังทำตัวโง่เง่าเวลาอยู่ต่อหน้าเขาเสมอเลย!
“อ้อ!” ดวงตาของคนฟังวาววับ เรืองรองไปด้วยโทสะที่เพิ่มมากขึ้นในตอนที่เอ่ยถากถางเธอต่อไปว่า “แสดงว่าเป็นเรื่องจำเป็นอย่างนั้นหรือ...เรื่องจำเป็นอะไรกันล่ะที่ทำให้คนอย่างเธอมายืนอยู่ตรงหน้าฉันได้ ทั้งๆ ที่เธอหลบหน้าฉันไปตั้งห้าปีน่ะ!”
ประโยคนั้นของชายหนุ่มทำให้ปาหนันสะดุ้งโหยง เธอไม่ได้หลบหน้าเขา...แต่เธอไม่คิดว่าตัวเองจะต้องเจอกับเขาอีกไปชั่วชีวิตต่างหาก!
เจ้าชายกับทาสอย่างเธอไม่ใช่อะไรที่ต้องมาบรรจบพบเจอกันอีกแล้ว การหลบหน้าไม่ใช่สิ่งที่เธอทำ แต่เธอเดินออกไปจากชีวิตของเขาต่างหาก
ตัดขาดเขาออกไปจากชีวิต...ก่อนที่เธอจะไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนั้น...
ปาหนันมองใบหน้าของเขาแล้วนึกอยากกรีดร้อง โต้แย้งว่าคนที่ผิดไม่ใช่เธอเลย แต่เป็นเขาต่างหากที่บีบบังคับให้เธอต้องไป แต่ถึงอย่างนั้นวินาทีต่อมาเธอก็คิดได้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะทำอย่างนั้น เอเดรียน แอดดิสันไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับเธออยู่แล้ว เขาเพียงแค่โกรธที่เธอเป็นฝ่ายทิ้งเขามาก่อนเพราะคนอย่างเขาไม่เคยถูกทิ้ง มันก็เท่านั้น
เพราะถ้าเขารักเธอจริงๆ ชายหนุ่มไม่มีทางยอมรับเหตุผลงี่เง่าที่เธออ้างไปส่งๆ อย่างนั้นได้ เขาไม่มีทางยอมให้เธอก้าวออกไปจากชีวิตของเขาอย่างง่ายดายเช่นนั้นได้ หลังจากวันนั้นไม่มีการมาหา ตามมา หรือปรับความเข้าใจอะไรกันเลยแม้แต่น้อย เอเดรียนหายไปจากชีวิตของเธอเหมือนสายลมที่พัดผ่านไปวูบหนึ่ง ที่ผ่านแล้วก็ผ่านเลยไป