หลายชั่วโมงต่อมา...
@Glam Club
หลังจากที่ฉันส่งข้อความไปชวนพี่สะใภ้สุดสวยของฉันและบรรดาเพื่อนๆของเจ้พีชแล้ว พวกเราก็นัดแนะเวลามาเจอกันที่ผับที่ฉันได้ส่งโลเคชั่นไป และการเที่ยวสำหรับค่ำคืนนี้ก็พิเศษมากด้วย เพราะบรรดาพี่ๆและเพื่อนของฉันพากันหนีผัวตัวเองมาเที่ยวกันทุกคน
ค่ะ ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ทุกคนออกมาเที่ยวโดยที่บรรดาผัวตัวเองไม่รู้ และกำชับกับฉันอย่างดีว่าเรื่องคืนนี้ต้องเงียบที่สุด ฉันที่ไม่มีอะไรเสียเพราะไม่มีผัวอย่างใครเขา จึงตอบตกลงไปอย่างง่ายดาย
"ตาล...ตาลแน่ใจนะว่าที่นี่ไม่ได้อยู่ในเครือของพี่ชายตาลอะ"
หลังจากที่พวกฉันทั้งห้าคนมาถึงผับที่ฉันเป็นคนจัดหาให้แล้ว พี่พีชก็เอ่ยถามฉันอีกครั้งก่อนที่จะเข้าไปด้านในให้มั่นใจอีกครั้งว่าผับแห่งนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับพี่ชายของฉันจริงๆ
ฉันที่สืบและหาข้อมูลเจ้าของผับมาอย่างดีจึงเอ่ยตอบกลับไปอย่างมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าที่นี่ปลอดภัยจากพี่ชายฉันชัวร์
"มั่นใจหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เลยพี่พีช ตาลเช็กมาแล้ว เจ้าของอายุน้อยก็จริงแต่ไม่ใช่ชื่อนักรบแน่นอน"
"เค งั้นก็เข้าไปกันเถอะ พี่กระหายน้ำมากเลยตอนนี้" พี่พีชพูดจบก็ยิ้มดี๊ด๊าทันทีก่อนที่จะเดินต่อคิวให้บอดี้การ์ดตรวจบัตรก่อนเข้าข้างใน
หลังจากที่พวกฉันทุกคนเข้ามาด้านในเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ตรงไปที่ชั้นสองของผับ มุ่งหน้าสู่ห้องวีไอพีขนาดใหญ่ เป็นโซนเทควีไอพีที่ในห้องนี้ส่วนมากจะมีหนุ่มๆหล่อๆอยู่กันตรึม
แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีสาวๆนะ สาวๆนะมีเพียงแต่ว่าหนุ่มๆเยอะกว่าแค่นั้นเอง และที่ฉันจัดห้องนี้ให้ก็เพราะว่า เผื่อจะได้เจอหนุ่มหล่อในนี้แล้วเกิดปิ้งรักกันแบบในละครไง เป็นไงล่ะ อุตส่าห์ได้มาเที่ยวแล้วเราก็อย่าให้เสียเที่ยวสิ
แต่...
ความสุขของฉันมันก็มักจะสั้นลงเสมอ เมื่อมาถึงที่นี่ได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เต้นยังไม่ทันจักแร้เปียก เหตุการที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆพี่ชายของฉันก็ยืนอยู่บนเวทีพร้อมกับบรรดาเพื่อนๆของเขาซะงั้น แถมยังประกาศชื่อเล่นของพวกฉันผ่านไมโครโฟนให้ได้ยินกันทั้งห้องอีก
"ผมนักรบครับ เป็นเจ้าของที่นี่ ต้องขออภัยลูกค้าทุกท่านด้วย แต่ใครที่มีชื่อดังต่อไปนี้ ช่วยออกมาหาผัวพวกคุณด้วยครับ...ลูกพีช แพรวา พราวฟ้า ใบเฟิร์นและน้ำตาล"
ขวับ!
"พี่พีช..." ฉันรีบหันขวับเรียกชื่อพี่สะใภ้ตัวเองทันทีที่เห็นพี่ชายจอมโหดของตัวเองขึ้นเวทีประกาศตามหาตัวแบบนั้น ตามด้วยค่อยยิ้มหน้าเจื่อนออกไปเมื่อรู้ว่าพี่ชายของฉันเขาเป็นเจ้าของที่นี่!
ให้ตายเถอะ นี่ลูกน้องของพี่ชายฉันเอาข้อมูลปลอมมาให้ฉันเหรอ! ไอ้พี่สกายบ้าเอ้ยหลอกเอางั้นฉันไม่พอยังหลอกข้อมูลกับฉันอีก ไหนบอกว่าจะเป็นพวกเดียวกันไง
ใช่ค่ะ เพราะฉันไม่รู้ว่าจะหาข้อมูลที่ผ่านการกรองแล้วมาจากไหน ก็เลยโทรไปหาพี่สกายลูกน้องพี่ชายฉันให้ช่วยเช็กให้หน่อย พร้อมกับโอนเงินค่าปิดปากไม่ให้บอกพี่ชายฉันไปด้วย
แต่ให้ตายเถอะ ฉันมันโง่เองแหละ!
"ตาล เธอเช็กยังไงของเธอเนี่ย" เอาแล้วไงพี่สะใภ้จะกินหัวฉันแล้วไง ฮรื่อ~ ตาลขอโทษ
"พีช ฉันว่าพวกเราซวยแน่เลยว่ะ แกดูสีหน้ามาร์ตินสิ โอ้ย ฉันตายแน่ๆ อะ" พี่พราวฟ้าที่เห็นคู่หมั้นของตัวเองยืนปรายตามองหาตัวเองอยู่บนเวทีสีหน้าราบเรียบแต่แอบแฝงไปด้วยความดุบนใบหน้าหล่อๆ นั่นก็เริ่มออกอาการขยาดกลัวทันที เพราะฉันได้ข่าวว่าก่อนจะมาที่นี่พี่พราวฟ้าได้ปฏิเสธการไปออกงานกับเฮียมาร์ตินและบอกว่าจะขอพักผ่อนอยู่ที่ห้อง แต่ตัดภาพมาที่ตอนนี้สิ
ฉันว่าพี่พราวฟ้าโดนเฮียมาร์ตินจับลงโทษแน่ๆ
"พี่พีช ตาลว่าเราย่องเบากันออกไปดีกว่าพี่ พี่นักรบน่าจะไม่เห็น" ฉันที่เริ่มจะเครียดที่สุดในกลุ่มเอ่ยเสนอแนะกับพี่สะใภ้ตัวเองสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อย คือว่าตอนนี้พี่ชายของฉันยังมองไม่เห็นพวกเราทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ถ้าหากว่าพวกเราทุกคนพากันย่องเบาออกไปตอนนี้ คิดว่าน่าจะรอด
"โอเค งั้นไปกันเลย" ทันทีที่ตกลงกันเสร็จ พี่ลูกพีชก็นำทางเดินย่องเบาๆ เพื่อออกจากสถานที่อันตรายแห่งนี้
แต่...
"พีช..."
เฮือก!
"ถ้าไม่อยากเจ็บตัวคืนนี้ หยุด!"
ทันทีที่ได้ยินเสียงประกาศดักไว้ดังผ่านลำโพงอีกครั้ง ฉันก็ถึงกับสะดุ้งเฮือกใหญ่เลยทีเดียว ก่อนที่จะหันไปมองบนเวทีอีกครั้ง
แล้วก็เป็นไปตามคาดค่ะ นัยน์ตาคมปลาบของพี่ชายฉันกำลังจ้องมองใบหน้าของเมียตัวเองที่กำลังยืนยิ้มแห้งอยู่ข้างๆฉันอย่างไม่วางตาอยู่บนเวทีข้างหน้า
แต่ให้ตายเถอะ ฉันกลัวสายตาแบบนี้ของพี่ชายตัวเองที่สุดเลย เพราะมันเป็นสายตาที่ดุมากและเอาเรื่องแบบไม่ล้อเล่นเลยละ ตาย ฉันว่าตายแน่ๆ
แถมตอนนี้พี่ชายของฉันก็วางไมโครโฟนลงบนโต๊ะเดินลงจากเวทีแหวกทางเดินที่เหล่านักท่องราตรีทั้งชายและหญิงพร้อมใจกันเปิดทางให้เดินใกล้มาถึงกลุ่มของพวกฉันแล้วด้วย
เอาไงดี เอาไงดีวะเนี่ย เดินใกล้เข้ามาแล้ว...
"ไง หนีผัวเที่ยวสนุกไหม"
หมับ!
สิ้นสุดคำว่าหนีผัวเที่ยวสนุกไหมจากปากของพี่ชายฉัน เสี้ยววินาถัดมาแขนของพี่สะใภ้ฉันก็ถูกฉุดให้เดินตามออกไปข้างนอกทันที รวมไปถึงคนอื่นๆด้วยเว้นเสียแต่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่ยืนมองดูเพื่อนและพี่ๆ ถูกลากออกไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้อยู่คนเดียว
"เดี๋ยวสิ แล้วตาลอะ" ฉันวิ่งตามออกไปพร้อมตะโกนเรียกทุกคนที่ถูกลากเตรียมขึ้นรถด้วยสีหน้าเตรียมจะร้องไห้อย่างสิ้นหวัง เพราะตอนนี้เหลือเพียงแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น แม้แต่พี่ชายแท้ๆของฉันก็ไม่ได้หันมาสนใจฉันเลยสักนิด
ฮรื่อ~ แล้วประเด็นคือฉันจะกลับบ้านกับใคร มากับรถเพื่อน กุญแจก็อยู่ที่เพื่อนแต่เพื่อนโดนลากกลับไปแล้ว โอ้ย ชีวิตนะชีวิตเจอแต่อะไรก็ไม่รู้!
ยืนทำหน้าจะร้องไห้พร้อมด้วยความคิดแสนจะตึงเครียดไปมาๆเพื่อคิดหาทางกลับให้ตัวเองอย่างปลอดภัยอยู่หลายนาที ฉันก็ได้วิธีกลับบ้านอย่างปลอดภัยก็เลยหมุนตัวเตรียมจะเดินกลับไปอยู่ใกล้ประตูทางเข้า เพื่อโทรหาคนที่ฉันไว้ใจให้ช่วยมารับฉันหน่อย
แต่จังหวะที่ฉันกำลังเดินอยู่และกดโทรศัพท์หาเบอร์คนที่จะโทรออกไปพลางๆอยู่นั่น จู่ๆ อุบัติเหตุแบบไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่ออยู่ดีๆก็มีคนเดินมาชนร่างกายของฉันจนเกือบจะหงายหลังล้มไปกับพื้นข้างล่าง
ตุบ!
หมับ!
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ทันทีที่ฉันได้ยินเสียงคนชนและเป็นคนเดียวกันกับที่กำลังใช้มือรับร่างกายของฉันไว้ตอนนี้
ฉันก็รีบเด้งตัวขึ้นเพื่อเตรียมจะอ้าปากต่อว่าเขาสักหน่อยที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือมาชนฉัน…
ฟึบ!
O_o
"..."
แต่ไม่ทันจะได้อ่าปากด่า ฉันก็ต้องตะลึงตาค้างซะก่อนเมื่อเขาคนนี้คือผู้ชายคนนั้นที่ฉันเจอในลิฟต์เมื่อห้าวันก่อนนั่นเอง
ตายๆบังเอิญเจอกันอีกแล้วได้ไงวะเนี่ย!
โอ้ย ผับก็มีตั้งเยอะตั้งแยะแล้วทำไมต้องมาบังเอิญเจอกันที่นี่ด้วยก็ไม่รู้ ภาวนาเถอะ ภาวนาขอให้เขาจำฉันไม่ได้ด้วยเถอะ