ตอนที่ 8 เบบี้ชาร์ค

2025 คำ
ตอนที่ 8 เบบี้ชาร์ค “รุซ พี่เคยเห็นฉลาม อะเปล่า” สมุดภาพรูปสัตว์ชนิดต่างๆ ถูกนำมาเปิดกางอยู่บนเตียงนอน เด็กน้อยวัยอยากรู้ช่างสงสัยเงยหน้าขึ้นมาถามผม นิ้วจิ้มชี้ลงไปยังภาพของฉลามบนหน้ากระดาษ “เคยสิ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ พี่เคยไปดูมันในพิพิธภัณฑ์ ตัวใหญ่มากเลย” “ลูก้า อยากไปดูฉลามเหมือนกัน รุซพาลูก้าไปดูฉลามได้มั้ย” เจ้าตัวน้อยลากหนังสือคลานมานั่งลงบนตักผม “ลูก้าอยากไปดูฉลามเหรอครับ” “อื้อ เบบี้ชาร์ค ดะดุ๊ ดะดุ๊ ดุ๊ ดุ๊...” “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ลูก้าเต้นอะไรเนี่ย น่ารักจังเลย” “ลูก้าเต้น เบบี้ชาร์คไง รุซมาเต้นกัน ทำอย่างนี้ เบบี้ชาร์ค ดะดุ๊ ดะดุ๊ ดะดุ๊” ผมนั่งมองน้องชายร้องเพลงพร้อมกับเต้นด้วยท่าทางน่ารัก ซึ่งดูมาจากคลิปในอินเทอร์เน็ต ยิ่งเห็นประกายตาสดใสของลูก้าผมนั้นทั้งเอ็นดูและสงสาร หากเป็นเมื่อก่อน เรื่องออกไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เล็กน้อยเพียงเท่านี้คงไม่ใช่ปัญหา แต่การที่เราสองคนมาอาศัยอยู่ภายในบ้านของมาเฟีย ที่ผมเดาไม่ถูกเลยว่าพ่อคนขี้หงุดหงิดนั้น เขาจะใจดีกับพวกเรามากน้อยแค่ไหน “คุณคาลวิน วันนี้ผมทำให้คุณอารมณ์ดีหรือเปล่าครับ” ผมยันข้อศอก ยกตัวขึ้นมาหันกลับไปสบตาเจ้าของอกเปลือย “ทำไมเหรอ” ปลายนิ้วอุ่นเกลี่ยเขี่ยไรผม ซึ่งปรกลงมาตรงหน้าผาก จากนั้นขยับลงมาจูบหน้าผากซ้ำเบาๆ “คือผมมีเรื่องอยากขอร้องคุณสักอย่าง มันจะพอมีความเป็นไปได้มั้ยครับ” “นายมีเรื่องอะไรจะขอร้องฉันอย่างนั้นเหรอ” ร่างเปลือยขยับขึ้นมาอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ใช้แผ่นหลังพิงลงไปบนหมอนใหญ่ เหมือนต้องการตั้งใจจะฟังสิ่งที่ผมกำลังพูด “ลูก้าอ่านหนังสือนิทานของคุณ ลูก้าอยากไปดูฉลาม ผมอยากพาน้องไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ คุณช่วยพาเราออกไปได้มั้ยครับ” ผมใช้ไม้อ่อน ออดอ้อนขอความเห็นใจ ค่อยๆ ขยับคลานเข้าไปซุกทั้งกอด ทั้งหอมแก้มซ้าย จูบแก้มขวา แขนขาถูไถลูบไล้ไปตามจุดอ่อนไหวพยายามเอาอกเอาใจพ่อมาเฟีย พยายามเอาอกเอาใจพ่อมาเฟียที่อารมณ์ไม่คงที่ “เที่ยวพิพิธภัณฑ์ เนี่ยนะ” คิ้วยกเลิกสูงขึ้นนิดหน่อยก่อนจะค่อยๆ ขมวดมัดกันเป็นปม “นะครับ คุณช่วยพาลูก้าไปดูฉลามหน่อยนะ นะ...