ความปกติ ที่ฉันกำลังสัมผัส มันช่างรู้สึกขัดกับความรู้สึกด้านใน ทุกคนทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไร แม้กระทั่งผู้ชายอย่างไอ้ตอง
มันปกติเกินไป...
ปกติ ทั้งๆที่ฉันพึ่งบอกตัดความสัมพันธ์มันไป หรือจริงๆ มันก็ไม่ได้คิดอะไรกับฉันมากมาย
โม : กินข้าวเถอะป่ะ หิวว่ะ!
แตงโมลุกบอก ก่อนที่นางจะรวบเอกสารที่กองๆอยู่ตรงกลาง จากนั้นก็ดันมันลงกระเป๋าให้เรียบร้อยภายในพริบตา
บอย : รีบเก็บขนาดนั้น หิวมากรึไงวะ!
ผู้ชายปากร้ายแขวะเข้าให้ ก่อนที่กระเป๋าใส่เอกสารจะลอยข้ามโต๊ะไปในทันที
โม : พูดมาก ถือเลยนะมึง
แตงโมสะบัดก้นออกไป และฉันก็ตั้งท่าจะลุกตาม ถ้าไม่ติดที่ว่าได้ยินคำถามขึ้นมาซะก่อน
ทีม : แอบกัด แอบแซวกันบ่อยขนาดนี้ มีอะไรในกอไผ่รึเปล่า
ผู้ชายอารมณ์ดี ถามด้วยรอยยิ้มสดใส แต่ทว่าคนที่ถูกพาดพิงใส่ กลับแสดงว่าทีร้อนใจออกมาในทันที
บอย : ในกอไผ่มีผีน่ะสิไม่ว่า นิยามของกู คือเพื่อนไม่มีทางชอบเพื่อนโว้ย!
ทันทีที่ไอ้บอยหลุดปากออกมา สายตาของฉันก็เบนไปหาไอ้ตองทันที และก็พอเหมาะพอดีกับที่มันหันมามองฉัน
แต่แค่แป๊ปเดียวมันก็เมินหน้าใส่กัน!
นิยามของมัน จะเหมือนกันกับไอ้บอยรึเปล่า!
กลุ่มของฉัน มักอยู่ติดกันเป็นกลุ่มใหญ่ นั่งเรียนในกลุ่มเดียวกัน แม้แต่การกินข้าวก็ยังเกาะกลุ่มกันแบบเดิม
บอย : น้ำ ซื้อมาให้!
น้ำดื่มจากขวดใส ถูกยื่นให้โดยเพื่อนชาย ที่มันเคยซื้อให้ฉันจนแทบนับครั้งได้ ฉันรีบหันไปมองคนที่เคยซื้อให้เป็นประจำ แต่ทว่ามันกลับสนใจเพียงมือถือของมัน กับข้าวที่อยู่ในจาน
ฉัน : ขอบใจ...
เสียงไลน์จากมือถือไอ้ตองดังอยู่ตลอดเวลา และฉันก็เห็นว่ามันตอบกลับทุกครั้ง ทั้งๆที่มันเคยบอกกับฉัน ว่ามันไม่ชอบตอบแชทเวลากินข้าว
โม : พักนี้ติดมือถือนะตอง!
ตอง : หรอ...
คนถูกทัก ดูไม่ได้สนใจคนถามสักเท่าไหร่ มันมองหน้าแตงโมแค่แว๊บเดียว แล้วมันก็สนใจมือถือต่อไป
ทีม : ปกติมือถือของไอ้ตอง มีไว้เฉพาะเล่นเกมส์ แต่ดูๆวันนี้ จะไม่ได้มีไว้แค่เล่นเกมส์แล้วสิ!
ตอง : แล้วมาอยากรู้อะไรเกี่ยวกับมือถือกูเนี่ย รีบๆกินลงไปเลยข้าวอ่ะ
ทีม : แหมๆ ทำเสียงดุใส่เชียวนะ...
ทุกคนก้มหน้าทานข้าวกันต่อไป ไม่มีใครสนใจในตัวของใคร รวมถึงฉัน ที่เลิกสนใจอะไรเหมือนกัน!
จริงๆฉันแค่สงสัย ว่าทำไมไอ้ตองมันถึงทำตัวเฉยเหมือนไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่พอคิดไปคิดมา มันเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไหม
ไม่ทำให้ฉันลำบากใจ แม้จะดูใจหาย กับการกระทำ ที่จู่ๆก็เลิกทำ!
อ้อม : ตกลงไปดูหนังไหมจ้า เพื่อนทุกคนจะไปกันนะ รอแค่คำตอบจากคุณมึงนี่แหละค่ะ
ฉัน : อืม พวกมึงไปกันเลยก็ได้ ปวดท้องว่ะ
ปกติฉันเคยขัดเพื่อนซะเมื่อไหร่ แต่วันนี้มันปวดท้องจนไม่ไหว ฉันเลยจำเป็นต้องขัดพวกมันไป
อ้อม : ไหวไหมเนี่ย แล้วจะกลับยังไง เอารถมาไหม
ทีม : นั่นน่ะสิ ให้คนใดคนหนึ่งขับรถไปส่งบ้านก่อนไหม
เพื่อนในกลุ่มดูให้ความสนใจ แม้กระทั่งผู้ชายนิสัยดี ที่ใช้หลังมือสัมผัสเบาๆที่หน้าผากของฉัน
เสมือนกับห่วงใย แต่มันก็ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด เพราะผู้ชายที่ชื่อทีม มันห่วงเพื่อนแบบนี้ทุกคน!
ทีม : ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา
ฉัน : ปวดท้องย่ะ ไม่ได้มีไข้
ฉันหลุดขำอย่างอดไม่ได้ จากนั้นคนที่พึ่งแสดงความห่วงใย ก็ถูกผู้ชายปากร้ายอย่างไอ้บอยตบหน้าผากเข้าให้
บอย : ทีหลังไม่ต้องรู้มากเลย เข้าใจไหม
ทีม : รู้แล้วน่า ก็ห่วงเพื่อนอ่ะ!
โม : งั้นกูไปส่งมึงที่บ้านให้เอาไหม
ฉัน : โอ๊ย กูไม่ได้ปวดจนทนไม่ได้ ปวดรอบเดือนโว้ย พวกมึงรีบไปกันเลยไป ไม่ทันรอบหนังไม่รู้ด้วยนะ
โม : เออว่ะ งั้นมึงก็กลับห้องไปนอนพักนะ พรุ่งนี้เจอกัน!
ฉัน : อืม...
เพื่อนทยอยกันเดินออกไป ในขณะที่ฉันก็ตรงไปที่ประตูอีกฝั่ง ที่สามารถตรงไปบรรจบกับห้องน้ำพอดี...
ธุระในห้องน้ำ เวลาผู้หญิงมีรอบเดือนก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่คนที่อยู่ในห้องน้ำเวลานี้กลับเยอะจนไม่เหลือห้องว่างให้ ฉันเลยต้องกลับออกมายืนรอที่หน้าห้องน้ำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และฉันก็ได้เจอกับใคร ที่เหมือนจะตั้งใจยืนรอฉันอยู่
'อีมิ้นท์'
ผู้หญิงที่ชอบทำหน้าใสๆ พอเผลอ มันก็แอบไปคั่วกับอดีตแฟนฉันจนนับครั้งไม่ได้
ฉัน : ไม่หลบใช่ไหม สงสัยอยากโดนชนหน้าหงาย!
ถ้าไม่ติดที่ว่ามันยืนขวางทางฉันไว้ ฉันก็คงไม่พูดจาแบบนี้กับใครก่อน
ใบหน้าที่เคยโดนฝ่ามือฉันฟาดใส่ เผยรอยยิ้มที่น่าเกลียดออกมาอย่างท้าทาย
มิ้นท์ : ได้ข่าวว่าพึ่งเลิกกับเปอร์หรอ จริงๆก็สมควรเลิกตั้งนานแล้วนะ
ฉัน : แล้วยังไง อยากได้หรอ ก็วิ่งไปเก็บเอาสิ!
บอกตรงๆว่าฉันไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรมากมาย กับการที่ผู้หญิงที่แฟนของตัวเองเคยไปคั่วต้องตามมาวุ่นวาย ฉันแค่รำคาญใจ จนนึกเกลียดผู้ชาย ที่มันสร้างปัญหาให้
มิ้นท์ : ไม่ได้อยากได้ แค่อยากให้เลิกกัน มันสะใจ
มันหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ และคนอย่างฉัน ก็ไม่ได้มีความอดทนที่ดีเยี่ยมสักเท่าไหร่
ไวเท่าความคิด ฉันรีบยกขา ก่อนจะถีบไปที่คนตรงหน้าอย่างไม่ออมแรง
มิ้นท์ : โอ๊ย...
ร่างของมันล้มลงไปไม่เป็นท่า พร้อมกับเสียงแหลมๆที่หลุดหลงร้องออกมา...
ฉัน : สะใจเหมือนกันว่ะ!
ฉันยิ้มตอบกลับไปให้ ก่อนจะเดินผ่านหน้ามันไป เมื่อใครต่อใครเริ่มหันมามอง
แค่ปวดรอบเดือนก็หงุดหงิดพอแล้วไหม แล้วอีนี่ยังมาสุมไฟให้ฉันหงุดหงิดใจขึ้นไปอีก
ไม่รู้ว่ามันไม่ชอบอะไรฉันนักหนา ทุกครั้งที่เจอหน้า เลยต้องมีปัญหาแบบนี้อยู่ร่ำไป
เสียงเคาะประตูดังขึ้นถี่ๆ ทำให้ฉันที่กำลังจัดการกับอาหารของตัวเอง ต้องละจากชาม แล้วตรงดิ่งไปที่ประตู
ฉัน : อะไร...
ฉันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เมื่อพบว่าเพื่อนชายที่ตัวเองเคยสนิท มันมาที่นี่ ในเวลานี้
ตอง : หลบ!
มันใช้แขนของมัน กันร่างของฉันให้พ้นหน้าประตู ก่อนจะสอดแทรกร่างของตัวเองเข้าไปด้านใน
ตอง : ว่าล่ะ อย่างมึงมันกินอะไรไม่ได้หรอก นอกจากอาหารขยะ!
มันว่าเข้าให้ พร้อมกับเสนอหน้ายกชามบะหมี่ของฉันไปเททิ้ง โดยที่ฉันร้องห้ามไม่ทัน
ฉัน : แล้วมึงมาเทของๆกูทิ้งทำไมกัน
ตอง : เหอะ ร้องเสียดายอย่างกับมันมีประโยชน์อะไรมากมาย
มันหันมาผลักหัวฉันอย่างตั้งใจ ก่อนจะหันกลับไปจัดการกับอะไรๆที่มันหิ้วมา
ข้าวผัด ของโปรดฉันนี่นา...
ตอง : กินลงไป อย่างน้อยมันก็มีประโยชน์กว่าบะหมี่ของมึงเยอะเลย!
ฉันไม่เถียง ตอนแรกฉันตั้งใจจะกินบะหมี่ซะเมื่อไหร่ แค่เหนื่อย เลยขี้เกียจลงไปซื้ออะไรๆก็เท่านั้นเอง
ฉัน : ไปดูหนัง กลับมาไวเนอะ...
ฉันเว้นช่องว่างเอาไว้ ในขณะที่มันใช้เพียงหางตาเพื่อหันมามอง
ฉัน : กลับไว อย่างกับไม่ได้ไป!
ตอง : มึงรู้ดีได้ไง มึงนับเวลารอกูรึไง!
ฉัน : รออะไร กูไม่รู้ว่ามึงจะมา!
ฉันรีบเถียงอย่างออกนอกหน้า จนเผลอสำลักข้าวออกมา จนกระเด็นไปโดนหน้าของคนที่อุตส่าห์หิ้วมาส่ง
และแทนที่มันจะแสดงความไม่พอใจ มันกลับยกมือเช็ดใบหน้า พร้อมกับยิ้มออกมาซะได้
ตอง : จะรอก็ไม่ว่า จะเปลี่ยนใจเป็นแฟนจริงๆกับกูตอนนี้ก็ได้นะ!
ฉันออกจะตกใจ แต่เพราะความสนิททำให้ฉันกล้าที่จะต่อปากออกไป
ฉัน : ทีเมื่อเช้าล่ะหยิ่งใส่ ตอนนี้หน้ามึง แทบจะอยากกินกูให้ได้
ตอง : ถ้าจะแอบมองจนรู้ว่ากูหยิ่งใส่ มึงยอมมาเป็นแฟนกูให้มันแล้วๆไปเถอะว่ะ!
ฉัน : มั่นหน้า!
ฉันถือโอกาสหลบตาโดยการก้มหน้าทานข้าว แต่อีกคนก็ยังจะพูดเข้าประเด็นอยู่ได้
ตอง : เป็นแฟนกูไม่ดีตรงไหน เลี้ยงข้าวสามเวลากูก็ไหว
มันคงพูด เพื่อหวังให้ฉันใจอ่อน หรืออ่อนใจ แต่มันคงไม่รู้อะไร ว่าตอนนี้ฉันก็อาย จนไม่รู้จะทำหน้ายังไง!