คณะวิศวกรรมศาสตร์...
"ไอ้เหี้ยเกอร์ ทางนี้เว้ย!"
แทนไทโบกมือพร้อมตะโกนเรียกชื่อเพื่อนสนิทอย่างไทเกอร์เสียงดังลั่น หลังจากที่เห็นเพื่อนเดินมาจากคณะแพทย์มาแต่ไกล ทำให้ไทเกอร์ที่ได้ยินเพื่อนเรียกชื่อตัวเองต้องตวัดสายตามองหาตามที่ได้ยิน พอเห็นว่าเพื่อนๆ สามคนอย่าง แทนไท ฮันเตอร์ เจโรมนั่งอยู่ที่โต๊ะในลานคณะก็ส่งสัญญาณรับรู้ด้วยการพยักหน้ากลับไปแทน ก่อนที่จะเดินตรงไปหากลุ่มเพื่อนในที่สุด
ฟุบ!
"ไง รถอยู่ตรงนี้แต่คนไปไหน มันยังไงวะ ถึงได้เดินมาจากตึกคณะแพทย์ได้อะ" ฮันเตอร์หนึ่งในเพื่อนสนิทอีกคนของไทเกอร์เอ่ยแซวขึ้นทันทีที่ไทเกอร์หย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าตัวเอง
ซึ่งสาเหตุที่เขาแซวออกไปแบบนั้นก็เพราะหลังจากที่ตัวเขาขับรถมาถึงมหาวิทยาลัยก็เข้าจอดรถใกล้ๆ กับรถของไทเกอร์ แต่พอเดินมานั่งที่ประจำกลับไม่มีเจ้าของรถอย่างไทเกอร์นั่งรออยู่ ตอนนั้นก็เอะใจว่าเพื่อนไปไหน รถอยู่นี้แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้ไปอยู่ไหน จนกระทั่งที่เห็นเพื่อนเดินกลับมาจากทางไปตึกคณะแพทย์ถึงได้เข้าใจว่าเพื่อนไปไหนมา
"ไปส่งน้ำตาลมา" เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกสีหน้าราบเรียบก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น แต่คำตอบของเขาเมื่อกี้กลับทำให้แทนไทเพื่อนสนิทอีกหนึ่งคนที่รู้เรื่องระหว่างไทเกอร์กับน้ำตาลดีถึงกับอุทานเสียงดังออกมา
"เฮ้ย! เดี๋ยวนะ มึงไปส่งน้องเขาเหรอวะ แปลว่ามึงกับน้องเขาคบกันแล้ว?"
"ยัง แต่กูบอกเขาแล้วว่ากูจีบอยู่"
"เชี้ยเกอร์ มึงแม่งเอาจริงดิว่ะ" แทนไทถึงกับสบถออกมาพร้อมด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูตื่นเต้นปนตกใจอยู่ไม่น้อยที่เพื่อนตอบกลับมาแบบนั้น เพราะไม่คิดว่าเพื่อนจะจริงจังและเอาจริงขนาดนี้
ปกติดูไม่สนใจอะไร นอกจากสนใจรถที่อู่ตัวเองแต่ตอนนี้เพื่อนกลับสนใจสาวคณะแพทย์ท่าทางจริงจังขนาดนี้ พวกเขาคงมีแววจะได้เห็นหนุ่มหน้านิ่งยิ้มเพราะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนมากขึ้นก็คราวนี้แหละ
"ถ้ากูล้อเล่น ที่ผับคืนนั้นกูคงไม่เดินตามออกไป" ตอบเพื่อนเสร็จสายตาคมเสน่ห์แต่แอบแฝงรอยยิ้มในดวงตาคู่นั้นก็ช้อนตาขึ้นมองหน้าเพื่อนสามคนเรียงกันอย่างแพรวพราว จนเพื่อนที่ได้เห็นสีหน้าและท่าทางนั้นยิ้มพร้อมสบถออกมาพร้อมกัน
"สัสเอ้ย แม่งเอาจริงว่ะ แต่ไอ้เหี้ยนักรบแม่งดุมากเลยนะเว้ย หวงน้องยิ่งกว่าอะไร มึงเอาจริงเหรอวะ" เจโรมเป็นคนตั้งคำถามขึ้น เพราะเรื่องของไทเกอร์กับน้ำตาลเขาก็พอรู้มาคร่าวๆ จากแทนไทมาบ้างแล้ว และเขาเองก็รู้จักนักรบพี่ชายของสาวในดวงใจของเพื่อนด้วยว่ารายนั้นมันดุแค่ไหน
ไม่งั้นตำแหน่งเฮดว้ากประจำคณะก็คงไม่ตกเป็นของมัน
"อืม กูเอาจริง"
"ไอ้เหี้ยเกอร์!"
ขวับ!
ทันทีที่ตอบเพื่อนๆ ทั้งสามคนเสร็จไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยตะโกนแทรกเรียกชื่อตัวเองดังมาจากมุมไหนสักแห่งหนึ่งของบริเวณที่นั่งอยู่ ไทเกอร์ก็เลยรีบมองหาต้นเสียงทันที ก่อนจะเจอกับพระพายที่เดินมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนอย่างไคโร มาร์ตินและนักรบผู้ซึ่งเป็นพี่ชายของน้ำตาลสาวสวยที่เขากำลังจีบอยู่ ซึ่งกำลังเดินตรงมาทางเขาที่กำลังนั่งอยู่ก็เลยพยักหน้าทักทายกลับไปเบาๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินมาถึงในที่สุด
"ไง วันนี้เรียนเช้าเหมือนกันอ่อว่ะ" พระพายเอ่ยถามสีหน้ายิ้มปกติยามเจอญาติคนสนิทอย่างไทเกอร์ที่โตมาด้วยกัน
"อืม มึงอะ"
"เหมือนกัน เออกูลืมแนะนำว่ะ นี่เพื่อนกูไอ้ไคไอ้ตินแล้วก็ไอ้นักรบ คนนี้มีน้องสาวด้วยนะ น้องมันอย่างสวยเลย เผื่อมึงอยากจีบ"
ผัวะ!
"ยุ่งเหี้ยไรกับน้องกูไอ้พาย" นักรบที่มองไทเกอร์อยู่ยกมือขึ้นไปตบหัวของพระพายทันทีที่เพื่อนลามปามไปหาน้องสาวที่เขาหวงยิ่งกว่าอะไรให้ญาติตัวเองฟัง
"แหม่ มึงก็นะ น้ำตาลมันโตพอที่จะมีผัวได้แล้วนะ เผื่อมึงไม่รู้" พระพายที่โดนมือสังหารของนักรบเข้าด้านหลังของศีรษะเมื่อกี้ว่าขึ้นพร้อมใช้มือลูบบริเวณที่โดนเพื่อนฟาดใส่เมื่อกี้เสียงขึงขังเล็กน้อย
"ผัวเผออะไร น้องกูไม่ต้องมีผัวหรอก ได้ประเภทเฮงซวยมากูขี้เกียจไปกระทืบ" ปากว่าแต่สายตากลับจ้องใบหน้านิ่งๆ ของไทเกอร์นิ่ง ขณะที่ไทเกอร์เองก็เลือกที่จะจ้องตานักรบกลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน กลายเป็นว่าตอนนี้ต่างคนต่างจ้องตากัน โดยที่นักรบยังไม่รู้ว่าทำไมไทเกอร์ถึงเลือกที่จะจ้องตากับตัวเองแบบนี้ แต่ระหว่างที่จ้องตากันก็แอบมีความสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าทำไมญาติของเพื่อนถึงได้จ้องตากับเขาแบบนี้
"หึ ไอ้คนเฮงซวยมันก็มีจริงนั่นแหละ แต่คนดีๆ มันก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย" ไทเกอร์ตอบกลับนักรบพร้อมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย จากนั้นก็จ้องตากันต่อโดยที่ไม่มีใครยอมแพ้เหมือนเดิม
จนเพื่อนๆ อย่างแทนไทถึงกับแอบกระซิบกันขณะที่สายตาก็สลับมองกันระหว่างนักรบกับไทเกอร์ที่กำลังจ้องตากันจนเหมือนมีประกายไฟช็อตออกมาจากดวงตาของทั้งคู่ยังไงอย่างงั้น
"เชรด~ มันเอาจริงด้วยวะไอ้เตอร์ กูว่านี้งานสนุกว่ะ รอดูได้เลย"
"เห้ย! เออๆ กูว่าพวกกูไปเรียนก่อนดีกว่า ไอ้เกอร์ว่างๆ ไปแทงสนุกที่บ้านด้วยนะ ป๊ากูถามหามึงหลายวันล่ะ" พระพายที่เริ่มเห็นสายตาของเพื่อนและญาติคนสนิทที่จ้องมองกันมันดูแปลกๆ จึงรีบแทรกขึ้นอย่างเป็นห่วงเพราะกลัวว่าจ้องกันไปจ้องกันมาจะกลายเป็นเรื่องกันซะก่อน อีกอย่างทั้งญาติอย่างไทเกอร์และเพื่อนสนิทอย่างนักรบทั้งคู่ก็มีนิสัยคล้ายกันด้วยคือ นิ่งๆ แต่เอาเรื่องใช้ได้ เขาจึงขอแยกสองคนนี้ออกก่อน
"อืม ฝากบอกลุงทัพด้วยละกัน ว่าช่วงนี้กูไม่ค่อยว่าง จีบสาวอยู่" ไทเกอร์พูดจบก็ละสายตาจากนักรบมองหน้าพระพายในภายหลัง ทำให้พระพายที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับสบถออกมาด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าไทเกอร์ที่โตมาด้วยกันที่โสดมาตลอดอายุยี่สิบเอ็ดปีจะมีวันที่พูดว่าจีบสาวอยู่
"ไอ้เหี้ย เออๆ กูบอกให้ละกัน งั้นกูไปก่อนนะ"
"อืม"
"ไอ้เหี้ย~ มึงแม่งอย่างเอาเลยว่ะไอ้เกอร์ แล้วนี่มึงพูดแบบนั้นไอ้นักรบมันรู้ทีหลังว่ามึงหมายถึงน้องสาวมัน มันจะไม่รีบมากระทืบมึงอ่อว่ะ" คล้อยหลังกลุ่มของพระพายเดินจากไปจนพ้นสายตาไปแล้ว ฮันเตอร์ก็แซวขึ้นพร้อมพูดตามที่ตัวเองคิดทันที
เพราะเท่าที่เขาแอบจับสังเกตในสายตาของนักรบเมื่อกี้ ดูเหมือนฝั่งนั้นจะแอบเคลือบแคลงใจกับประโยคคำพูดของไทเกอร์อยู่ไม่น้อย
"กลัวอะไรกับคนอย่างมันว่ะ มึงอย่างลืมกูก็มีตีน อีกอย่างกูชอบน้องมัน ไม่เกี่ยวกับมัน อยากเปิดก็เข้ามา"
"ไอ้สัส บทจะห้าวมึงก็ห้าวขึ้นมาเลยนะ แต่ทางที่ดีอะอยากได้น้องสาวเขามึงก็ต้องเอาใจพี่ชายอย่างมันหน่อยสิวะ ตัวลูกยังขนาดนี้ตัวพ่อจะขนาดไหนวะ" แทนไทพูดขึ้น แต่เป็นการพูดบอกเตือนเพื่อน ไม่อยากให้เพื่อนมองพี่ชายคนที่ตัวเองจะจีบเป็นศัตรูเพราะไม่อย่างนั้นมันจะไม่ราบรื่น ทางด้านไทเกอร์ที่ได้ฟังแบบนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ นอกจากพยักหน้ารับรู้เฉยๆ เท่านั้น
เนื่องจากเขาเองก็ไม่ได้สนใจที่จะมีเรื่องกับพี่ชายของน้ำตาลอยู่แล้ว แต่ก็ไม่อยากอ่อนข้อจนเกินไปเหมือนกัน
"ปะ กูว่าพวกเราไปเรียนกันเถอะ ใกล้จะได้เวลาละ" เจโรมกล่าวเสร็จก็ลุกขึ้นก่อนเป็นคนแรก จากนั้นก็เดินนำเพื่อนๆ ทุกคนเข้าตึกคณะในที่สุด