Lennon’ s Club
ร่างบางมาถึงคลับหรูใจกลางเมืองพร้อมกับเพื่อน ๆ แสงสีเสียงภายในคลับก็ดังกระหึ่มปลุกเร้าให้ผู้คนนั้นลุกออกไปจากโต๊ะเพื่อออกไปเต้นกลางฟลอว์ เจ้าขาที่มาในลุคของเซ็กซี่เกิร์ล ปล่อยผมลอนยาวสีน้ำตาลถึงกลางหลัง และเธอก็สวมใส่เดรสสั้นเกาะอกสีดำโชว์เนินอกพร้อมกับแต่งโบว์สีขาวตรงช่วงอก มันยิ่งทำให้เธอดูเหมือนสาวหวานและสาวแซ่บในเวลาเดียวกัน...
“กูขอเปิดด้วยเตกิล่าก่อนเลย”เจ้าขาเอ่ยพร้อมกับมองหน้าเพื่อน ๆ อย่างรู้กันว่าเครื่องดื่มประจำที่หญิงสาวชอบสั่งมากที่สุดคือเตกิล่ามันเป็นรสชาติที่ร้อนแรงมากพอสมควร แต่สำหรับเจ้าขาแล้วมันคือเครื่องดื่มที่เธอชอบและบ่งบอกความเป็นเธอได้ทั้งหมดมันทั้งมีรสขมที่เด่นชัดและมีความเปรี้ยวจากมะนาวที่ชัดเจน
“มาถึงก็เล่นของแรงเลยนะ กะเมาตั้งแต่ยังไม่ได้เต้นเลยเหรอไง”
“มึงก็รู้ป่ะ แค่นี้ทำอะไรกูไม่ได้อยู่แล้ว”เจ้าขาเอ่ยพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากให้เพื่อนแล้วหยิบแก้วเครื่องดื่มเตกิล่าขึ้นมา
“ชนแก้วกันหน่อย เสร็จแล้วจะได้ออกไปเต้น”
“และแก้วแรกต้องหมดแก้วนะ”ร่างบางเอ่ยพร้อมกับยื่นแก้วออกไปตรงหน้ากลางวง เพื่อน ๆ ของเธอต่างก็หยิบแก้วของตัวเองขึ้นมาชนพร้อมกับดื่มพร้อมกันรวดเดียวจนหมดแก้วพร้อมกัน
“เชี้ยยย ขมมากกก” ณิรินเอ่ยออกมาพร้อมกับทำหน้าเหยเกอยู่คนเดียวเพราะทั้งกลุ่มเธอไม่ค่อยดื่มอะไรแบบนี้อยู่แล้ว จะมีก็แต่เจ้าขา ทิชาและน้ำฟ้าที่เป็นสายเดิมสายปาร์ตี้ส่วนเธอจะนาน ๆ ทีได้ออกจากบ้าน
“ขมมากก็กัดมะนาวที่เขาเตรียมมาให้ตามเข้าไปค่ะสาว”
“และมึงก็ต้องซึมซับเข้าไว้เยอะ ๆ รสชาติของความขมแบบนี้อ่ะ เพราะปัญหาชีวิตแม่งขมกว่าเหล้าพวกนี้เยอะเลย” ทิชาเอ่ยพร้อมกับหยิบมะนาวที่วางมากับถาดเหล้าขึ้นมากัดเพื่อให้ความเปรี้ยวมันไปช่วยบรรเทารสขมของแอลกอฮอล์เช่นกัน
“ไปเต้นกันนน กูอยากเต้นละ”ร่างบางที่รู้สึกเอนจอยมากกว่าคนอื่น ๆ เธอหันไปชวนเพื่อน ๆ ก่อนจะคว้ามือทิชาให้เดินตามเธอออกไปเต้นด้วยกันที่กลางฟลอว์เหมือนเช่นเคย…
ในขณะที่อีกด้าน...
ภายในห้อง VVIP ของ Lennon’ s Club ร่างสูงที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมโชว์แผงอกกำยำช่วงบนพร้อมกับสวมใส่กางเกงสแล็กสีดำ เรือนผมของเขาไม่ได้ถูกเซตทรงเหมือนตอนที่เขาเข้าไปทำงานที่บริษัทฯ แต่ทว่าความหล่อเหลาของเขาก็ไม่ได้ถูกลดท่อนลงไปเลยสักนิดตรงกันข้ามมันกับทำให้เขาดูดีไปอีกแบบเลยด้วยซ้ำ...
“คิดไม่ถึงว่าบีน่าจะปฏิเสธรักของมึง กูคิดว่าบีน่าจะรู้สึกแบบเดียวกับมึงซะอีก” ดีนเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้าเฟลิกซ์ด้วยความรู้สึกที่ยังงุนงงหลังจากที่ได้รู้เรื่องเมื่อคืน...
เฟลิกซ์ที่ยังดูช้ำรักไม่หาย เขาดูเสียหลักอย่างเห็นได้ชัดกับการถูกปฏิเสธรักจากบีน่า หญิงสาวที่เขาคิดมาตลอดมั่นใจมาตลอดว่าเธอก็รักเขาไม่ต่างจากที่เขารักเธอ แต่ทว่าเมื่อเขาสารภาพรักออกไปทุกอย่างกับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด...
“กูว่าบีน่าน่าจะมีเหตุผลอะไรที่ยังบอกมึงไม่หมด แค่เพราะกลัวจะเสียความเป็นเพื่อนไปกูว่ามันไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดในการปฏิเสธมึงหรอก” ขุนพลเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ ด้วยสีหน้าครุ่นคิดก่อนที่เขาจะหยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบพร้อมกับปล่อยควันเทาลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ โดยที่ข้างกายของหนุ่ม ๆ ก็มีสาวสวยนั่งห้อมล้อมอยู่ จะไม่มีก็แต่เฟลิกซ์เพราะเขาไม่ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
“ช่างแม่งเถอะ กูจะไม่ถามหรือพยายามหาคำตอบอะไรอีกแล้ว”
“ไม่ว่าเหตุผลจริง ๆ ของบีน่าจะคืออะไรก็ตาม สุดท้ายแล้วคำตอบของบีน่าคือเขาไม่ได้ต้องการกูแบบที่กูต้องการเขา”พูดไปก็เจ็บในใจ ถึงแม้ว่าสีหน้าของเฟลิกซ์จะนิ่งสุขุมดูไร้ความรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหนแต่ทว่าภายในจิตใจของเขาเรียกได้ว่าแตกสลายไปแล้วด้วยซ้ำ เขายังคงมีคำถามอีกมากมายในใจที่อยากจะถามบีน่า แต่ตั้งแต่ที่แยกกันเมื่อคืนเขายังติดต่อเธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“มึงไม่ลองคุยกับบีน่ามันอีกรอบอ่ะ ลองคุยอีกรอบจะได้เคลียร์ ๆ”
“ปล่อยไว้แบบนี้กลุ่มเราก็จะไม่เหมือนเดิม” คอปเปอร์พูดขึ้นอย่างเห็นภาพในอนาคตลาง ๆ และไม่ใช่แค่คอปเปอร์ คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน
“ให้กูคุยอะไร กูโทรไปเขายังไม่รับเลยด้วยซ้ำไป” เฟลิกซ์เอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ ก่อนที่เขาจะหยิบแก้วบรั่นดีราคาแพงขึ้นมากระดกดื่มรวดเดียวจนหมด บอกตามตรงว่าเขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองกำลังเสียศูนย์ขนาดนี้มาก่อน...
“ปวดหัวกับความรู้สึกของผู้หญิงฉิบหาย ทำไมต้องคิดอะไรซับซ้อนกันให้ขนาดนั้น” ดีนเอ่ยขณะที่มือของเขายังคงโอบเอวของสาวสวยที่นั่งซบอยู่ข้างกายเขา ดูก็รู้ว่าคืนนี้ผู้หญิงคนไหนจะถูกเลือกให้ขึ้นไปดูแลเขาบนเตียง
“ผู้หญิงนี่คิดอะไรซับซ้อนแบบนี้ทุกคนไหม” หนุ่มลูกครึ่งอย่างดีนเอ่ยถามสาวสวยข้างกายพร้อมกับก้มมองใบหน้าเธอด้วยแววตาของเสือที่กำลังอยากจะขย้ำเหยื่อ สาวสวยแสร้งทำเขินก่อนจะตอบออกไปเสียงอ่อย ๆ
“ก็น่าจะทุกคนแหละค่ะ แต่ไม่ใช่สำหรับหนู เพราะหนูคิดหรือรู้สึกอะไรก็พูดออกไปเลยตรง ๆ ขี้เกียจจะอ้อมค้อม”
“ก็ดี...ค่อยอยู่กันได้ยาว ๆ หน่อย”
“ว่าแต่มึงไม่สนใจหาอะไรทำแก้เบื่อหน่อยเหรอไง จะนั่งแดกเหล้าจนหมดแล้วกลับเพนท์เฮ้าส์ไปนอนแบบนี้น่ะเหรอ” ขุนพลเอ่ยพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ พลางมองใบหน้าของเพื่อนสนิทอย่างเฟลิกซ์ที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ เฟลิกซ์ตวัดสายตามองเพื่อนรักทั้งสามพร้อมกับไล่สายตามองสาว ๆ ที่เพื่อนเขาเลือกมานั่งข้างกาย
บอกตามตรงว่าแบบนี้มันไม่ใช่รสนิยมของเขาเลยสักนิด เขาไม่ได้ชอบนอนกับผู้หญิงไปเรื่อยหรือควงผู้หญิงเพื่อแก้ขัดเพราะที่ผ่านมาเขามั่นคงแค่กับบีน่าคนเดียวมาตลอด
แต่ตอนนี้เขาคงต้องคิดใหม่แล้ว...
“ลองให้กูเลือกผู้หญิงมาช่วยทำให้มึงอารมณ์ดีขึ้นไหม หยุดคิดเรื่องบีน่าไปก่อน” ขุนพลเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ ก่อนจะมองหน้าเพื่อนรักอย่างรอฟังคำตอบ...
เฟลิกซ์นิ่งเงียบไปก่อนที่เขาจะเลื่อนมือไปหยิบแก้วบรั่นดีขึ้นมากระดกดื่มจนหมดรวดเดียวอีกครั้ง ก่อนพูดขึ้นว่า
“เอาดิ...”
“จัดให้เลย”ขุนพลเอ่ยพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากน้อย ๆ พร้อมกับจัดแจงเลือกผู้หญิงที่ดูตรงสเป็คของเพื่อนให้ได้มากที่สุดให้ไปนั่งดูแลเฟลิกซ์ทันที
1 ชั่วโมงต่อมา...
เจ้าขาที่เพิ่งเดินกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะหลังจากที่ออกไปเต้นกับเพื่อนอย่างสนุดสุดเหวี่ยง มือเรียวคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มรู้สึกกระหายเครื่องดื่มเย็น ๆ
“ปวดฉี่อ่ะ ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ มีใครจะเข้าป่ะ”ร่างบางหันไปตะโกนบอกเพื่อน ๆ แข่งกับเสียงเพลงในคลับ ทิชาที่รู้สึกปวดเหมือนกันก็รีบพยักหน้าหงึกหงักรับทันที
“ไปดิ กูไปด้วยปวดเหมือนกัน”
“ปะ...”
ทั้งเจ้าขาและทิชาต่างพากันเดินจับมือมาที่ห้องน้ำอีกฝั่งของคลับ ซึ่งแตกต่างจากฝั่งที่พวกเธอนั่งมาก เพราะเสียงเพลงมันไม่ได้ดังกระหึ่มมาถึงตรงนี้รู้สึกสบายหูขึ้นมาหน่อย สองสาวพากันทำธุระส่วนตัวก่อนจะพากันเดินออกมาจากห้องน้ำอีกครั้ง
“มึงเมายังอ่ะ กูเริ่มละนะ”
“กูเริ่มตึง ๆ ละ เดี๋ยวกลับไปโต๊ะว่าจะพอแล้วนะ ขอน้ำเปล่าอย่างเดียว”เจ้าขาพูดออกไปตามที่คิด เธอเป็นสาวสายปาร์ตี้ก็จริงแต่ก็ไม่ได้กินจนตัวเองจะเมาจนหมดสภาพดูไม่ได้ เธอกินแค่เอาอารมณ์สนุก ๆ จะไม่กินจนตัวเองหมดภาพอ้วกแตกอ้วกแตน
เจ้าขากับทิชาพากันเดินออกจากห้องน้ำไปตามทางเดินเพื่อกลับโต๊ะ แต่ทว่าสายตาของของคุณหนูคนสวยอย่างเจ้าขากับไปสะดุดเขากับร่างบางของใครอีกคนที่เธอจำได้ดีว่าเป็นใคร
“พี่บีน่า...” เท้าเรียวบนส้นสูงสีแดงหยุดชะงัก นัยน์ตาคู่สวยขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจก่อนที่เธอจะมองตามหญิงสาวตรงหน้าไปตามไม่กระพริบพลางพินิจว่าผู้ชายข้างกายของบีน่าเป็นใครตอนแรกคิดว่าเป็นเฟลิกซ์แต่มองไปมองมามันกลับไม่ใช่
เพราะผู้ชายที่บีน่ากำลังเดินจับมือไปนั้นคือ ไซรัส ลูกชายของคุณอาฮันน่าและคุณอามิวนิค ถึงเธอเจอเขาไม่บ่อยแต่คิดว่าไม่ผิดแน่
“อะไรมึงเจ้าขา หยุดเดินทำไม แล้วเรียกชื่อผู้หญิงของพี่เฟลิกซ์เพื่อ ?”
“เมาแล้วเห็นภาพหลอนไง”ทิชาที่ยืนงงกับอาการของเพื่อนเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัยพลางมองตามสายตาเพื่อนแต่ก็ไม่เจออะไร
“ภาพหลอนอะไรล่ะ”
“นั่นมันมีบีน่ากับพี่ไซรัสอ่ะมึง”
“ไหนของมึง กูมองไม่เห็นเลย”
“นั่นอ่ะมึงไม่เห็นเหรอผู้หญิงเดรสขาวอ่ะ”ร่างบางเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกพร้อมกับมองตามบีน่ากับไซรัสไปตาไม่กระพริบ ก่อนที่เท้าเรียวจะรีบก้าวเดินตามไปติด ๆ ทำเหมือนว่าเธอกำลังสวมบทบาทนักสืบสาว ทิชาที่ยังคงงุนงงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเดินตามเพื่อนไปอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะมาด้วยกัน
“สนิทกันเหรอไง ทำไมโอบไหล่ได้อ่ะ”ร่างบางที่มาแอบยืนหลบมุมอยู่อีกฝั่งมองไปยังบีน่ากับไซรัสที่เดินกลับไปนั่งโต๊ะกับกลุ่มเพื่อน ซึ่งเพื่อนในกลุ่มก็ไม่ใช่เพื่อนกลุ่มเดียวกับเฟลิกซ์เลยสักคน
เจ้าของใบหน้าสวยมองภาพตรงหน้าอย่างพินิจอีกครั้งก่อนที่เธอจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บภาพเอาไว้พร้อมกับส่งไปให้เฟลิกซ์ เธอไม่ได้จะขี้ฟ้องหรืออะไรหรอกแต่แค่อยากรู้ว่าพี่เฟลิกซ์ของเธอรู้เรื่องที่ผู้หญิงที่เขาเพิ่งสารภาพรักไปมานั่งให้ลูกพี่ลูกน้องเขานั่งโอบเอวอยู่แบบนี้หรือเปล่า
“มึงส่งไปให้ใครอ่ะเจ้าขา” ทิชาถามแข่งกับเสียงเพลงด้วยความสงสัย เพราะเธอมองแชทเพื่อนไม่ชัดว่าเจ้าขาส่งรูปไปหาใคร
“ก็ส่งไปให้พี่เฟลิกซ์ดูไง อยากจะรู้นักว่าเขารู้หรือเปล่าผู้หญิงที่เขารักมานั่งให้ลูกพี่ลูกน้องเขาโอบเอวโอลไหล่อยู่แบบนี้”
“ดูก็รู้ว่ามันไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบปกติ...” ร่างบางตอบกลับไปพร้อมกับไหวไหล่ตัวเองน้อย ๆ พร้อมกับเลื่อนสายตากลับไปมองบีน่ากับไซรัสที่ดูเหมือนว่าจะสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษจริง ๆ