เมื่อเวลาของการรอคอยเริ่มแตะที่เลขห้า...ปาหนันก็เริ่มร้อนใจกระวนกระวายมากขึ้น ก่อนหน้านี้เธอเห็นน้องชายของเอเดรียน ซึ่งพวกเขาทั้งสามคนต่างถูกเรียกว่าเป็น ‘เจ้าชายแห่งแอดดิสัน’ เนื่องจากคุณสมบัติอันเลิศหรูเป็นที่จับตามองเดินออกไปจากห้องทำงานของเอเดรียนแล้ว หญิงสาวก็รู้ทันทีว่าตอนนี้เขาว่างแล้ว หากที่ไม่ยอมให้เธอพบเขาเสียทีเป็นเพราะชายหนุ่มคงต้องการประวิงเวลาเอาไว้เพื่อกลั่นแกล้งเธอ
เจ้าชายคนโตของแอดดิสันถึงภายนอกจะเป็นคนเย็นชา ไม่แยแสอะไรราวกับไม่เคยมีอะไรอยู่ในสายตาของเขา ทว่าช่วงเวลาหนึ่งปาหนันเคยได้ใกล้ชิดเขาและรู้ดีว่าเอเดรียนไม่ได้เย็นชาเพียงอย่างเดียว หากเอเดรียน แอดดิสันเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นเสียด้วย!
และการจากลาระหว่างเธอกับเขาไม่อาจเรียกได้ว่า ‘จากกันด้วยดี’ เลยแม้แต่น้อย...โดยเฉพาะข้ออ้างที่เธอใช้ทิ้งเขาเพื่อเดินจากมา ถ้าเอเดรียนจะไม่ต้อนรับเธอก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย!
แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ปาหนันทำได้ก็มีเพียงอดทน...และเธอต้องอดทนเพื่อที่จะพบเขาให้ได้ เอเดรียน แอดดิสันเป็นคนเดียวที่จะช่วยให้ปีเตอร์...พี่ชายของเธอหลุดพ้นจากคุกได้ เพราะฉะนั้นแม้จะร้อนใจแค่ไหนปาหนันก็ทำได้เพียงแค่...อดทน!
ปาหนันบีบมือทั้งสองข้างเข้าหากันแน่น ก่อนจะกัดริมฝีปากแน่นตามนิสัยของเธอที่ชอบทำเช่นนี้เวลาอยู่ในสภาวะกดดันหรือเคร่งเครียด ซึ่งหากเป็นตอนที่ยังอยู่กับเอเดรียน ชายหนุ่มจะมองหน้าเธอด้วยสายตาดุดัน คิ้วเข้มของเขาจะขมวดมุ่นจนแทบจะชนกันด้วยความไม่ชอบใจที่เธอกัดริมฝีปากตัวเองแบบนี้ และมักจะปรามเสมอเวลาเธอทำเช่นนี้ถึงขั้นเคยประกาศกร้าวว่าร่างกายของเธอคือของเขา เธอไม่มีสิทธิ์ทำให้เกิดตำหนิใดๆ แม้กระทั่งขบริมฝีปากแน่นๆ อย่างนี้
ทว่า…นั่นเป็นเพียงอดีต ไม่มีใครต่อว่าหรือห้ามปรามเธอได้อีกแล้ว วินาทีนั้นปาหนันรู้สึกปวดหนึบในอกจนต้องเบี่ยงเบนความสนใจของตนเองไปยังเรื่องอื่น มิฉะนั้นเธอคงจะเผลอให้ตัวเองดำดิ่งไปในอดีตที่ทำให้เธอเจ็บปวดเสียจนเกือบจะแตกสลายพวกนั้น...
ทว่าก่อนที่เธอจะได้เบี่ยงเบนความคิดของตัวเองจริงจัง เสียงเคาะประตูห้องรับแขกเล็กซึ่งเปิดกว้างทิ้งไว้อยู่แล้วก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณที่ผู้มาเยือนเรียกร้องความสนใจจากเธอมากกว่า ซึ่งก็ได้ผลเพราะปาหนันหันขวับไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว
เลขาฯ สาวใหญ่ส่งยิ้มให้เธอพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เจือความยินดีนิดๆ ว่า “มิสเตอร์แอดดิสันว่างแล้วค่ะ”
“ขอบคุณนะคะ” ปาหนันคลี่ยิ้มกว้างตอบอีกฝ่ายปากคอสั่น ปลายนิ้วเรียวยิ่งบีบขยำเข้าหากันแน่นด้วยความรู้สึกตื่นเต้น และลึกลงไปคือความกลัวที่จะเผชิญหน้ากับเขา “เขาอนุญาตให้ฉันเข้าไปพบได้แล้วใช่ไหมคะ” เธอตัดสินใจถามโซเฟียในตอนที่ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างช้าๆ ซึ่งโซเฟียก็พยักหน้ารับขณะตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นขึ้นกว่าเดิม
“ค่ะ เชิญทางนี้เลยค่ะ”
เอ่ยจบเลขาฯ สาวใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมงานและเป็นหัวหน้างานของเธอก็ผายมือไปทางประตูไม้ซึ่งปิดสนิท หัวใจของปาหนันเต้นระรัวราวกับจะโลดออกมานอกอก ก่อนที่เธอจะลอบถอนหายใจออกมายาวเหยียดเมื่อรู้ตัวว่าชั่วเวลาที่ผ่านมานั้นเธอเผลอกลั้นลมหายใจเอาไว้ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและหวาดหวั่นมากเพียงใด
“ขอบคุณนะคะ”
หญิงสาวก้มศีรษะลงน้อยๆ ให้กับอีกฝ่าย ขณะที่โซเฟียยิ้มรับบางเบาบนใบหน้า
“ด้วยความยินดีค่ะ”
แล้วหลังจากนั้นเลขาฯ สาวใหญ่ของเอเดรียนก็เดินนำเธอไปยังประตูไม้บานใหญ่ที่ปิดสนิทแล้วค่อยๆ เปิดออก
วินาทีนั้นปาหนันรู้ดีว่าสิ่งที่เปิดกว้างนั้นไม่ใช่เพียงแค่ประตูตรงหน้า แต่หมายถึงอดีตที่เธอเคยปิดตายเอาไว้ก็จะถูกเปิดออกอีกครั้งหนึ่งแล้ว...
เอเดรียน แอดดิสันอาจจะถูกเรียกขานร่วมกับพี่น้องของเขาว่าเป็น ‘หนึ่งในสามเจ้าชายของแอดดิสัน’ มันคือฉายาที่สื่อทั้งหลายต่างใช้เรียกขานพวกเขาเหล่าบุรุษในตระกูลอันเก่าแก่อย่างแอดดิสัน บางนัยยะหมายถึงการยกย่องเนื่องจากคุณสมบัติของพวกเขานั้นต่างเลิศหรูไม่ต่างจากเจ้าชายของประเทศใดประเทศหนึ่ง หากบางนัยยะก็เป็นการเสียดสีว่าพวกเขาช่างวางตัวเองสูงส่งราวกับเป็นเจ้าชายเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง
ทว่าถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครสักคนที่รู้จักพวกเขาจะลืมได้ลงว่าพวกเขาไม่ใช่เจ้าชาย...แต่พวกเขาคือ ‘จอมมาร’ ต่างหาก!
และเอเดรียน แอดดิสันก็เป็นระดับหัวหน้าจอมมารเสียด้วย!
และการเจรจากับจอมมารอย่างเอเดรียน...ไม่เคยมีใครเอาชนะเขาได้เลยเพราะเอเดรียนจะได้ในสิ่งที่เขาต้องการเสมอ ซึ่งปาหนันได้แต่หวังว่าเขาจะเห็นแก่อดีตหรืออะไรก็ได้...ยอมช่วยไม่ให้ปีเตอร์ต้องเข้าไปอยู่ในคุก
พระเจ้าทรงโปรดเธอด้วยเถอะ...ช่วยให้เอเดรียน แอดดิสันยอมช่วยเหลือเธอด้วย!