บทที่ 8 "เราสองสามคน"

2013 คำ
Namtan part 10.00น. "เพอร์ ตอนเที่ยงไปกินข้าวด้วยกันไหม หรือว่าแกจะไปเดทกับพ่อหนุ่มที่คุยอยู่" หลังจากที่เรียนวิชาหลักของครึ่งเช้าเสร็จ พวกฉันสามคนก็เดินลงมาจากตึกของคณะเพื่อเดินไปเรียนวิชาเสรีที่อีกตึกหนึ่ง แต่วิชาต่อไปนี้เพอร์ลี่เพื่อนของฉันอีกคนเธอไม่ได้ลงเรียนด้วยกันมีแค่ฉันกับแพรวาเท่านั้นที่ลงเรียนด้วยกัน ก็เลยต้องถามยัยเพอร์ว่าตอนเที่ยงจะไปกินข้าวด้วยกันไหม ฉันกับแพรวาจะได้รอ "พวกแกไปกินกันได้เลย พอดีฉันนัดพ่อหนุ่มสุดหล่อไว้แล้วอะ" นั่นไง ฉันว่าแล้วเชียวว่ามันต้องแอบนัดคนที่กำลังคุยอยู่ไว้แล้วแหงๆ "อืมๆ งั้นก็แยกกันตรงนี้เลยนะ จะได้เวลาเรียนต่อแล้วอะ ปะแพร" บอกยัยเพอร์เสร็จ มันก็พยักหน้ารับรู้ไว้ ฉันก็เลยหันไปดึงข้อมือยัยแพรวาออกจากตึกคณะแล้วรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปทางตึกที่จะใช้เรียนในอีกห้านาทีทันที เฮ้อ เวลาเดี๋ยวนี้มันก็ช่างเดินเร็วจริงๆ เมื่อกี้ฉันยังเห็นว่ายังพอมีเวลาอยู่เลยแต่ตัดภาพมาที่ตอนนี้สิ กลายเป็นว่าพวกฉันต้องวิ่งเร็วๆ แข่งกับเวลาซะงั้น ฉันเคยคิดว่าห้านาทีมันยังพอทันนะแต่ตอนนี้คือไม่ใช่แล้วอะ มันจะไม่ทันอยู่แล้วแม่เอ้ย! "แพร! แกวิ่งเร็วๆ หน่อยเดี๋ยวไม่ทันลิฟต์นะ" หลังจากที่วิ่งเข้ามาในตึกที่เป็นสถานที่เรียนวิชาเสรีแล้ว ฉันก็เห็นแวบๆ ว่ากำลังมีคนกำลังทยอยเดินเข้าลิฟต์ไปพอดี ก็เลยรีบหันไปบอกให้ยัยแพรวารีบสปี๊ดเท้าให้ไวขึ้นจะได้ทันลิฟต์ตัวนี้ไปเลย "เดี๋ยวค่ะ! ขอไปด้วยค่ะ!" ฉันเห็นว่าประตูลิฟต์กำลังจะปิดก็เลยตะโกนนำไปก่อน โชคดีที่คนด้านในลิฟต์ได้ยินเสียงของฉันเขาเลยรีบกดเปิดประตูลิฟต์ให้ฉันอีกครั้ง ฉันกับแพรวาที่วิ่งมาถึงหน้าลิฟต์พอดีได้แต่ยืนก้มหน้าชันเข่าหอบแฮกๆ อยู่หน้าลิฟต์อย่างเหนื่อยหอบ ให้ตายเถอะ เหนื่อย เหนื่อยมาก เหนื่อยเป็นบ้าเลย "จะขึ้นไหมลิฟต์อะ ยืนหอบเป็นหมาอยู่นั่น" เสียงนี้ เดี๋ยวนะเสียงนี้มันคุ้นๆ อยู่นะ แถมปากเสียแบบนี้อีก ไม่ใช่ว่า... ฟึบ! นั่นไง ฉันว่าแล้วเชียว...ทันทีที่ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่พูดเมื่อกี้ ก็เจอกับไอ้พี่ชายหมาบ้าของฉันที่กำลังยืนล้วงมือในกระเป๋ากางเกงมองหน้าฉันด้วยสายตาเบื่อโลกพอดี ฉันที่เห็นว่าเป็นพี่ชายตัวเองก็เลยเตรียมที่จะแยกเขี้ยวใส่ที่มาว่าฉันหอบเป็นหมา แต่ยังไม่ทันได้ว่าสายตาของฉันก็ดันเหลือบไปเห็นคนตัวสูงไล่เลี่ยกับพี่ชายของฉันอีกคนที่ยืนกดปุ่มเปิดประตูลิฟต์ค้างไว้อยู่ข้างๆ พอดี เท่านั้นแหละ ฉันรีบหลบสายตาของเขาพร้อมกับยกมือบังหน้าตัวเองทันที ใช่ค่ะ เขาคือคนที่บอกว่าจะจีบฉันเมื่อเช้า คนที่ทำให้ฉันหัวใจของฉันเต้นแรงและหน้าแดงจนยัยเพอร์ลี่มันจับพิรุธได้ บ้าเอ้ยแล้วนี่เขามาอยู่ในลิฟต์ตัวเดียวกันกับพี่ชายของฉันได้ไงเนี่ย "ตกลงจะขึ้นไปไหม" พี่ชายของฉันถามเสียงเข้มอีกครั้ง ฉันที่รำคาญไอ้พี่บ้าตรงหน้าก็เลยตวัดสายตามองค้อนใส่กลับไปก่อนจะตอบเสียงตะกุกตะกักในเวลาต่อมา "ขะขึ้นสิ ไปแพร" จากนั้นก็ก้าวขาเข้าไปในลิฟต์ โดยที่ตัวฉันยืนอยู่ตรงกลางระหว่างผู้ชายตัวสูงสองคนอย่างพี่ชายของฉันกับเขาที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ ฉัน ส่วนยัยแพรหลังจากที่เข้ามาในลิฟต์แล้วมันก็ถูกเฮียไคดึงไปยืนอยู่ด้านหลังด้วยกัน และใช่ค่ะ ในลิฟต์ตอนนี้มันไม่ใช่มีแค่พี่ชายของฉันกับเขา แต่มันมีเฮียตินเฮียไคเฮียพระพายอยู่ด้วยรวมถึงเพื่อนๆ ของเขาที่ฉันยังไม่รู้จักอีสามคนอยู่ด้วย สรุปก็คือในลิฟต์ตอนนี้มีหนุ่มหล่อ (ทุกคน) วิศวะช็อปแดงอยู่ในนี้ทั้งหมดแปดคนกับสาวสวยจากคณะแพทย์อย่างฉันกับแพรวาสองคน เป็นบุญวาสนาของฉันจริงๆ ที่ลิฟต์เปิดออกแล้วได้เดินออกไปเฉิดฉายพร้อมกับหนุ่มหล่อแบบนี้ เชื่อสิใครเห็นก็ต้องอิจฉากันแน่นอน เพราะที่อยู่ในลิฟต์ตอนนี้เรียกว่าระดับลูกรักพระเจ้าได้เลยนะ โดยเฉพาะคนที่ยืนอยู่ฝั่งขวามือของฉันตอนนี้ เขาหล่อมาก เขาสูงมากและเขาตัวหอมมากด้วย และแน่นอนว่ายืนอยู่ใกล้กันขนาดนี้ฉันก็แอบแหงนหน้าขึ้นแอบมองเขาอยู่เหมือนกัน แต่จังหวะที่ฉันแหงนหน้ามองเขาดันเป็นจังหวะที่เขาก็หลุบตามองฉันเหมือนกันเราสองคนก็เลยเผลอสบตาเข้ากันพอดี... ติ๊ง! แต่ว่า... "ออกมาได้แล้ว ยืนบื้ออะไรอีก" โอ้ย ไอ้พี่บ้านี้มารขัดความสุขของฉันจริงๆ เลย และใช่ค่ะ ประตูลิฟต์เปิดออกถึงชั้นที่เป็นสถานที่เรียนพอดี แต่ฉันที่โดนไอ้พี่นักรบมันพูดใส่แบบนั้นก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ก็เลยตวัดสายตามองค้อนใส่ไปอีกครั้งพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่กลับไปด้วย ก่อนที่จะเดินปึงปังออกจากลิฟต์แต่ด้วยความที่สมองมันฉุกคิดได้และเห็นว่าพี่ชายตัวเองเดินนำเข้าไปในห้องเรียนแล้ว ซึ่งห้องนั้นมันเป็นห้องที่ฉันต้องเขาไปเรียนเหมือนกัน ฉันก็แทบอยากจะวิ่งไปดึงคอเสื้อพี่ชายตัวเองออกมา! "ให้ตายเถอะเรียนตึกเดียวกันแล้วยังโชคร้ายต้องมานั่งเรียนในห้องเดียวกันอีกเหรอเนี่ย! โอ้ย!" "คุณเรียนห้องไหน" ขวับ! หลังจากที่ยืนเท้าเอวบ่นพึมพำสีหน้าเครียดเพราะพี่ชายตัวดีอยู่คนเดียว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงทุ้มดังขึ้นอยู่ข้างๆ ฉันก็เลยหันขวับมองขึ้นไปทันที ซึ่งคนที่ถามฉันเมื่อกี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาก็คือคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉันในลิฟต์เมื่อกี้นั่นแหละ และตอนนี้ที่ตรงนี้มันดันเหลือแค่เราสองคนเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ ทยอยเดินนำเข้าห้องเรียนกันไปหมดแล้ว รวมถึงยัยแพรวาที่เดินไปด้วยกันกับเฮียไคด้วย ตรงนี้ก็เลยเหลือแค่ฉันกับเขาสองคน "เอ่อ...ฉันเรียนห้องหนึ่งศูนย์สองแปดอะ คุณละ" "ผมก็เรียนห้องนั้นเหมือนกัน" พอได้ยินเขาบอกว่าเรียนห้องนั้นเหมือนกัน หัวใจของฉันก็เริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง ฉันคงกำลังจะเป็นบ้าแน่ๆ ที่จู่ๆ ก็รู้สึกเขินแบบนี้ แต่เขินได้ไม่นานหรอกฉันก็เห็นอาจารย์เดินผ่านพวกเราสองคนกำลังจะเข้าห้องเรียนที่เราสองคนต้องเข้าไปนั่งเรียนพอดี ผีบ้าตัวกล้าในร่างกายของฉันก็เลยกำเริบออกมาฉุดข้อมือหนาของคนข้างๆ ลากไปทางห้องเรียนทันที ซึ่งตอนนี้อาจารย์ผู้สอนเข้าไปยืนอยู่หน้าชั้นเรียนแล้ว ฉันกับคนตัวสูงที่ตามมาทีหลังจึงค่อยๆ ย่องเข้าไปแทน แต่ให้ตายเถอะ ในห้องตอนนี้เก้าอี้เรียนเต็มทุกตัวเลย ยกเว้นไอ้ตรงแถวที่พี่ชายของฉันนั่งอยู่ ซึ่งตรงนั้นว่างอยู่สองตัวพอดี แต่ประเด็นคือ ถ้าเดินไปนั่งตรงนั้นภาพที่จะเห็นต่อไปนี้ก็คือ ฉันนั่งกลางขนาบข้างซ้ายขวาด้วยพี่ชายตัวเองกับคนที่ฉันจับมือตอนนี้นี่แหละ เฮ้อ~ ฉันไม่อยากนั่งเรียนข้างพี่ชายตัวเองเลย เพราะน่าจะไม่ได้เรียนอย่างสงบสุขแน่ๆ "เหลือว่างสองตัวอยู่ตรงนั้น รีบเดินไปเถอะ อาจารย์จะสอนแล้ว" คนที่ฉันยังจับมือเขาอยู่พยักพเยิดหน้าบอกฉันไปทางเก้าอี้ตัวที่ว่างข้างๆ พี่ชายของฉันท่าทางชิวๆ ว่ายังว่างอยู่ในขณะที่ฉันกำลังเครียดจะตายกับเหตุการณ์ในหัวอีกสามนาทีข้างหน้าถ้าเดินไปนั่งอยู่ตรงนั้น แต่ให้ตายเถอะ สุดท้ายฉันก็เลือกอะไรไม่ได้เพราะมันไม่มีที่ให้นั่งแล้ว ก็เลยต้องจำใจเดินไปนั่งข้างพี่นักรบในที่สุด โดยที่ไม่ลืมปล่อยมือคนที่ฉันจับไว้เมื่อกี้ให้เป็นอิสระ ฟุบ! "ทีหลังเข้ามาก่อนอาจารย์ไม่ใช่อาจารย์เข้ามาก่อนตัวเอง" เห็นไหมแค่ฉันหย่อนก้นสวยๆ นั่งลงบนเก้าอี้เสียงนกเสียงกาแถวนี้มันก็เปล่งเสียงอันน่ารำคาญออกมาทันที ก่อนที่จะตวัดมองเลยไปถึงคนที่กำลังจะนั่งข้างๆ ฉันตานิ่ง "เจอกันอีกแล้วนะ" "อืม" "มึงเรียนเอกอะไร" "โยธา" สิ้นสุดคำว่าโยธาจากรุ่นพี่ไทเกอร์ที่นั่งข้างๆ ฉัน ทุกอย่างก็เข้าสู้สภาวะเงียบ และฉันก็เพิ่งรู้ว่าวันนี้พี่ชายของฉันเจอคนข้างๆ มาแล้วและอีกหนึ่งข้อคือ ฉันเพิ่งรู้ว่าเขาเรียนเอกโยธา... แต่ใดๆ เลยนะ ฉันสงสัยมากว่าสองคนนี้ไปเจอกันได้ยังไง แล้วตอนที่เจอกันคุยอะไรกันไปแล้วบ้าง โอ้ยเครียดโว้ย! "เปิดชีทเรียนได้แล้ว" "รู้แล้วค่ะ กำลังเปิดอยู่พี่ไม่เห็นหรือไง" ฉันตอบพี่ชายตัวเองไปแค่นั้น หลังจากนั้นก็นั่งเงียบมองจอโปรเจคเตอร์ข้างหน้าแทนโดยที่เลือกจะไม่สนใจไอ้พี่ชายข้างๆ อีก . . . สิบห้านาทีผ่านไป... ป๊อก! "โอ๊ย! พี่รบ นี่พี่ดีดหน้าผากตาลทำไมเนี่ย" "พ่อแม่ส่งมาเรียนไม่ใช่หรือไง แล้วหลับทำไม เมื่อคืนไม่ได้นอนหรือไง" "ตาลแค่พักสายตาเฉยๆ เถอะ ไม่ได้หลับลึกสักหน่อย" ปึก! "เผื่อหายง่วง" หลังจากที่ฉันกับพี่ชายนั่งเถียงกันหน้าบูดหน้าบึ้ง ไม่นานลูกอมก็ถูกวางไว้บนโต๊ะของฉัน ฉันก็เลยรีบมองหน้าคนที่ให้ทันทีก่อนที่จะสลับมองหน้าพี่ชายตัวเองที่กำลังมองคนที่แบ่งลูกอมให้กับฉันตานิ่ง แต่ในความแน่นิ่งของสายตาคู่นั้น ฉันกลับรู้สึกว่ากำลังถูกจับพิรุธบางอย่างอยู่ หรือว่าพี่ชายของฉันกำลังเคลือบแคลงใจว่าคนข้างๆ ฉันกำลังจีบฉันอยู่! หมับ! "อะเอ่อ พี่รบพี่หันไปมองหน้าอาจารย์นู้นไป" ทันทีที่ฉันคิดได้ดังนั้นฉันก็รีบใช้ฝ่ามือตัวเองปัดหน้าพี่ชายให้หันไปมองหน้าอาจารย์ผู้สอนทันที ก่อนที่จะนั่งเงียบๆ แอบระแวงพี่ชายตัวเองเล็กน้อย ส่วนพี่ชายของฉันที่โดนฝ่ามือของฉันปัดหน้าจอคอแทบเคล็ดเมื่อกี้ ก็เล่นมองฉันด้วยหางตาทันที แต่ฉันไม่สนหรอก ตอนนี้เวลานี้ฉันต้องรีบคุมสติที่กระวนกระวายใจของตัวเองสงบนิ่งไวๆ เพื่อไม่ให้พี่ชายตัวเองเห็นอาการเด็ดขาด และด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะจัดการอาการตัวเองยังไง ฉันก็เลยหยิบลูกอมบนโต๊ะแกะเข้าปากแทน จากนั้นก็นั่งเรียนเงียบๆ ไปจนถึงหมดคาบในที่สุด ให้ตายเถอะนี่คงจะเป็นความเงียบที่ดังที่สุดในชีวิตของฉันแล้วมั้ง อยากจะบ้าตาย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม