ปาลินไม่รู้ว่าตัวเองใช้เวลานานเท่าไร ในการหอบเอาร่างที่บอบช้ำเดินกลับเข้าห้องนอนของเธอที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องของธีร์ภพ ซึ่งมีเพียงแค่บันไดกลางตัวบ้านคั่นเอาไว้เท่านั้น
ทั้งที่ควรจะใช่เวลาไม่ถึงสองนาที แต่สำหรับเธอกลับรู้สึกเหมือนเนิ่นนานราวชั่วกัปชั่วกัลป์...
มือหนึ่งยันกำแพง ส่วนอีกมือก็กุมท้องแน่น ค่อยๆ กัดฟันก้าวขาอย่างไม่มั่นคง ก่อนที่หญิงสาวจะทิ้งตัวลงนั่งอยู่หน้าบานประตูภายในห้อง หายใจอย่างอ่อนล้า ความเจ็บทางกายที่เพียรกดไว้เมื่อครู่ก็หลั่งไหลเข้ามาในตัวอีกครั้งให้เจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม จนเธอต้องยกขาชันเข่า ใช้สองมือโอบกอดสองขาไว้ให้แน่นๆ เพื่อบรรเทาความเจ็บ
เหงื่อกาฬแตกพลั่กออกมาแข่งกับหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูนองหน้าด้วยความเสียใจระคนน้อยใจ คนที่เธอรักหมดหัวใจกลับทำร้ายกันได้ถึงเพียงนี้ เพราะความรักที่เขามอบให้คนอื่น
ส่วนเธอ... ได้รับแค่ความเกลียดชังล้วนๆ !
ปาลินกอดตัวเองให้แนบแน่นที่สุดเท่าที่มือเธอจะไปถึง ปลุกปลอบใจเธอว่า
ไม่เป็นไร...
สิ่งที่ธีร์ภพทำลงไปทั้งหมด เป็นเพราะเขายังไม่เคยเห็นธาตุแท้ของรุ้งรวีว่าลวงโลกมากขนาดไหน จึงหลงเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นนังมารร้าย เป็นคนที่คอยทำลายความสุขในชีวิตเขา
วันหนึ่ง... เมื่อเขาได้รู้ความจริง รับรู้ถึงความรู้สึก เห็นถึงความรักและความจริงใจที่เธอมีให้เขาอย่างบริสุทธิ์ ไม่ได้ทำไปเพราะมีผลประโยชน์แอบแฝง อยากเป็นคุณผู้หญิงของบ้านเกียรติ์วราภัทร ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเหมือนหนูที่ตกถังข้าวสาร
วันนั้น... เขาคงจะเห็นเธออยู่ในสายตาบ้าง
แค่เธอยอมอดทนต่อ ‘พิษรัก’ ในตอนนี้อีกสักหน่อย ‘รัก’ ก็จะสามารถเอาชนะได้ทุกสิ่ง
แม้แต่... หัวใจที่เย็นชาของธีร์ภพ
แล้วเธอต้องรอถึงเมื่อไหร่ล่ะ...?
หัวใจของปาลินปวดหน่วงหนึบขึ้นมาทันทีด้วยความทดท้อ เธอไม่รู้ว่าจะต้องทนไปจนถึงเมื่อไร ไม่รู้ว่าเขาจะทรมานเธอหนักหนาสักแค่ไหน ไม่รู้ว่าเธอจะรับมันไหวไหม กับสภาพทุกข์ระทมที่คอยกัดกร่อนจิตใจเธออย่างช้าๆ ทีละนิด
แต่ทุกวัน...
บางทีเธออาจจะ ‘ตาย’ ก่อนจะสมหวังก็ได้
พอคิดแบบนั้น เนื้อตัวก็สั่นเทา น้ำตายิ่งเอ่อนองจนกลายเป็นม่านที่ทำให้มองไม่เห็นภาพตรงหน้า หญิงสาวยกมือปาดมันทิ้ง แต่ยิ่งปาด ก็ยิ่งร่วงหล่นกระทบหลังฝ่ามือจนเปียกชุ่ม
จนในที่สุดก็ต้องยอมแพ้...
ปาลินร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาจนตัวโยน หัวไหล่บางสะท้านไหว ปล่อยอารมณ์ให้จมดิ่งอยู่กับความเศร้าระทมจนสาแก่ใจ
ธีร์ภพปรายตามองอาหารเช้าสไตล์ฝรั่ง มีทั้งออมเล็ต ขนมปังปิ้ง เบคอน กาแฟและน้ำเปล่าที่จัดเตรียมอยู่บนโต๊ะเพียงชุดเดียว ทั้งที่ควรจะมีสองชุดสำหรับคู่สามีภรรยา ก่อนจะขมวดคิ้วนิดๆ เมื่อไม่เห็นตัวคนเตรียม
กว่าหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เขาต้องระเห็จมาใช้ชีวิตร่วมกับปาลินที่เรือนหลังเล็กริมน้ำ ตามคำสั่งของมารดาที่เอ่ยอ้างเหตุผลว่า
“เป็นผัวเมียกัน ก็ควรแยกออกไปอยู่ให้เป็นสัดส่วน จะได้สร้างครอบครัวมีหลานให้แม่อุ้มไวๆ”
“ผมไม่ไป คุณแม่ก็รู้ว่าผมกะ...” เขาเกือบหลุดคำว่าเกลียดออกไปต่อหน้าท่าน พอเห็นว่าท่านขมวดคิ้วไม่พอใจ จึงเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ “ผมไม่สะดวกใจที่จะอยู่กับปาลิน”
“มีอะไรไม่สะดวก พวกแกเป็นผัวเมียกันนะ ทีกับคนอื่นละสะดวกทั้งใจ สะดวกทั้งกาย”
ท่านประชดกลับมาทำเขาเถียงไม่ออก เลยได้แต่โอดโอย
“คุณแม่ครับ...”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าแกไม่ไป ก็เชิญแกออกไปอยู่ที่อื่นเลย... ไป๊!”
พอถูกท่านขู่ไม้นี้ ธีร์ภพจึงจำใจต้องหอบผ้าผ่อนมาติดแหง็ก หายใจร่วมกับหล่อนทั้งที่ไม่อยาก กลัวว่าอากาศจะไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป
แต่ตอนนี้เขาชักไม่มั่นใจว่า... ใครกันแน่ที่ไม่อยากจะอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขา
ธีร์ภพขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจ ตั้งแต่ก้าวขาเหยียบเข้ามาในเรือนปั้นหยาหลังนี้ เขาไม่เคยเห็นหน้าภรรยาป้ายแดงของตนเองสักครั้ง แค่เห็นแผ่นหลังบางๆ ของหล่อนเพียงแวบๆ หลังปาลินจัดเตรียมเรื่องอาหารการกินและดูแลเรื่องชีวิตประจำวันส่วนตัวของเขาตามหน้าที่เมียที่ดี