โซเฟียเดินพ้นจากอาคารสำนักงานมาไกลพอสมควรจึงหยุดเดิน เธอเหลียวหลังกลับไปมองว่าปาหนันเดินตามตนเองมาหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านั้นเธอเห็นปาหนันเดินตามหลังมา ทว่าเมื่อหันไปมองจึงเห็นว่าถึงจะเดินออกจากสำนักงานตามกันมาแต่ปาหนันกลับเลี้ยวจากไปอีกทาง ท่าทีอ่อนแรงของอีกฝ่ายทำให้อดเห็นใจไม่ได้ กระนั้นเธอก็ช่วยอะไรอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี เลขาฯ สาวใหญ่จึงเปิดกระเป๋าถือของตนเองแล้วหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมา จากนั้นเธอจึงต่อสายหาผู้เป็นเจ้านายตามที่ได้รับคำสั่งในทันที
“เธอไปแล้วนะคะท่าน”
โซเฟียรายงานตามที่ได้รับคำสั่งจากเอเดรียน ซึ่งวันนี้มีกำหนดอยู่สะสางงานในสำนักงานทั้งวัน แต่กลับไม่ยอมให้ปาหนันเข้าพบเลยสักครั้งเดียว
ทว่าถึงอย่างนั้นเขาก็รับรู้การเคลื่อนไหวของหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา...
“ขอบคุณมากโซเฟีย ไม่มีอะไรแล้ว คุณไปพักต่อเถอะ”
“ค่ะ”
โซเฟียรับคำก่อนจะวางสาย เธอมองตามแผ่นหลังเล็กที่ลับหายไปกับฝูงชนของปาหนันแล้วก็นึกสงสารไม่ได้...ปาหนันไม่ควรทำให้เอเดรียนโกรธจริงๆ และไม่รู้ว่าเธอมองเห็นกงจักรเป็นดอกบัวได้อย่างไรถึงได้กล้าทำอย่างนั้นกับคนอย่างเอเดรียน แอดดิสันได้!
๐๐๐๐๐
เอเดรียนวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะทำงานช้าๆ หลังจากที่วางสายจากผู้ช่วยของเขา จากนั้นชายหนุ่มวัยสามสิบห้าปีจึงทอดแขนทั้งสองข้างลงกับโต๊ะแล้วจับมือประสานกันนิ่ง เขาจ้องมองปลายนิ้วเรียวยาวของตนเอง ในหัวผุดภาพของผู้หญิงคนนั้นที่คงจะวิ่งพล่านไปมาเพราะเธอไม่สามารถเข้าถึงตัวเขาได้อย่างง่ายดายอีกต่อไป
วูบหนึ่งเอเดรียนคิดถึงยามเมื่อปลายนิ้วของตนเองสัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มของเธอ ปาหนันให้ความรู้สึกเหมือนวิปครีมหวานมันที่อดใจไม่ไหวที่จะต้องลิ้มลอง
และไม่มีใครรู้ว่าเขาชอบกินวิปครีมมากแค่ไหน...
ผ่านมานานขนาดนี้เขาเคยลืมใครต่อใครไปมากมาย...แต่เธอกลับเป็นคนเดียวที่เขายังจดจำได้ ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนไปแค่ไหนเขาก็จดจำได้
เขาเคยพยายามลองแล้ว และมันเกือบจะได้ผล ทว่าสุดท้ายก็ไม่...เมื่อเธอบังเอิญกลับมาอยู่ในเส้นทางของเขาอีกครั้ง...
“เธอจะทนไปได้สักแค่ไหนกันเชียว...ปาหนัน”
เอเดรียนพึมพำกับตนเอง พลางเหยียดยิ้มมุมปาก หัวใจของคนที่ได้ชื่อว่าเยือกเย็นกลับเต้นแรงอย่างน่าประหลาดและเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและรอคอย
“อย่าถอดใจเสียก่อนล่ะ...” ตอนนี้เอเดรียนไม่อยากยอมรับเลยว่าเขาเกือบจะภาวนาออกมาว่าอย่าให้ปาหนันล้มเลิกความตั้งใจของเธอที่จะเข้าหาเขาให้สำเร็จ “...ฉันเพิ่งจะเริ่มต้นเล่มเกมของเราเองนะ”
๐๐๐๐
ปาหนันไม่ได้ไปไหนไกล...วันทั้งวันเธอวนเวียนอยู่บริเวณตึกสำนักงานแอดดิสันไฟแนนซ์เชียลเพื่อคิดหาวิธีที่จะต้องเข้าถึงเอเดรียน แอดดิสันให้ได้
หญิงสาวตัดสินใจล่าถอยไม่ได้ไปเฝ้าที่ใต้ตึกดังเคย เธอรู้ดีว่าถ้าเอเดรียนรู้ว่าเธอยังรออยู่ เขาคงจะไม่ออกมาจากตึกเป็นแน่แท้ ฉะนั้นหญิงสาวจึงแอบไปนั่งซุกมุมอยู่ภายในร้านกาแฟซึ่งตั้งอยู่ใต้ตึกตรงกันข้ามกับตึกแอดดิสัน ก่อนหน้านั้นเธอแอบสอดส่องมาแล้วและเห็นว่าที่ช่องจอดรถของชายหนุ่ม...เอเดรียนยังไม่ไปไหน เธอจำรถคันหรูที่เขาใช้ประจำได้ดี เอเดรียนอาจจะเปลี่ยนคันใหม่ทว่าเขาไม่เคยเปลี่ยนยี่ห้อ บางครั้งบางคราเจ้าชายคนโตของแอดดิสันก็เป็นคนยึดติดกับสิ่งของมากกว่าที่เขาคิด ทุกสิ่งสะท้อนได้จากการที่ชายหนุ่มมักจะไม่ยอมให้อะไรรอบกายเขาเปลี่ยนแปลงไป
เธอจำได้ดี ตอนที่เธอยังอยู่กับเขา มีครั้งหนึ่งที่ชายหนุ่มหงุดหงิดเหลือเกินที่ปากกาด้ามประจำของเขานั้นหายไป เอเดรียนเป็นคนเจ้าระเบียบ เขาเหมือนหุ่นยนต์ที่จะทำทุกอย่างตามตารางที่วางเอาไว้ สิ่งเดียวที่เขาบอกว่าทำให้เขาเสียการควบคุมก็คือเธอ เธอเพียงคนเดียวที่ทำให้เขาฉีกกฏทุกกฏของตัวเองได้
ตอนนั้นเธอต้องช่วยเขาหาปากกาด้ามนั้น แล้วจึงพบว่ามันตกอยู่ระหว่างซอกของโซฟาตัวใหญ่ภายในห้องทำงานนั้นแหละ และไม่ต้องอธิบายอะไรก็พอจะรู้ว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นเขาถึงจำไม่ได้ว่าตัวเองไปทำตกอยู่ตรงนั้น...ถ้าไม่ใช่มัวแต่จะจ้อง ‘กิน’ เธอ
ตอนที่ปาหนันส่งมันคืนให้เจ้าของ เธอก็อดถามคนยึดติดกับข้าวของคนนั้นไม่ได้ว่าเกิดของบางอย่างมันพังเสียหายไป เขาจะทำอย่างไร ชายหนุ่มได้แต่ยักไหล่ ก่อนจะด้วยความมั่นใจว่าเขามีเงินมากพอจะซื้อของเหล่านั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ ครั้งนั้นเธอนึกขำระคนเอ็นดูคนที่เหมือนกับเด็กๆ ที่ยึดติดกับสิ่งของต่างๆ จนคนกระเซ้าถามเขาอย่างทีเล่นทีจริงไม่ได้ว่าถ้าเธอหายไปเขาจะทำอย่างไร ตอนนั้นชายหนุ่มก็ยังคงยักไหล่ ยิ้มพร่างพราวแต่ไม่ตอบคำถามนั้น
ทว่าตอนนี้เธอได้คำตอบของคำถามในวันนั้นแล้ว...
เพราะเธอฉีกกฏทุกกฏของเขา...เพราะเธอหายไปเขาก็แค่ทิ้งเธอไป เพราะเธอไม่ใช่สิ่งที่เขาขาดไม่ได้...ไม่ใช่สิ่งที่เขารัก...
ปาหนันยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้วทว่าเอเดรียนก็ยังไม่ยอมออกจากตึกเสียที เธอถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เพราะนอกจากจะผิดนัดเพื่อนสนิทแล้วเธอก็ยังผิดนัดกับลูกชายตัวเอง...ทว่าทำอะไรต่อไปไม่ได้นอกจากรอ!
เพราะเวลาของเธอทอดยาวไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว และเอเดรียนก็รู้ดีถึงได้เตะถ่วงเธอเอาไว้อย่างนี้!
จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบจะสี่ทุ่ม และเธอก็ต้องระเห็จออกมานอกร้านเนื่องจากร้านกำลังจะปิด และยามที่เธอแอบจ้างวานเขาให้ช่วยรายงานว่าเอเดรียนออกจากตึกแอดดิสันไฟแนนซ์เชียลตอนไหนก็ยังไม่ติดต่อมาเสียที หญิงสาวจึงตัดสินใจข้ามฝั่งไปคอยป้วนเปี้ยนอยู่อีกฝั่ง และถือเป็นโชคดีของเธอที่ตัดสินใจอย่างนั้น เพราะเธอมาทันเวลาเห็นรถคันหรูที่เป็นรถของเอเดรียนกำลังวิ่งเลียบอยู่ถนนข้างอาคารที่จะเข้าสู่ถนนหลัก
และปาหนันก็ตัดสินใจทำสิ่งที่บ้าบิ่นอีกอย่างหนึ่งในชีวิตด้วยการวิ่งไปขวางทางรถคันนั้นเอาไว้!
เอเดรียน แอดดิสันจะหนีหน้าเธอไปไม่ได้อีกต่อไป!
แสงไฟหน้ารถสว่างจ้าสาดมาที่ใบหน้าของเธอจนทำให้แสบตาจนต้องหลับตาและเบี่ยงหน้าหนี ขณะที่หัวใจเต้นกระหน่ำด้วยความหวาดกลัวแต่ถึงอย่างนั้นก็สายเกินกว่าจะถอยหนีอีกต่อไปแล้ว!