ปาหนันก้าวลงจากรถด้วยอาการคล้ายกับไม่เต็มใจเท่าไรนัก ทว่าเมื่อคนตัวโตกว่าปรายตามองมาราวกับจะท้าทายและเย้ยหยันว่าเธอจะ ‘กล้า’ เหยียบที่นี่หรือไม่ หญิงสาวจึงแข็งใจก้าวเดินตามเขาไป
เธอรู้ตั้งแต่เห็นเส้นทางที่รถยนต์ผ่านแล้วล่ะว่าเอเดรียนจะพาเธอมาที่ไหน ซึ่งจะเป็นที่อื่นไปไม่ได้นอกจากเพนต์เฮาส์หรูบนชั้นห้าสิบในย่านมิดทาวด์ของมหาเศรษฐีหนุ่ม...สถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของเธอ
ตั้งแต่เธอเลิกกับเขา ปาหนันไม่เคยเหยียบย่างมาที่นี่แม้แต่ครั้งเดียว กระทั่งข้าวของส่วนตัวเธอก็ไม่เคยกลับมาเก็บมันไป ป่านนี้เขาคงทิ้งสมบัติของเธอออกไปจากที่นี่ทั้งหมดแล้วกระมัง เพราะตอนจะไปเธอก็ตัดสินใจอย่างปุบปับ ไม่ได้วางแผนใดๆ ล่วงหน้า
เสียงสัญญาณปลดล็อกดังขึ้น รู้ตัวอีกทีเธอก็ถูกเขากึ่งลากกึ่งจูงเข้ามาภายในห้อง โทนี่คนสนิทของเขาก็ไม่อยู่แล้ว แน่นอนว่าเธอรู้ดีว่าทั้งชั้นนี้มีเพียงเธอกับเขาสองคนเท่านั้น จะไม่มีคนอื่นขึ้นมาหากเอเดรียน แอดดิสันไม่ได้เรียก
เมื่อก้าวเข้ามาในห้อง วินาทีนั้นปาหนันรู้สึกราวกับตัวเองหลุดเข้าไปในอดีต ทุกสิ่งทุกอย่างคล้ายกับครั้งแรกที่เธอมาที่นี่ไปเสียหมด เพนต์เฮ้าส์นี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว เครื่องเรือนและของประดับทุกชิ้นยังถูกจัดวางอยู่ที่เดิมของมัน ราวกับว่ากาลเวลาไม่ได้ทำให้มันเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ความรู้สึกปวดแปลบในใจและความขมปล่าแผ่ซ่านไปทั่วอก อดคิดถึงตอนที่ตัวเองยังโง่เง่าและไร้เดียงสาไม่ได้
เธอในตอนนั้นเหมือนคนตามืดบอดที่ไม่เคยเปิดตามองความเป็นจริงและโง่งมที่เชื่อมั่นใจความรักที่มีต่อเขาอย่างสุดหัวใจ ไม่ว่าอะไรก็หลงเชื่อเขาไปเสียทุกอย่าง จนสุดท้ายต้องเจ็บปวดเจียนตาย...ถ้าไม่มีลูกเธออาจจะไม่มีแม้แต่แรงจะหันหลังเดินจากมาเสียด้วยซ้ำไป
ปัง!
เสียงปิดประตูดังสนั่นทำให้ปาหนันหลุดจากภวังค์ความคิดของตนเอง เธอกะพริบตาถี่ๆ เรียกสติเมื่อตระหนักได้ว่าเธอจำเป็นจะต้องทำให้เอเดรียน แอดดิสันยอมตกลงช่วยเหลือเธอให้ได้
หญิงสาวมองร่างสูงใหญ่ของเจ้าของสถานที่เดินเข้าไปข้างใน และระหว่างทางชายหนุ่มก็ถอดสูทตัวนอกออก วางพาดไว้กับโซฟาในห้องรับแขก หญิงสาวก้าวเดินตามเขาไป เธอไม่ได้นั่งบนโซฟาแต่เลือกจะยืนไม่ไกลจากเขานัก
“อย่างที่ฉันพยายามจะเจรจากับคุณเรื่องพี่ชายของฉันน่ะค่ะ”
หญิงสาวเริ่มพูดเมื่อเอเดรียนถอดแจ็กเก็ตสูทตัวนอกสุดสีดำสนิทออก ตามด้วยเสื้อกั๊กสีเดียวกัน
“หยุด” ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้มขณะที่เริ่มปลดเนคไท “ไม่ต้องพูด ฉันขี้เกียจฟัง” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย
บอกตามตรงว่าตอนนี้เธอรับมือผู้ชายตรงหน้าไม่ค่อยถูก เอเดรียนในความทรงจำของเธอส่วนใหญ่จะเยือกเย็นและควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี ถ้าไม่สังเกตจะไม่รู้เลยว่าเขารู้สึกอย่างไร มีเพียงยามอยู่บนเตียงเท่านั้นเขาจึงยอมปลดปล่อยตัวเองเหมือนได้ปลดล็อกทุกสิ่งทุกอย่างออก ทว่าคนตรงหน้าในยามนี้กลับเต็มไปด้วยโทสะ ความกราดเกรี้ยวและอารมณ์อันหลากหลายเสียจนเธอรับมือไม่ทัน
ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเขาไม่มีฝาแฝด เธอคงจะคิดว่านี่ไม่ใช่เอเดรียน แอดดิสันแล้ว
“ก็ดีค่ะ” หญิงสาวตอบรับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันจะได้ไม่ต้องพูดซ้ำ”
สิ้นคำพูดของเธอ ร่างสูงใหญ่ซึ่งข่มให้เธอดูตัวเล็กนิดเดียวด้วยความสูงพ้นปลายคางของเขามาไม่เท่าไรก็หันมาเผชิญหน้ากับเธอ เขาโน้มตัวลงเข้ามาใกล้เธอจนใบหน้าของเขาห่างกับเธอไปเพียงคืบ
ปาหนันกลั้นลมหายใจ เกร็งตัวด้วยความลืมตัว เธอจ้องมองดวงตาสีมรกตคู่งดงามที่ตรึงหัวใจของเธอเอาไว้มาตั้งแต่แรกสบตา เอเดรียนเป็นผู้ชายที่มีดวงตาสวยมาก หน่วยตาของเขายาวเรียวและเบ้าตาคมชัด ล้อมกรอบด้วยแพขนตาดกหนาสีเดียวกับเส้นผมของเขาที่ยิ่งขับให้ดวงตาของเขาดูทั้งงดงามและคมกริบ และเฉดสีของมันก็จะเปลี่ยนไปตามอารมณ์ความรู้สึกของเขาที่กักเก็บเอาไว้
ปาหนันเผลอก้าวถอยหลังเมื่อจู่ๆ คนตรงหน้าก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธออีก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอุทานในลำคอด้วยความตื่นตระหนกแทนเมื่อมือใหญ่ของคนตรงหน้าเกี่ยวเอวเธอไว้ไม่ให้เธอหนีไปไหน ความร้อนจากร่างกายของเขาทำให้หัวใจและสติของเธอปั่นป่วนไปหมด
“ดี…เพราะข้อเสนอของฉันมีแค่อย่างเดียว”
น้ำเสียงของเขาเหมือนล่องลอยมาจากที่ไกลๆ แต่นั่นก็ช่วยให้ปาหนันรีบดึงสติที่กระเจิงของตนเองให้กลับมาอีกครั้งและสนใจฟังในสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการได้
เธอรู้...เขากำลังเล่มเกมของเขา เอเดรียนมักจะไล่ต้อนเหยื่อของเขาให้จนมุมสุดๆ อย่างนี้เสมอ เมื่อเขาแน่ใจว่าเขาเป็นคนคุมเกม...เป็นคนที่อยู่เหนือกว่า เขาถึงจะยอมแย้มพรายทางรอดให้เหยื่อได้ดิ้นรน
ปาหนันแทบไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองส่งเสียงอะไรออกไป เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตาเขาคล้ายกับจะเป็นคำถามว่าเขาต้องการอะไร
เอเดรียนดูเหมือนจะรู้ว่าเธอต้องการรู้ข้อเสนอของเขา ชายหนุ่มปล่อยมือจากเอวเล็กคอดของเธอ ปาหนันก้าวถอยห่างจากเขาก้าวหนึ่ง ขณะที่คนตรงหน้ายืดตัวยืนตรง เขาจ้องมองเธอนิ่ง...ทว่าเป็นความนิ่งของผู้ล่าที่ทำให้ใจสั่นหวั่นไหวโดยแท้
“ถ้าอยากให้ฉันปล่อยพี่ชายเธอไปล่ะก็...” เขาเว้นจังหวะราวกับต้องการถ่วงเวลาให้เธอกระวนกระวายใจ ก่อนจะยอมบอกข้อเสนอของเขาออกมาในที่สุด “กลับมาเป็นของเล่นของฉันอีกสิ”
“…”
ปาหนันพูดไม่ออก ได้แต่อ้าปากค้างกับสิ่งที่เอเดรียน แอดดิสันต้องการ
ของเล่น...ของเล่นของเขาอย่างนั้นเหรอ!
หญิงสาวเกือบจะบริภาษเขาออกไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบที่แล่นขึ้นมา
“ถ้าเธอยอมฉันจะปล่อยเขาไป” ทว่าวินาทีต่อมาเธอก็หุบปากลงฉับกับประโยคต่อมาของเขา พูดอะไรไม่ออกอีกครั้งกับรอยยิ้มเหยียดหยันและสายตาที่มองเธอราวกับกำลังประเมินราคา
“แค่เจ็ดวันเท่านั้น ถ้าเธอทนไหว ฉันก็จะถือว่าเงินที่เขาเอาไปเป็นค่าตัวเธอก็แล้วกัน ว่าไงล่ะ ตกลงไหม...”
เขาถามเสียงเรียบ รอยยิ้มเยาะหยันยังอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปสลัก คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงอย่างท้าทาย ขณะที่เธอได้แต่มองเขาด้วยอาการพูดไม่ออกและตกตะลึงเกินกว่าจะเปล่งเสียงออกมาเป็นคำพูดใดๆ ได้เมื่อความเข้าใจทุกอย่างซึมซับเข้ามาในสมอง
เอเดรียน แอดดิสัน...ต้องการให้เธอเป็นของเล่นบนเตียงของเขาเจ็ดวันแลกกับการที่ปีเตอร์พี่ชายของเธอจะไม่ต้องติดคุก!