นะครับ” “ครั้งสุดท้ายที่พ่อแม่พาฉันไปสวนสัตว์ ถ้าจำไม่ผิด ตอนนั้นฉันคงอายุสักประมาณเจ็ดขวบ” ใบหน้าคมก้มลงมา จากนั้นสายตาเย็นชาเสแสร้ง แกล้งหันไปทางอื่น สันกรามขยับ ผมเห็นมุมปากหยักยกยิ้มของมาเฟียแสดงว่าตอนนี้คุณคาลวินอารมณ์ดี อาจเพราะคืนนี้ผมเอาอกเอาใจคุณคาลวินเต็มที่ “นะครับ...นะ...นะ ถือว่าผมขอร้อง คุณช่วยพาเราออกไปหน่อยนะ” ผมตวัดขาขึ้นไปนั่งทับหน้าท้องแข็ง ฝ่ามือประคองใบหน้านั้นให้กลับมาสบตากัน “ขอคิดดูก่อน” “ทำไมต้องคิดล่ะ ผมยอมทำทุกอย่างเลยนะครับ ขอแค่คุณอนุญาต คุณไม่จำเป็นต้องพาพวกเราไปด้วยตัวเองก็ได้ ให้วิคเตอร์หรือคนของคุณ ไปตามเฝ้าเราก็ได้ ผมไม่หนีไปไหนหรอก นะครับ ให้ผมพาน้องไปดูฉลามนะ” “ไม่ได้!” เสียงแข็งตวัดตอบกลับมาทันที “ฮึ....คนใจดำ” ผมตวัดขาข้ามหัวมาเฟียใจร้ายแล้วตั้งใจจะกลับลงไปนอนชั้นสองกับน้องชายผู้อาภัพ หากแต่แค่ขยับหันหลังก็ถูกกระชากกลับมาทันที “ปล่อยเลย ผมจะกลับห้องแล้ว” ผมสะบัดแขนทำท่าสะดีดสะดิ้งงอนใส่ “ถ้าจะไป ฉันต้องไปด้วย ห้ามนายไปไหนโดยไม่มีฉันเด็ดขาด” “หมายความว่า...คุณจะพาพวกเราไปใช่มั้ยครับ” ผมกระโดดกลับเข้าไปหาคนที่นั่งปั้นหน้าเย็นชา “อือ” “จริงนะ คุณอย่าหลอกผมนะ” “อือ” “ถ้าอย่างนั้น...คืนนี้ผมแถมให้ทีหนึ่ง” “ขอสองที...เดี๋ยวพาไปพรุ่งนี้เลย” สีหน้าเย็นชาเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ในทันที “โอเคครับ” คุณคาลวินทำตามที่ได้สัญญาเอาไว้กับผมเมื่อคืน เพราะตื่นเช้ามาเหล่าบรรดาบอดี้การ์ด มือปืน มายืนเรียงแถวกันเต็มห้องอาหาร ลูก้าพอรู้ว่าจะได้ไปเที่ยว ได้ไปดูฉลามตื่นเต้นดีใจนั่งร้องเพลงเบบี้ชาร์คแล้วชวนลูกน้องสนิทของคุณคาลวินที่คุ้นเคยกันเพราะมาวิ่งไล่จับกันบ่อยๆ เต้นท่าฉลามไม่มีหยุด “ฉลาม...ฉลาม...ฉลาม ตัวเบ้อเร่อ เบ้อร่าเลย รุซดูสิ พี่ดูสินั่น ว้าว” ลูก้ากระโดดดีใจตบไม้ตบมือ วิ่งไปเกาะอยู่ข้างกระจกของอุโมงค์ทางเดินพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ “ใช่ตัวใหญ่มากเลย ลูก้าชอบหรือเปล่า” ผมอุ้มน้องขึ้นมา เพื่อต้องการให้ลูก้าได้มองเห็นฉลามชัดๆ “ลูก้าชอบมากเลย คุณคาลวิน อุ้ม อุ้ม อุ้มลูก้าหน่อย” ลูก้าหันไปอ้าแขนแล้วปีนข้ามหัวไหล่ผมไปหาคุณคาลวินที่ตัวสูงใหญ่กว่า เพราะคงอยากเห็นฉลามที่กำลังว่ายน้ำข้ามหัวพวกเราไปในระยะใกล้ “เห็นชัดหรือยัง” คุณคาลวินจับเจ้าตัวแสบขึ้นไปขี่คอ แขนสั้นๆ พยายามยื่นสูงขึ้นไปในอากาศเหมือนอยากจับสัตว์น้ำที่ว่ายวนไปวนมาอยู่เหนือหัว “ว้าววววว คุณคาลวินดูสิ ดูสิ” มือเล็กจับใบหน้าพ่อมาเฟียให้หันไปตามทิศทางของฉลามใหญ่ที่ว่ายน้ำผ่านไปผ่านมา “เออ ฉันเห็นแล้ว” “คุณคาลวินเคยเห็นฉลามอะเปล่าฮะ” “เคยสิ ฉันเห็นบ่อยจนเบื่อเลยล่ะ” “จริงอะเปล่า” “จริงสิ ฉันเห็นจนเบื่อเลยล่ะ ไป...ไปดูอย่างอื่นบ้างเถอะ นายจะดูอยู่อย่างเดียวหรือไง” คุณคาลวินขยับเท้าก้าวไปข้างหน้า “อื้อ อย่าเพิ่งไปสิฮะ ลูก้ายังดูไม่เสร็จ” นิ้วสั้นป้อมขยุ้มเส้นผมบนหัวคุณคาลวินแล้วกระตุกจนหน้าหงาย “มันก็เหมือนกันว่ายไป ว่ายมาไม่เห็นมีอะไรเลย” “แต่ลูก้าจะดูอีก” “เฮ้อ นี่นายน่ะสนใจแต่ฉลาม แล้วเคยเห็นจระเข้ตัวเป็นๆ หรือเปล่า ฉันเห็นนายเดินลากตุ๊กตาจระเข้ไป ลากตุ๊กตามาอยู่ในบ้าน เคยเห็นหรือยัง” ผมยืนมองทั้งสองคนคุยกันอย่างนึกขัน ท่าทางคุณคาลวินจะเบื่อการดูฉลามจริงๆ จึงคิดหาวิธีชวนลูก้าไปดูอย่างอื่น “ลูก้าไม่เคยเห็นจระเข้เลยฮะ” แก้มยุ้ยสีชมพูใสพองลมใส่เข้าไปจนป่อง หากแต่พ่อมาเฟียหน้าขรึมยังตีหน้านิ่งแกล้งน้องชายผมต่อไป “นี่นายไม่เคยเห็นจระเข้หรอกเหรอ” ผู้ใหญ่ที่คิดแกล้งได้แม้กระทั่งเด็กสองขวบยียวนทำหน้าล้อเลียน “คุณคาลวิน เราไปดูจระเข้กันดีมั้ยฮะ” “.....” คนหน้านิ่ง แกล้งทำเป็นหูทวนลม เดินไปยืนชิดติดขอบบานกระจกมองตามฉลามขาวที่กำลังว่ายห่างออกไป “รุซ...” เจ้าแก้มก้อนน้องชายสุดที่รักหันมาหาผม พร้อมเรียกเสียงอ่อนลงทันที “คุณคาลวิน เราไปดูจระเข้กันนะครับ ผมเบื่อดูฉลามแล้ว” ผมโอบแขนกอดเอวหนาเอาไว้แน่น แกล้งขยับท่อนขาเฉียดไปมาแถวๆ เป้ากางเกง มาเฟียขี้หงุดหงิด “คุณคาลวินเราไปดูจระเข้กันเถอะฮะ ลูก้าก็อยากดูด้วย” ลูก้าก้มหน้าลงมา ใช้มือลูบเส้นผมสีน้ำตาลทองแดงชี้ฟูที่ถูกตัวเองกระชากเมื่อครู่เบาๆ “ดูจระเข้อย่างนั้นเหรอ แต่ว่าฉัน...” พ่อมาเฟียได้ทีเล่นตัวจนน่าหมั่นไส้ “จุ๊บ ไปนะครับ เราไปดูอย่างอื่นกันบ้างเถอะ” ผมยู่ปากยื่นไปจุ๊บแก้มคนขี้เก๊ก จากนั้นลูก้าจึงทำตามบ้าง ด้วยการกระดกก้นก้มลงไปจุ๊บหน้าผากกว้าง แถมยังโหนแขน โหนขาลงมาเอียงหน้าจุ๊บทั้งแก้มซ้ายแก้มขวา “ไปนะฮะ พาลูก้าไปดูจระเข้หน่อย” “อือ...ไปก็ได้” “ขอบคุณครับ เอาไว้กลับถึงบ้าน ผมจะทำให้คุณสบายตัวนะ” ผมเขย่งปลายเท้าขึ้นไปกระซิบตรงข้างใบหูสีขาว “นายพูดแล้วนะ” คุณคาลวินก้มลงมายักคิ้วให้ผม “พูดอะไรกันเหรอฮะ” เจ้าตัวยุ่งเอียงหน้าลงมาถาม “พูดว่า....เรารีบไปหาพี่จระเข้ดีกว่า” ผมสอดมือคล้องแขนคุณคาลวินแล้วเดินมาเคียงข้างกัน ลูก้าดูเหมือนจะชื่นชอบมาก กว่าเราจะเดินรอบพิพิธภัณฑ์ก็ใช้เวลานานหลายชั่วโมง เพราะต้องรอให้เจ้าตัวป่วนดื่มด่ำกับสัตว์ต่างๆ จนพอใจ ไม่อย่างนั้นลูก้าจะไม่ยอมย้ายไปดูสัตว์ในกรงอื่น “กลิ่นนี่มัน เหม็นเหมือน....นี่นาย...” คุณคาลวินทำหน้าย่นแล้วหันมาทางผม “คิ คิ คิ” เจ้าของก้นอวบ เพราะแพมเพิรส์ตุงทำเสียงหัวเราะคิกคัก “ลูก้าอึ๊เหรอ” ผมก้มลงไปใช้จมูกดมกลิ่นทะแม่ง “ลูก้าอึ๊” เจ้าของกลิ่นประหลาดยิ้มอวดฟันขาวซี่กระจิ๋วหลิว “เวรเอ๊ย นายมาอึ๊ใส่ฉันได้ยังไง” “ลูก้าอึ๊ใส่แพมเพิรส์” “ยังจะเถียงอีก” “พอแล้วๆ ลูก้ามาหาพี่....ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมมานะครับ” ผมอุ้มน้องชายให้กลับลงมาเดินเอง จากนั้นหันไปขอกระเป๋าสะพายสำหรับใส่สัมภาระจำเป็นจากบอดี้การ์ดที่คอยเดินตามมาห่างๆ สามสี่คน ผมเดินจูงมือน้องชายเข้ามาจัดการกับความสกปรกจนเรียบร้อยดี ในใจคิดว่าเมื่อกลับออกไปจะลองอ้อน ขอให้คุณคาลวินพาไปซื้อของตุ๊กตาของที่ระลึก ลูก้าคงดีใจมากหากได้ของเล่นหรือตุ๊กตาใหม่สักตัวกลับไป หากแต่เมื่อเดินออกมากลับมาผู้ชายหน้าตาไม่คุ้นเดินเข้ามาประกบด้านข้าง “ไปทางนั้น” หนึ่งในสามคนเดินเข้ามาชิดพร้อมทิ่มอะไรบางอย่างแข็งๆ มาชนเข้ากับสีข้างผม “พวกคุณเป็นใคร” “เดินไป...” มือผลักหัวไหล่ผมให้เดินไปข้างหน้า “รุซเราไม่กลับไปดูหมีแล้วเหรอ” เด็กน้อยไม่รู้ความ หันมองไปด้านหลัง มองกลับไปตามทางเข้าส่วนของสวนสัตว์กลางแจ้ง “ไปสิ...แต่ตอนนี้ตามพวกพี่เขาไปก่อน” ผมหันไปยิ้มให้น้องชายแล้วแสร้งยิ้มให้ ทำเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ มือดึงกล่องนมที่น้องยังดูดไปไม่ถึงครึ่งออกมา แล้วแกล้งบีบมันแรงๆ เพื่อให้นมพุ่งหกออกไปด้านหน้า “อย่ามาเล่นตุกติก อยากตายหรือไง” เสียงเหี้ยมกระซิบอยู่ข้างหู “เปล่าสักหน่อย ก็นมมันหกนี่” ผมแกล้งเดินเหยียบน้ำนมหกแล้วเดินลากปลายรองเท้าไปแบบถี่ อาศัยจังหวะที่ไม่มีใครสังเกตหยิบโมเดลตุ๊กตารูปจระเข้ ที่ลูก้าถือติดมือมาจากบ้าน หักขามันออกข้างหนึ่ง ค่อยๆ หย่อนมันให้ตกไปกระทบขากางเกงแล้วร่วงไหลลงไปบนพื้น แล้วทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือสิ่งที่จะช่วยทิ้งร่องรอยให้กับคุณคาลวิน “ขึ้นไป” “รุซ เราไม่ไปดูพี่หมีแล้วเหรอฮะ” “ต้องได้ดูสิ เดี๋ยวเรารอให้คุณคาลวินมารับ แล้วค่อยกลับมาดูใหม่ โอเคมั้ยครับ” ผมดึงน้องชายเข้ามากอดแล้วหอมแก้มทำเหมือนว่าทุกอย่างยังปกติดี “แล้วคุณคาลวินไปไหนล่ะ เขาหนีไปดูคนเดียว อะเปล่า” “ไม่หรอกครับ คุณคาลวินไม่มีหนีไปดูจระเข้คนเดียวแน่ เชื่อพี่สิ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม