พรึ่บ
ธาราคว้าแขนเรียวของแพรไหมก่อนออกแรงกระชากแขนเรียวของเธออย่างแรงให้ถลาเข้ามาใกล้ แม้ว่าแพรไหมจะดีดดิ้นไม่ยอมแค่ไหนแต่แรงผู้หญิงมีหรือจะสู้แรงผู้ชายได้ เธอโดนธาราตะโบมจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างคนเอาแต่ใจ เขาทั้งดูดดึงทั้งขบเม้มอย่างป่าเถื่อนจนแพรไหมสัมผัสได้ถึงรสชาติฝาดของเลือดติดอยู่ที่ริมฝีปาก ใบหน้าสวยของแพรไหมเหยเก คิ้วขมวดเข้าหากันเป็นปมกับความเจ็บปวดที่ธารามอบให้
มือบางระดมทุบไหล่แกร่งหวังให้ธาราปล่อยเธอให้เป็นอิสระ หวังให้ธาราหยุดการกระทำเอาแต่ใจของเขาสักที
“แฮ่ก” แพรไหมรีบกอบโกยอากาศเข้าปอดเมื่อธาราปล่อยเธอให้เป็นอิสระ หญิงสาวช้อนสายตามองธาราตาขวาง เจ็บใจยิ่งนักเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูสะใจมากของเขา แต่เธอไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย
“ไง” ธาราถามยียวนไม่สะทกสะท้านกับการกระทำของตัวเองเลยสักหน่อย แววตาที่มองแพรไหมมีแต่ความเยาะเย้ยและเย้ยหยัน มีแต่ความสนุกและสะใจอยู่ในนั้น ยิ่งเห็นริมฝีปากบวมเจ่อของเธอรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจก็ผุดขึ้นบนหน้าหล่อเหลา “จูบของฉันหวานถึงใจเธอไหม”
“หยุดพูดจาทุเรศกับแพรสักทีได้ไหม”
“ทุเรศตรงไหน เธอกับฉันเราเป็นผัวเมียกัน เอากันมานับครั้งไม่ถ้วนพูดจาแค่นี้อย่าทำเป็นกระแดะหน่อยได้ไหม อย่าทำเป็นใสทั้งที่ตอนโดนฉันเอาเธอครางโคตรเสียว“
แพรไหมกัดฟันกรอด เนื้อตัวสั่นระริกด้วยความโกรธจัดอยากถลาเข้าไปใช้เล็บยาว ๆ ของตัวเองข่วนหน้าหล่อ ๆ ของเขาให้เลือดสาดให้สมกับความโกรธ ความเดือดดาลที่มีในตอนนี้
“โกรธเหรอครับน้องแพร“ ขณะที่เธอโกรธจนแทบควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ แต่ธาราก็หาได้สนใจเขายังคงพูดจายียวนกวนประสาทเธออยู่อย่างนั้น มองเห็นความรู้สึกพัง ๆ ของเธอเป็นเพียงเรื่องตลกขบขัน ”แหม พี่ก็แค่พูดหยอก น้องแพรจริงจังไปไหน ผัวหยอกเมียนิดหยอกเมียหน่อยมันจะเป็นอะไรไปอย่าถือสาพี่เลยนะครับ“
”แพรไม่ถือสาหรอกค่ะ” แพรไหมเหยียดยิ้มมุมปากพยายามอย่างมากในการประคองสติไม่ให้ระเบิดใส่ผู้ชายตรงหน้า “พ่อกับแม่สอนแพรมาค่ะว่าเราไม่ควรถือสาตอนที่หมามันเห่าใส่”
“แพรไหม” เขาเรียกชื่อเธอเสียงดังลั่นใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ คว้าหมับปลายคางของหญิงสาวออกแรงบีบจนแพรไหมหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด
“อ๊ะ”
“ใครสั่งใครสอนให้เธอปากดีกับฉัน” นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันที่ผู้หญิงอย่างเธอกล้าต่อปากต่อคำกับคนอย่างเขา
“ก็พี่เทียนปากดีใส่แพรก่อน แพรต้องยอมให้พี่เทียนด่าแพรอยู่ฝ่ายเดียวเหรอคะ” เธอถามกลับอย่างไม่ยอมแพ้ แววตาไร้ซึ่งความเกรงกลัวผู้ชายอย่างธาราอีกต่อไป มันดูอวดดีจนน่าใจหายแต่กลับให้ความรู้สึกสนุกแก่ธารา
“หึ” เขาขยี้หัวเราะออกมาเบา ๆ ราวกับตลกมากนักหนามองแววตาดื้อรั้นของแพรไหมอย่างนึกสนุก
เขาละชอบจริง ๆ คนอวดดีแบบนี้ ธาราเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแพรไหมจะอวดดีกับเขาได้สักกี่น้ำ
“ก็ดี อวดดีแบบนี้แหละฉันชอบ” ธาราเหยียดยิ้มมุมปาก แพรไหมรู้สึกเสียวสันหลังวาบกับรอยยิ้มร้ายกาจของเขา “แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอต้องรู้นะว่า…คนอวดดีมักเจอดีทุกราย”
เขาข่มขู่เธอผ่านคำพูดเย้ยหยันพวกนั้น แพรไหมนึกหวั่นแต่พยายามเก็บซ่อนสีหน้าแห่งความหวาดกลัวเอาไว้ เธอจ้องเขากลับอย่างไม่หลบสายตาไปไหน จ้องลึกเข้าไปในนัยน์ตาคมบอกเป็นกลาย ๆ ว่าต่อไปเธอจะไม่ยอมให้เขารังแกเธออยู่ฝ่ายเดียวอีกแล้ว
หลังจากสู่รบตบมือกับธาราอยู่นานมาก หลังจากที่เธอยกอาหารไปเสิร์ฟเขาถึงโต๊ะ แพรไหมก็ขอตัวขึ้นห้องมาอาบน้ำแต่งตัวใหม่ การที่เธอต้องสู้รบกับคนอย่างธาราในแต่ละวันไม่ง่ายเลย ทะเลาะกันแต่ละทีเหมือนเขาสูบพลังของเธอไปจนหมด ทำงานทั้งวันยังไม่เหนื่อยเท่ากับการที่แพรไหมต้องรับมือกับคนอย่างธารา
แพรไหมนั่งมองตัวเองผ่านกระจกที่สะท้อนใบหน้าสวยของตัวเองอยู่ด้วยความรู้สึกมากมาย เงาในตาที่สะท้อนถึงความเศร้าชวนให้เธอรู้สึกใจหาย ผู้หญิงที่เกิดมาบนความเพียบพร้อมไร้ข้อติอย่างเธอไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งต้องมานั่งรู้สึกแย่เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีค่าในสายตาของเขาคนนั้น
แพรไหมรักธาราเต็มอกและเธอก็อยากได้รับความรักกลับจากเขาเหมือนกัน แม้ว่าแพรไหมจะรู้ดีว่ามันอาจจะไม่มีวันนั้นแต่เธอก็ยังหวัง ว่าในสักวันเขาจะรักเธอตอบ สักเสี้ยววิก็ยังดีเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