ตอนที่4

899 คำ
หลังจากที่น้องชายทั้งสองคนของเขาจากไปแล้ว เอเดรียน แอดดิสันก็ได้ความสงบของเขากลับคืนมาเสียที... ชายหนุ่มเปลี่ยนจากนั่งอยู่บนโต๊ะประชุมเล็กขนาดสิบที่นั่งซึ่งอยู่ติดกับห้องทำงานของเขาและมีประตูเชื่อมถึงกันมาเป็นโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่มุมห้องทำงานบนตึกแอดดิสันไฟแนนซ์เชียล เอเดรียนเอื้อมมือไปเปิดคอมพิวเตอร์พร้อมกับมืออีกข้างก็หยิบแฟ้มเอกสารของฝ่ายการตลาดขึ้นมา แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็ละมือจากทั้งสองสิ่งแล้วฟาดมือลงกับโต๊ะไม้เนื้อหนานั้นเต็มๆ แรงจนดังลั่น ความแรงนั้นส่งผลให้เขารู้สึกชาไปทั้งฝ่ามือ ความรู้สึกโกรธเคืองแล่นลิ่วขึ้นมาอย่างยากที่จะระงับ นี่เป็นครั้งแรกในรอบห้าปีที่เขาโกรธจนขาดสติเสียจนทำอะไรสิ้นคิดเช่นนี้! ระยำ! เอเดรียนสบถในใจอย่างดุดัน ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ขณะพยายามระงับอารมณ์เดือดพล่านของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติ และเขาต้องกลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุดก่อนที่จะออกไปเจอหน้าผู้หญิงคนนั้น ‘ประชาสัมพันธ์ข้างล่างแจ้งขึ้นมาว่ามีคนขอพบคุณค่ะ’ โซเฟีย เลขาฯ สาวใหญ่ที่ทำงานกับเขามานานนับสิบปีเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ติดจะเป็นกังวล ซึ่งนับว่าแปลกสำหรับมืออาชีพอย่างเธอ เอเดรียนที่กำลังจะประชุมส่วนตัวกับพี่น้องของเขาจึงหยุดชะงักจากการอ่านเอกสารที่ต้องเซ็นรับทราบแล้วเงยหน้าขึ้นมองและให้ความสนใจกับเธอ ‘ใคร’ เอเดรียนเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ไม่ได้ ต่อให้มีวุฒิสมาชิกเดินทางมาหาเขาเองโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้าก็ไม่ได้ทำให้โซเฟียดูสะทกสะท้านได้ถึงเพียงนี้ เขามีความอยากรู้ย่อมไม่แปลกเลยแม้แต่น้อย ดวงตาสีเทาของโซเฟียมีประกายของความลังเลใจว่าจะรายงานเขาดีหรือไม่ หากสุดท้ายเธอก็บอกเขาจนได้ ‘มิสศตนันท์ค่ะ’ ชื่อนั้นทำให้เอเดรียนถึงกับชะงักงัน โซเฟียอยู่กับเขามานาน เธอเป็นเลขาฯ คนแรกของเขานับตั้งแต่เอเดรียนทำงานในตำแหน่งผู้บริหารระดับกลาง กระทั่งขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูง แม้เขาจะมีทีมผู้ช่วยอีกมากมาย ทว่าหนึ่งในคนที่สนิทที่สุดและไว้วางใจได้ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวก็คือโซเฟีย แน่นอนว่าเธอเองก็รู้ดีพอๆ กับเขาว่าในชีวิตของเขานั้น ‘มิสศตนันท์’ คนที่ว่านั้นมีเพียงคนเดียว และเป็นคนเพียงคนเดียวที่ ‘กล้า’ ก้าวเดินจากไปและทิ้งความโกรธ ความชิงชัง ความแค้นเคืองของการถูกทรยศหักหลังเอาไว้ให้กับเขาก่อนที่เธอจะไป เอเดรียนเคยคิดว่าเขาสามารถลืมได้แล้ว เขาคิดว่าชื่อนี้คงไม่สามารถสั่นคลอนอะไรได้อีกแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมรับว่าเขาคิดผิด! ทว่าถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ตัวเอง ‘หลุด’ ออกจากความสงบเยือกเย็นได้นาน และยิ่งไม่ใช่คนที่จะคอยหลบหนีหน้าของ ‘ศัตรู’ ด้วย! ‘ให้เธอขึ้นมา’ ชายหนุ่มตอบโซเฟียไปในที่สุด ‘แต่คุณก็รู้ว่าวันนี้ผมมีประชุมยาว ถ้าเธอทนรอได้ก็ให้ทนไป ถ้าทนไม่ได้ก็กลับไป!’ ตอนท้ายน้ำเสียงของชายหนุ่มติดจะเย้ยหยันนิดๆ เมื่อคิดถึงผู้หญิงคนนั้น เขาไม่เคยเจอตัวจริงเธออีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น... ข่าวคราวครั้งสุดท้ายที่ได้ยินก็เป็นเวลาเกือบห้าปีมาแล้ว และเป็นข่าวที่ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองช่างโง่งมสิ้นดีที่เคยคิดจะ... บ้าฉิบ! เรื่องพวกนั้นเป็นอดีตไปแล้ว และเขาไม่ควรจะคิดถึงมันอีก! เอาเถอะ... เอเดรียนสูดลมหายใจยาวเมื่อเริ่มสงบเยือกเย็นจนเกือบจะเป็นปกติ ริมฝีปากบางอย่างคนเจ้าอารมณ์ของเขาคลายออกจากการเม้มเข้าหากันแน่นมาเป็นเหยียดยิ้มหยัน ปาหนันกล้ามาหาเขาถึงที่นี่เขาก็อยากจะรู้แล้วเหมือนกันว่าเธอมีจุดประสงค์อะไร ทั้งๆ ที่เธอทิ้งเขาไปได้ตั้งห้าปีแล้ว แต่วันนี้กลับคิดจะวกกลับมา นั่นก็หมายถึงเธอต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างแน่นอน! เห็นแก่ที่ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็น ‘นางบำเรอ’ ของเขา เอเดรียนจะยอมสละเวลาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อพบเธอก็แล้วกัน! ชายหนุ่มยกนาฬิกาดูข้อมือแล้วเหยียดยิ้มออกมา ห้าชั่วโมงสิบแปดนาที เอเดรียนคำนวนเวลาที่ปาหนันได้นั่งรอเขาแล้วก็ได้แต่หวังว่าเธอจะไม่ถอดใจหนีกลับไปเสียก่อน ทั้งๆ ที่ตอนที่เธอยังอยู่กับเขา เธอเคยนั่งรอเขายาวนานถึงสิบสองชั่วโมงมาแล้ว! แค่ห้าชั่วโมงกับ...ยี่สิบนาทีแล้วในตอนนี้คงจะไม่ทำให้เธอกระวนกระวายใจจนตายหรอก! สีหน้าของเอเดรียนกลับมาเป็นเยือกเย็นอีกครั้ง เป็นสีหน้าเยือกเย็นอย่าง ‘เจ้าชาย’ ของแอดดิสันอย่างที่เขาควรจะเป็น ในตอนที่เอื้อมมือไปกดอินเตอร์คอมแล้วบอกกับเลขาฯ สาวใหญ่ซึ่งนั่งประจำอยู่หน้าห้องทำงานของเขาว่า “โซเฟีย… ให้เธอเข้ามาได้” ๐๐๐๐
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม