บรรยายภายในรถเต็มไปด้วยความตึงเครียดระหว่างคนทั้งสองคนที่เพิ่งวางมวยใส่กันมาหยก ๆ กว่าจะได้ออกเดินทางเวลาล่วงเลยมานานมากโขแต่ทั้งหมดทั้งมวลจะโทษใครได้นอกจากผู้ชายที่นั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ข้างกายเธอ กว่าจะพากันเสด็จมาขึ้นรถได้ แพรไหมกับธาราก็ฟาดฟันกันอยู่พักใหญ่อย่างไม่มีใครยอมใคร
แพรไหมหันหน้าเข้าหากระจกมองรถที่วิ่งสวนไปมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย แพรไหมจมดิ่งในภวังค์ความคิดของตัวเองหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีตระหว่างเธอกับธารา
ภาพความทรงจำเมื่อครั้งวันวานไหลเข้ามาเป็นฉาก ๆ เมื่อก่อนตอนที่เธอนั่งรถไปคุยงานกับธาราหรือเราไปไหนด้วยกันบรรยากาศภายในรถจะเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วของเราสองคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไร้สาระ เรื่องงาน หรือแม้แต่แชร์เรื่องส่วนตัวให้กันฟัง ความสัมพันธ์ตอนนั้นระหว่างเรามันดีมาก ๆ เราต่างเป็นพี่น้องและเป็นเจ้านายกับเลขาที่สนิทกัน ความสัมพันธ์ ณ ตอนนั้นกับตอนนี้ช่างต่างกันริบหรี่
ณ วันนี้ระหว่างเธอกับเขามันไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลยสักอย่าง เธอกลายเป็นคนที่เขาเกลียดชังและไม่ชอบหน้า ขณะที่เขาสำหรับเธอยังเป็นพี่เทียนคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หากเลือกได้แพรไหมอยากให้ความสัมพันธ์ของเราคงเดิมแม้นว่าเธอจะไม่ได้รักกับเขา แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องโดนธาราเกลียดชังอยู่แบบนี้
หวนนึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ ดวงตาที่เคยสดใสหม่นเศร้าลงจนดูน่าอนาถ ภายใต้รอยยิ้มมีความสุขจะมีสักกี่คนที่รู้ว่าแท้จริงแล้วเธอแบกรับความรู้สึกอะไรเอาไว้บ้าง จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้บอบช้ำแค่ไหนเพียงใช้นิ้วสะกิดเล็กน้อยเลือดที่คลั่งค้างอยู่ภายในก็แทบทะลักออกมาด้วยความเจ็บปวด
“เป็นอะไรของเธออีกจะเล่นบทนางเอกให้ฉันตามง้ออีกหรือไง” นั่งรถกันมาได้สักพักธาราที่เห็นว่าหญิงสาวเงียบแปลก ๆ จึงชายตามอง เขาเห็นว่าเธอเอาแต่นั่งหันหน้าเข้าหากระจกก็อดรู้สึกแปลก ๆ ไม่ได้ เอ่ยค่อนขอดเธอด้วยความหมั่นไส้เพราะคิดว่าแพรไหมกำลังเรียกร้องความสนใจจากตัวเองอยู่
“แพรจะเป็นอะไร จะเล่นบทไหนแล้วมันทำไมคะ ทำอย่างกับว่าพี่เทียนเคยง้อแพรอย่างนั้นแหละ”
“เหอะ” ธาราเค้นหัวเราะขึ้นจมูกกับคำตอบอวดดีของหญิงสาว “ไม่เคยง้อ เพราะฉันไม่อยากง้อเธอต่างหากเธอไม่ได้พิเศษสำหรับฉันขนาดนั้น“ วาจาของเขาเสียดแทงใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แพรไหมหันมองหน้าเขาเพียงนิดแวบหนึ่งแววตาของเธอวูบไหวอย่างหนักคล้ายน้ำตามันจะไหล
แพรไหมรีบหันหน้าหนีธาราไปอีกทางด้วยความว่องไวกลัวว่าเขาจะเห็นความวูบไหวในแววตาของเธอ แพรไหมไม่อยากดูน่าสมเพชในสายตาของธาราไปมากกว่านี้อีกแล้ว
”หรือว่าเธออยากให้ฉันง้อกัน“ น้ำเสียงแดกดันเปล่งถามออกมา
”ไม่จำเป็นหรอกค่ะ“
”ก็คงต้องเป็นแบบนั้นเพราะฉันไม่คิดง้อคนอย่างเธอหรอก“
แพรไหมเม้มริมฝีปากแน่นขบกลั้นความรู้สึกขมขื่นให้ลึกสุดใจ ภายในอกบีบรัดจนเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่ากับวาจาเสียดแทงใจของเขา แพรไหมไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าทำไมธาราถึงใจร้ายกับเธอมากขนาดนี้ ไม่มีสักเสี้ยววิในความรู้สึกของเขานึกสงสารเธอบ้างหรือไง จะใจร้ายกับเธอไปถึงไหน จงเกลียดจงชังเธอไปถึงเมื่อไหร่ จนถึงวันนี้แพรไหมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเธอทำผิดอะไรธาราถึงได้เกลียดเธอเข้ากระดูกดำถึงขนาดนี้
บรรยากาศภายในรถกลับมาตึงเครียดขึ้นอีกครั้งแต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะรุนแรงกว่าครั้งก่อนหน้า เมื่อแพรไหมเอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาบอกตามตรงว่าธาราไม่ชินที่อีกคนเงียบไปจนกลายเป็นธาราที่กระวนกระวายอยู่ไม่ติดเสียเอง เขาลอบมองเสี้ยวหน้าแพรไหมเป็นระยะ
“เป็นอะไรของเธออีก เรียกร้องความสนใจจากฉันหรือไง” แต่คนปากหมายังไงก็ปากหมาอยู่วันยันค่ำ
“พี่เทียนช่วยเงียบ ๆ หน่อยได้ไหม แพรชักจะรำคาญพี่เทียนแล้วนะคะ”
ธารานิ่งอึ้งอย่างไม่คิดว่าแพรไหมจะกล้าพูดแบบนั้นกับเขา เขาจ้องเธอนิ่งแววตาฉายความคุกรุ่นขึ้นมา นับวันยิ่งจองหองกับเขาใหญ่แล้วนะ
“นี่เธอปีกกล้าขาแข็งถึงขนาดนี้แล้วเหรอ”