บทที่ 9 "แพรวพราว"

2262 คำ
12.30น. ศูนย์อาหาร... "วันนี้ไปทานข้าวที่ศูนย์อาหารกันไหมแพร" "อื้ม ไปดิ ฉันได้หมดอะแล้วแต่แกเลย" "เคเลย" หลังจากที่เรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันกับแพรวาก็ออกมายืนตกลงกันหน้าห้องเรียนว่าจะไปทานข้าวกันที่ไหน เนื่องจากวันนี้มีแค่ฉันกับแพรวาเท่านั้นส่วนยัยเพอร์ลี่ก็ตามที่มันได้บอกไว้เมื่อเช้าว่ามันขอไปเดทกับคนคุยของมัน ฉันกับแพรวาที่ได้สถานที่ตามที่ตกลงกันแล้วก็เลยเตรียมตัวจะเดินตรงไปที่ลิฟต์ แต่... กึก! "ไอ้...โอ้ย!" ไอ้พี่ชายบ้าเอ้ยทำไมถึงได้นิสัยเสียแบบนี้เนี่ย เดินออกมาปาดหน้ากันแบบนี้ กะตั้งใจชนฉันให้กระเด็นลงไปนั่งแหมะบนพื้นใช่ไหม นิสัย! แล้วดูเขาเอาเถอะตั้งใจปาดหน้าฉันเสร็จก็เดินหายวับเข้าไปในลิฟต์พร้อมเพื่อนๆ โดยที่ไม่คิดจะหันกลับมาดูดำดูดีน้องสาวเพียงคนเดียวอย่างฉันด้วย เอาจริงๆ เลยนะ ตอนนี้ฉันโมโหพี่ชายตัวเองมาก ก็ตั้งแต่ในห้องเรียนแล้วอะที่พยายามแกล้งฉันและคอยนั่งจับผิดรุ่นพี่ไทเกอร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉัน ตอนนั้นฉันแทบจะฉี่ราดบนเก้าอี้ กลัวไอ้พี่บ้านั่นจะจับได้ว่าฉันกับรุ่นพี่ไทเกอร์รู้จักกัน อีกอย่างตั้งแต่ทิ้งฉันไว้ที่ผับหลายคืนก่อนแล้วด้วยนะ ไม่สนใจไยดีฉันไม่พอ ทิ้งๆ ขวางๆ กันนี่ยังมาแกล้งฉันสารพัดอีก คอยดูเถอะฉันมีผัวเป็นตัวเป็นตนเมื่อไหร่ ฉันจะฟ้องผัวให้มาจัดการไอ้พี่บ้านี้ให้ได้เลย ฮึ่ย! โมโหโว้ย! "แกใจเย็นนะตาล เฮียเขาแค่แกล้งเฉยๆ อะ" "แกล้งเหรอ ได้เลยเดี๋ยวฉันจะเอาคืนบ้าง ไอ้พี่ชายบ้าเอ้ย!" ใช่ เพราะฉันก็มีแผนที่จะเอาคืนไอ้พี่บ้านั่นเหมือนกัน คอยดูเถอะได้เห็นคนเลือดขึ้นหน้าแน่ หมับ! "ไปทานข้าวที่ไหน" หลังจากที่ฉันทำท่าจะก้าวขาเดินตรงไปที่ลิฟต์ด้วยความโมโหไอ้พี่นักรบ จู่ๆ ก็มีมือหนาของใครบางคนคว้าข้อมือของฉันไปจับไว้ก่อนจะเอ่ยถามเสียงทุ้มออกมา และเพราะเสียงทุ้มของเขาที่ฉันจำได้ดีว่าเหมือนเสียงของใคร จึงรู้ได้ทันทีว่าเขาคือใครก่อนที่จะค่อยๆ หมุนตัวหันไปหาอย่างช้าๆ "คุณ..." ทันทีที่ฉันหันไปหาคนที่จับมือของฉันไว้ ก็ปรากฏว่าเป็นคนที่ฉันคิดไว้จริงๆ ด้วย และตอนนี้เขาก็ยืนยิ้มหล่อให้ฉันด้วย "ครับ ผมเองตกใจเหรอ" "เปล่าค่ะ เห็นคุณออกไปก่อน ฉันก็นึกว่าคุณลงไปแล้ว" ตอนที่อาจารย์เลิกสอนแล้วเดินออกไปจากห้องเรียนได้ไม่ถึงหนึ่งวินาที คนที่ลุกขึ้นตามอาจารย์ออกไปติดๆ ก็คือเขานี่แหละ ตอนนั้นฉันก็แอบสงสัยนะว่าเขาจะรีบไปไหนหรือเปล่า หรือว่ารำคาญฉันกับพี่นักรบที่นั่งทะเลาะกันก็เลยรีบลุกออกไป เอาจริงตอนนั้นฉันก็แอบหน้าเสียอยู่ไม่น้อยเลยนะที่เห็นเขารีบลุกออกไปแบบนั้น แต่ที่ไหนได้... "ผมรอคุณอยู่ แต่ไม่อยากให้คุณลำบากถ้าพี่ชายคุณเห็น ก็เลยแอบรอให้พี่คุณลงไปก่อน" "อ่อค่ะ..." ใช่ค่ะ เขาแอบมารอฉัน โดยที่ให้พี่บ้านั่นลงไปก่อนเพราะกลัวฉันจะโดนพี่ชายดุละมั้ง แต่เอาจริงๆ พี่ชายไม่ดุฉันหรอกแต่อาจจะหาเรื่องเขามากกว่าถ้าเข้าใกล้ทำเป็นคุยกับฉัน เพราะขนาดตอนอยู่ในห้องเรียนพี่ชายของฉันยังมองตาขวางเป็นว่าเล่นเลย "แล้วตกลงคุณไปทานข้าวที่ไหน" คนตัวสูงตรงหน้าฉันเอ่ยถามอีกครั้ง ฉันที่ได้สติหยุดเขินก่อนจึงตอบกลับเสียงเล็กเสียงหวานกลับไป "ศูนย์อาหารค่ะ" "เค งั้นผมไปรอคุณแถวนั้น คุณลงก่อนได้เลยเผื่อพี่ชายคุณรอรับคุณอยู่หน้าประตูลิฟต์" โอ้ย! ฉันอยากเอากระเป๋าคลุมหัวแล้วนะ ยิ่งเข้าพูดเข้าแสดงออกด้วยความใส่ใจอ่อนโยนและเข้าใจฉันแบบนี้ ฉันก็ยิ่งรู้สึกใจเต้นแรงกับเขาขึ้นอีกเท่าตัวเลยอะ คิดดูสิ ผู้หญิงที่ไม่เคยได้รับการถูกเข้าหาจากผู้ชายคนไหนมาก่อนในชีวิตเลยสักครั้ง แต่จู่ๆ วันนี้กลับถูกเข้าหาเรื่อยๆ แบบนี้แถมเขาก็ไม่ได้แสดงออกว่ารำคาญหรือเบื่อหน่ายเรื่องของพี่ชายฉันด้วย เหอะให้ตายเถอะ ไม่เขินตัวบิดจนอยากแทรกแผ่นดินหนีก็เอาสิ เขินโว้ย! "อื้ม งั้นตาลลงก่อนนะ" "แทนตัวเองว่าตาลงั้นก็หยุดเรียกพี่ว่าคุณได้แล้วดิ" "พี่ไทเกอร์..." "ถ้าเรียกไทเกอร์ไม่ถนัดลองเปลี่ยนเป็น...เบ๊บได้นะ" กรี๊ดด!! หนึ่ง สอง สาม! ฉันขอกรี๊ดในใจดังๆ สามครั้ง ไม่ไหว เขารุกฉันแรงมากเลย จะบ้าเหรอเรียกเบ๊บได้ไงเล่า แฟนยังไม่ได้เป็นเลย "ได้ไงเล่า เราไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย" ฉันตอบกลับไปด้วยท่าทางเหนียมอายเบาๆ ก่อนที่จะหันไปเห็นยัยแพรวายืนมองฉันนิ่ง ทำให้ฉันที่ยิ้มเขินเมื่อกี้ถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน คือฉันลืมไปเลยไง ว่ายัยแพรวามันยังไม่ได้รู้เรื่องนี้ คนที่รู้คือยัยเพอร์ลี่ต่างหาก ให้ตายเถอะเพื่อนฉันจะเอาไปบอกเฮียไคไหมเนี่ย หมับ! "เอ่อ งั้นตาลไปก่อนนะ" ฉันคว้าแขนยัยแพรวามาจับไว้จากนั้นก็หันไปบอกคนตัวสูงตรงหน้า บอกเสร็จฉันก็ลากเพื่อนเดินออกไปจากตรงนั้นทันที "แกจะบอกฉันได้ยัง ว่ารู้จักกับผู้ชายคนนั้นได้ยังไง แล้วเมื่อกี้ท่าทางแบบนั้นคืออะไร เขากำลังจีบแกเหรอตาล" ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกและฉันก้าวขาออกมายัยแพรวาที่เดินตามหลังมาก็เอ่ยถามฉันถึงเรื่องเมื่อกี้ทันที ฉันที่ไม่สามารถจะปิดบังอะไรได้อีก จึงต้องหยุดเดินแล้วหันไปบอกความจริงทั้งหมดแทน "อืม เขากำลังจีบฉัน" "จีบแก! ยัยบ้านี้ แล้วเฮียรบรู้เรื่องนี้ยัง" "ยัง พี่ชายฉันยังไม่รู้และแกก็ห้ามบอกเฮียไคด้วยนะ" "ฉันจะบอกเฮียไคทำไม เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย" โอ้ย นี่ก็นะ ตั้งแต่ทะเลาะกับผัวมาก็งอนเก่งงอนนานมากเลย ผู้ชายง้อก็ทำเป็นเมินด้วย เหนื่อยกับคู่ของมันจริงๆ เลย "เออๆ แล้วแต่แกเลยแต่เรื่องของฉันแกห้ามบอกเฮียไคเด็ดขาดนะ" "อืม แล้วแกไปรู้จักกับเขาได้ไงอะ" เฮ้อ นึกถึงเรื่องที่รู้จักกันได้ยังไงขึ้นมา หน้าของฉันก็เห่อร้อนขึ้นมาทันที เพราะประโยคที่ฉันบอกอีกฝ่ายในวันนั้นมันดังกึกก้องในโสตประสาทฉันมาว่า 'ฉันรักคุณ' แค่นี้จริงๆ ทุกอย่างก็วิ่งเข้ามาหาฉันเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาเลย "พวกแกทิ้งฉันไว้ที่ผับคืนนั้นไง ฉันก็เลยได้เจอกับเขา" ฉันเลือกที่จะบอกความจริงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นให้เพื่อนรู้ ส่วนอีกส่วนที่น่าอายในลิฟต์วันนั้นฉันขอไม่พูดถึงละกัน "หืม พรหมลิขิตเว่อร์อะ เออๆ ยังไงก็ขอให้ได้คบกันคนนี้น่ะ เขาหล่อมากแถมยังดูโอเคกับแกเลย แบบว่ามองปราดเดียวก็รู้เลยว่าเขาโดนแกตกหัวใจไปแล้วชัวรๆ" "แกมองออกขนาดนั้นเลยเหรอแพร" "สายตาคนเรามันลอกกันได้ที่ไหนล่ะ" หืม ไลฟโค้ชเว่อร์ทีตัวเองมองผัวไม่ออกอะ ว่าเขาใจจะขาดอยู่แล้วที่ตัวเองไม่ยอมดีด้วย ยัยแพรนะยัยแพร "อืม งั้นเราไปทานข้าวกันเถอะ" หลังจากที่ฉันพูดคุยกับแพรวาเสร็จแล้ว ฉันกับเพื่อนก็เดินออกจากตึกมุ่งหน้าไปทางศูนย์อาหารกันต่อ ใช้เวลาเดินไม่นานก็ถึงศูนย์อาหาร แต่เดินอยู่ดีๆ ฉันก็เห็นแวบๆ จากระยะไกลว่ากลุ่มผู้หญิงผมบลอนด์ทองตรงหน้าเหมือนจะเป็นกลุ่มพี่สะใภ้ของฉันเลย ก็เลยไม่รีรอรีบเดินเร็วๆ เข้าไปหาทันที "จ๊ะเอ๋!" !!! "เฮือก!" ตายแล้วฉันทำพี่พีชตกใจเฮือกใหญ่เลยที่เข้ามาตะปบที่ไหล่จากทางด้านหลังแบบนั้น และเพราะเห็นแบบนั้นฉันก็เลยทำหน้าขอโทษพร้อมขยับปากพูดเบาๆ ไปแทนก่อนที่จะขยับลงไปนั่งข้างๆ พี่พีชในเวลาต่อมา "พวกพี่นั่งคุยเรื่องจะไปซื้อชุดบิกินีใช่ปะ ดีเลยพี่พีช ตาลกับแพรวาไปด้วยนะ" พอดีว่าวันสองวันนี้พวกฉันนัดกันว่าจะไปเที่ยวทะเลกันอะ ซึ่งเรื่องนี้มันก็เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ฉันตึงๆ งอนๆ กับพี่ชายของฉันที่ทิ้งฉันไว้ที่ผับคืนนั้นนั่นแหละ ก็เลยทำท่าง้อฉันด้วยการจะหนีบฉันพาไปเที่ยวทะเลด้วย "เอ้านี่พวกพี่ทานข้าวกันเสร็จแล้วเหรอคะ" "อื้ม พี่กินเสร็จแล้ว พวกตาลเพิ่งเรียนเสร็จเหรอ" พี่พีชถามฉัน แต่ดีเลยถามเข้าเรื่องแบบนี้ ฉันจะได้เอาเรื่องเมื่อเช้ามาฟ้องด้วยซะเลย แกล้งฉันดีนัก "ใช่ค่ะ เพิ่งเรียนเสร็จ แต่วันนี้โคตรเซ็งอะ ตาลเรียนวิชาเสรี แต่วิชานั้นดันมีกลุ่มของพี่นักรบเข้าไปเรียนด้วย ไม่ชอบเลย" "ไม่ชอบแล้วทำไมไม่ออกไปจากห้องอะ ทนนั่งเรียนทำไม" ทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มห้วนๆ ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ฉันก็หันขวับมองหาทันที ก่อนจะเห็นกลุ่มของพี่ชายฉันกำลังเดินใกล้เข้ามาพอดี แต่จังหวะที่ฉันกำลังกลอกตามองบนด้วยความเบื่อหน่ายพี่ชายตัวเอง ฉันก็เหลือบไปเห็นกลุ่มด้านหลังของพี่ชายฉันเลี้ยวไปทางร้านข้าวเป็นกลุ่มของพี่ไทเกอร์พอดี ซึ่งจังหวะที่เขาจะเลี้ยวไปทางร้านข้าว เขาได้หันมาสบตากับฉันด้วย ก่อนที่เขาจะพยักหน้าส่งสัญญาณไปทางร้านข้าว ประมาณว่ามาเจอกันตรงนี้นะ รู้อย่างนั้นแล้วฉันก็เลยเรียกสายตากลับไปมองพี่ชายตัวเองอีกครั้งซึ่งกำลังเดินจะถึงโต๊ะที่ฉันนั่งแล้ว ด้วยความอยากแกล้งกลับฉันก็เลยหันไปกอดแขนพี่พีชพร้อมซบไหล่แล้วพูดด้วยความไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ว่า... "ตาลเบื่อพี่ชายตัวเองอะพี่พีช" ฟึบ! "เบื่อหน้าพี่ก็ไม่ต้องมาเกาะแกะเมียพี่ หลีกไป" แต่ไอ้พี่บ้ามันเดินมาถึงและได้ยินที่ฉันพูดพอดีก็เลยดันหัวของฉันออกจากไหล่พี่พีช ไม่พอแค่นั้นไอ้พี่บ้ามันยังแกะมือของฉันออกจากแขนพี่พีชด้วย ก่อนที่มันจะยกเท้าขึ้นมานั่งแทรกกลางระหว่างฉันกับเมียตัวเอง เหอะ เล่นแบบนี้กับฉัน ฉันก็ปรี๊ดแตกเลยสิคะ "พี่อย่าเสียมารยาทแบบนี้ได้ไหมพี่รบ ตาลนั่งข้างพี่พีชก่อนพี่อีกนะ" "แล้วไง ก็นี่เมียพี่" "เหอะ" ใช่สิ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยถนอมน้ำใจน้องสาวอย่างฉันแล้วนี่ และเพราะฉันเถียงไม่ออกสุดท้ายฉันเลยเงียบแทน แต่อย่าคิดว่าที่เห็นฉันเงียบแบบนี้เพราะหมดหนทางสู้นะ ความจริงแล้วฉันกำลังงัดไม้เด็ดอยู่ต่างหากล่ะ "พี่พีช ตอนเย็นพวกพี่รอตาลกับยัยแพรด้วยนะ ที่เราคุยกันว่าจะไปซื้อชุดบิกินีกันอะ" "บิกินี?" เป็นไงล่ะ เลิกคิ้วสูงเป็นดอยอินทนนท์เลยดิ ไม่รู้แหละฉันขอไปซื้อข้าวก่อนละกันนะที่เหลือจัดการกันเองละกัน เพราะเดี๋ยวผู้ชายของฉันเขารอนาน "แพร เราไปซื้อข้าวกันเถอะ" "อืม" หลังจากที่ฉันปล่อยระเบิดเสร็จแล้วฉันก็รีบชวนยัยแพรวาเผ่นแน่บไปทางร้านข้าวทันที แต่พอเดินมาถึงร้านข้าวฉันกลับมองไม่เห็นคนที่บอกให้ฉันมาทางนี้เลย นี่เขาหายไปไหนแล้วเนี่ย! "แพร แกไปสั่งข้าวก่อนนะ เดี๋ยวฉันขอไปซื้อน้ำก่อน" "อืม" หลังจากที่ยัยแพรตอบอืมกลับมา มันก็เดินไปทางร้านข้าวทันที ส่วนฉันที่ไม่เห็นคนที่สั่งให้ฉันมาทางนี้ก็เลยหมุนตัวเตรียมจะเดินไปทางร้านน้ำแทน ทว่า... ตุบ! ฉันดันชนใครเข้าไม่รู้ แล้วประเด็นคือ จมูกกับปากของฉันดันจุ๊บตรงกลางหน้าอกของเขาเข้าเต็มๆ เลย "แต๊ะอั๋งอีกแล้วนะ เมื่อเช้าจุ๊บปาก กลางวันจุ๊บอก ตอนเย็นจุ๊บอะไรดี" ประโยคตอนต้นยังยืนพูดปกติ แต่พอประโยคสุดท้ายเขาดันโน้มตัวลงมาพูดเบาๆ ข้างหูฉันแทนนี่สิ และใช่ค่ะ คนที่ฉันชนเมื่อกี้ก็คือเขาอีกนั่นแหละ...พี่ไทเกอร์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม