“พี่เฟลิกซ์เนี้ยนะด่าแก พี่เฟลิกซ์เนี้ยนะ”ทิชาพูดออกไปอย่างไม่เชื่อหู เพราะใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่าเฟลิกซ์เป็นคนพูดน้อยเงียบขรึมจะตายไป พวกเธอเคยโอกาสได้เจอกับเฟลิกซ์อยู่บ่อย ๆ เพราะต้องออกงานสังคมกับที่บ้าน จะมีก็แต่ณิรินที่ยังไม่ได้เจอตัวจริงของเฟลิกซ์เพราะต้องเก็บตัวไม่สามารถออกงานสังคมกับผู้เป็นพ่อได้
"ทิชามึงลืมวันที่เจ้าขามันแกล้งเมาแล้วไปจูบพี่เฟลิกซ์ไม่ได้ไง ตอนนั้นพี่เขาก็มองหน้าเจ้าขาเหมือนจะกินหัวมันไปทั้งหัวเลยนะ"
"ถ้ากูจำไม่ได้ผิดเหมือนพี่เขาจะว่าอะไรเจ้าขามันด้วย แต่กูได้ยินไม่ชัด" น้ำฟ้าที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้าทิชา เรื่องในวันนั้นมีแค่ณิรินที่ไม่รู้เพราะเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ไปคลับเดียว
"เออว่ะกูลืมอ่ะ ก็เรื่องมันผ่านมาตั้งสองปีแล้วอ่ะ มันก็ต้องลืมบ้างไรบ้างนะ"
"ว่าแต่พี่เขาด่ามึงจริง ๆ ใช่ไหมเจ้าขา"
“ใช่ค่ะเพื่อน...เขาด่าฉันจริง ๆ ไม่รู้ไปเก็บกดมาจากไหนเหมือนไม่เคยได้ด่าใครพอมาเจอฉันก็ด่าไฟลุกไปเลย!”
“พูดแล้วก็อยากกรี๊ดใส่หน้าพี่เขาดัง ๆ แล้วจับแต่งงานซะเลย! รังเกียจกันมากดีนัก จับแต่งงานให้อยู่ด้วยกันตลอดชีวิตไปเลย เอาให้พี่เขาทรมานอกแตกตายไปเลย!”
“มึงงงง ใจเย็นค่ะถ้าพี่เขาด่ามึงขนาดนั้นแล้วมึงคิดว่าพี่เขาจะยอมแต่งงานกับมึงเหรอไง”
“ไหนเล่ามาสิ พี่เขาด่าอะไรมึง แล้วมึงไปทำอะไรให้พี่โมโห”น้ำฟ้าเอ่ยพร้อมกับมองหน้าเจ้าขา กลายเป็นว่าเพื่อน ๆ ทั้งสามคนกำลังจับจ้องมาทีเธอเป็นสายตาเดียวกันหมด ดูไม่ออกเลยว่าพวกเพื่อน ๆ เธออยากรู้อยากเห็นเรื่องของเธอขนาดไหน
“กูก็ไม่ได้ทำอะไรพี่เขาซะหน่อย พี่เขาทำตัวเองแล้วก็มาว่ากูอ่ะ”ร่างบางตอบอ้อมแอมก่อนจะทำมือทำไม้คล้ายกับคนกำลังจะเฉไฉไปเรื่อย
“ไม่ได้ทำของมึงอ่ะ มึงทำแน่นอนค่ะ”
“เล่ามา มึงอย่าลีลาพวกกูอยากรู้เนี้ย”ทั้งทิชาและน้ำฟ้าต่างสลับกันพูดพร้อมกับยื่นหน้ารอฟังด้วยความอยากรู้ พอถึงเวลาจะเล่าเจ้าขาก็อึกอักเพราะไม่แน่ใจว่าเพื่อนจะรุมด่าเธอหรือเปล่าถ้ารู้สาเหตุ
แต่ก็นะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เธอก็คงต้องยอมเล่าแล้วล่ะ...
“สมควรค่า มึงสมควรโดนด่าจนหน้าสั่นแบบนั้นแล้วค่ะเพื่อนรัก” หลังจากเจ้าขาได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อน ๆ ฟังแบบที่ไม่ได้ปิดบังอะไร ทิชาก็พูดขึ้นคนแรกทันทีแถมเธอยังไม่ได้มีความรู้สึกสงสารเจ้าขาเลยสักนิด
“ทิชา มึงจะพูดแบบนี้ไม่ได้ กูเพื่อนมึงนะ มึงต้องเข้าข้างกูสิ!”ร่างบางพูดออกไปอย่างแง่งอน เพราะดูเหมือนว่าเพื่อน ๆ จะไม่มีใครเข้าข้างเธอเลยสักคน
“ก็มึงไปแอบฟังพี่เขาจริง ๆ นี่น่า มึงอ่ะเดินออกไปได้ตั้งแต่แรกแต่มึงไม่ออก มึงอยากรู้เรื่องพี่เขาค่ะ”
“มึงยอมรับมาเลยว่ามึงอ่ะ อยากรู้เรื่องพี่เขา”ทิชาไล่ต้อนพร้อมกับมองหน้าเจ้าขา พวกเธอน่ะเป็นเพื่อนสนิทกันก็จริงแต่ไม่ได้แปลว่าเธอจะเห็นดีเห็นงามกับทุก ๆ เรื่องที่เพื่อนของเธอทำ
พวกเธอถือคติว่าเพื่อนทำดีเราชม เพื่อนทำไม่ดีก็ต้องโดนด่า แต่ก็ไม่ได้จะตัดขาดหรือเลิกคบแต่จะช่วยเตือน ๆ ในเรื่องที่เพื่อนทำไม่ดี ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเจ้าขาทำตัวไม่น่ารักจริง ๆ
เจ้าขาหน้าบูดบึ้งยิ่งกว่าเก่า เพราะดูท่าแล้วเพื่อนทั้งสามคนไม่มีใครเข้าข้างเธอเลย
“แล้วอยากจะให้พี่เขามาหลงรัก ดูจากท่าแล้วทำให้ตายพี่เขาก็ไม่มาหลงรักมึงแน่นอน”
“โห่ฟ้า มึงพูดไม่ให้กำลังใจกูเลยอ่า” ร่างบางแทบอยากจะลงไปนอนแด้ดิ้นกับพื้นพรมหลังจากที่ได้ยินเพื่อนพูดจี้ใจดำออกมาแบบนั้น แถมมันยังคล้าย ๆ กับคำพูดของเฟลิกซ์ที่เขาบอกว่าไม่มีทางชอบหรือรู้สึกหวั่นไหวกับผู้หญิงอย่างเธอ
“ก็พูดเรื่องจริง ดูมึงทำสิ...มึงทำแบบนั้นอ่ะมันยิ่งทำให้พี่เขารู้สึกเสียหน้านะ”
“แทนที่มึงจะอยู่สวย ๆ นิ่ง ๆ เห็นพี่เขาโดนปฏิเสธรักก็นิ่ง ๆ ไปก่อน ทำเป็นไม่รับไม่รู้ แล้วค่อย ๆ เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในวงโคจรของชีวิตพี่เขา”
“อันนี้อะไรก็ไม่รู้ มึงอ่ะทำตัวเอง...แล้วดูดิแทนที่จะได้มีโอกาสเข้าใกล้พี่เขา หรือได้ทำคะแนนช่วงที่พี่เขาอกหักจากอีกคน”
“กลายเป็นตอนนี้คะแนนมึงติดลบไปละ ละพี่เขาน่าจะติดลบกับมึงไปแล้วด้วย”
“ก็กูไม่ผิดนี่ กูมาอยู่ตรงนั้นก่อน”ร่างบางยังคงเถียงกลับไม่หยุด ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองน่ะผิดแล้วเต็ม ๆ
“กูหัวจะปวดกับไอ้คำว่า ก็กูไม่ผิดของมึงมากกก มึงไม่เคยผิดอะไรเลยค่ะ โลกใบนี้มันหมุนแค่รอบตัวมึงมั้งสาว”
“โอ๊ยยย พวกมึงอ่า หยุดด่ากูก่อนนน กูกำลังเฟลที่โดนพี่เฟลิกซ์ด่าแบบนั้นนะ”
“โอ๋นะเพื่อนรัก แต่ก็สมควรที่โดนพี่เขาด่า อยู่ดีไม่ว่าดี”ทิชายังคงพูดแบบหยิกแกมหยอก เจ้าขายิ่งหน้ามุ่ยหนักกว่าเดิมที่เพื่อน ๆ พากันซ้ำเติมเธอไม่หยุด
“ทำไมไม่มีใครเข้าข้างกูเลยอ่า T^T”ร่างบางพูดตัดพ้อก่อนจะแด้ดิ้นไปมาอยู่บนโซฟาจนเพื่อน ๆ อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“เอาหน่า ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวบนโลก ยังมีคนหล่อ คนรวย ที่เหมาะสมแล้วก็คู่ควรกับแกอยู่นะเจ้าขา เลิกอยากได้พี่เฟลิกซ์เถอะ หาใหม่”
“ก็กูชอบพี่เฟลิกซ์มาตั้งนานอ่ะณิริน มึงก็รู้ว่ากูล็อคเป้าพี่เขามาตลอด”
“พยายามเสนอตัวก็แล้ว เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในวงจรชีวิตพี่เขาก็แล้ว...จริง ๆ แต้มกูควรเป็นต่อด้วยซ้ำเพราะครอบครัวสนิทกัน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นพี่เขารังเกียจกูแบบสุด ๆ เลยอ่ะพวกมึง”ร่างบางพูดออกไปด้วยความสิ้นหวัง แถมความรู้สึกมันก็ผสมปนเปกันไปหมดจนตัวเธอเองก็จับความรู้สึกจริง ๆ ไม่ได้ว่าที่เธอกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้เป็นเพราะโกรธที่เฟลิกซ์ว่าเธอ หรือโกรธที่เขาแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบเธอแต่เขากำลังชอบและหลงรักผู้หญิงอีกคน
“มึงฟังกูนะ การที่เราจะทำให้คนที่เราชอบมาตกหลุมรักเราเนี้ย มันไม่ง่ายนะเจ้าขา”
“ถ้ามันง่ายขนาดนั้นมันจะมีคำว่าผิดหวังในภาษาไทยทำไมก่อน มึงควรจะเรียนรู้และเข้าใจถึงความผิดหวังความไม่ได้ดั่งใจของตัวเอง การที่มึงรักหรือชอบใครแล้วต้องการจะได้เขามา มันไม่ได้แปลว่าเขาจะรักหรือชอบมึงแบบที่มึงชอบเขา”
“ถ้าการที่เราต้องการให้ใครสักคนรักเราแบบที่เรารักเขามันง่ายขนาดนั้น ป่านนี้คนทั้งโลกรวมถึงตัวกูคงสมหวังไปแล้วล่ะ”ณิรินเอ่ยออกไปอย่างเข้าใจหัวอกเพราะมันไม่ใช่แค่เจ้าขาที่ตกอยู่ในสภาวะของคนแอบรักแอบชอบ เพราะตัวเธอเองก็เหมือนกัน...เจ้าขาที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะรู้สึกปลงตามที่เพื่อนบอก และรู้สึกอย่างจะปล่อยเรื่องที่เกิดขึ้นออกไปจากหัว เจ้าคิดเจ้าแค้นไปก็เท่านั้นแหละ
จริงอย่างที่พี่สาวและเพื่อน ๆ ของเธอบอก คนไม่รักก็คือไม่รัก เราชอบเขาให้ตายยังไงแต่ถ้าเขาไม่ชอบมันก็เท่านั้น
“ช่างเถอะ ต่อไปฉันจะเชิ่ดใส่พี่เฟลิกซ์ล่ะ เลิกชอบตลอดไป คนสวย ๆ อย่างฉันมันต้องหาได้ดีกว่าคนอย่างพี่เฟลิกซ์แน่นอน”
“คิดไปคิดมา คนอย่างพี่เฟลิกซ์ก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด มีดีแค่หล่อ บ้านรวย เป็นคนเก่ง เล่นกีฬาก็เริ่ด ยิงปืนก็แม่น แถมยังได้เป็นรองประธานบริษัทฯ ตั้งแต่อายุยังน้อย แล้วยังเป็นทายาทตระกูลมาเฟียอีก”
“โปรไฟล์ทั้งหมดก็ดูธรรมดา ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจขนาดนั้น”ร่างบางพูดออกไปร่ายยาวเพื่อนที่นั่งฟังก็ได้แต่หลุดยิ้มกันออกมา เพราะไอ้ที่เจ้าขาพูดออกมาว่าพี่เขาไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมันดูสวนทางกับสิ่งที่เธอสาธยายออกมา
“สาบานว่าธรรมดา ที่มึงพูดออกมาทั้งหมดเนี้ย มันคือความน่าสนใจในตัวพี่เขาทั้งนั้นเลยค่ะเพื่อนรัก”
“จะเลิกชอบยังไงของมึงก่อน พูดข้อดีของเขาออกมาซะหมดแบบนั้นอ่ะ”ทิชาเอ่ยแซวก่อนจะใช้ไหล่สะกิดไปที่ไหล่ของเจ้าขาเล็กน้อย เจ้าขาเลื่อนสายตาไปมองเพื่อนทั้งสามคนก่อนจะถอนหายใจออกมาเพราะทั้งหมดที่เธอพูดออกไปมันคือความสนใจที่ดึงดูดเธอให้ชอบเฟลิกซ์นั่นแหละ
“เดี๋ยวก็เลิกชอบได้เองแหละ กูพอละกับพี่เขาอ่ะ เหนื่อยจะโดนด่าแล้ว”
“กูจะรอดูไอ้คำว่าพอแล้วของมึงค่ะ”
“มึงรอดูได้เลยเพื่อนรัก กูพูดคำไหนคำนั้น”ร่างบางพูดออกไปอย่างมั่นอกมั่นใจ อันที่จริงปากเก่งไปก่อนทำได้ไหมก็อีกเรื่องหนึ่งเหมือนเดิม
“งั้นวันนี้ไปปาร์ตี้กัน กูเลี้ยงปลอบใจมึงเอง ละก็เลี้ยงฉลองที่กูได้เป็นนางเอกละครเรื่องใหม่”
“จริงดิ ใช่ซีรีย์ที่มึงบอกกูป่ะว่าอยากได้อ่ะ”
“ใช่ค่ะเพื่อนรัก ที่กูมาหามึงวันนี้เพราะอยากชวนไปฉลองนี่แหละ ” ทิชาเอ่ยพร้อมกับสะบัดผมตัวเองไปมาเล็กน้อยด้วยมาดนางพญา เจ้าขาจากเฟล ๆ ในตอนแรกพอได้ยินเรื่องของเพื่อนก็ดีใจตามไปด้วย
“มึงงงง กูดีใจด้วย ละยัยนามิคู่กัดมึงอ่ะมันไม่อกแตกตายไปแล้วเหรอ”
“จะเหลือเหรอ เห็นพี่อิงบอกอยู่ว่ามันเข้าไปวีนบอร์ดว่าทำไมถึงมาเลือกกูเป็นนางเอกทั้ง ๆ ที่มันน่าจะเหมาะกับบทมากกว่ากู...”ทิชาพูดพร้อมกับแสยะยิ้มที่มุมปากด้วยความสะใจที่เขี่ยผู้หญิงแอ๊บแบ๊วอย่างนามิไปให้พ้นทางเธอจนได้
“เริ่ดมากค่ะเพื่อนรัก ต่อไปขอเรียนวิชาความร้ายกาจของมึงหน่อยนะ”
“กูว่าเรื่องความร้ายอ่ะ มึงไม่ต้องไปเรียนจากทิชามันหรอก เพราะมึงร้ายกว่าเห็น ๆ”
“กูเห็นด้วยกับน้ำฟ้า เรื่องความร้ายพวกกูต้องเรียนกับมึงค่ะ”ณิรินพูดเสริมขึ้นมาอีกคน เจ้าขาที่ได้ยินแบบนั้นก็ไหวไหล่ตัวเองน้อย ๆ อย่างไม่ได้คิดอะไรมากกับคำพูดของเพื่อน เพราะเธอก็ยอมรับนั่นแหละว่าเธอก็ร้ายกาจอยู่เหมือนกัน
“ก็ไม่เถียง เรื่องความร้าย กูร้ายจริง ๆ แหละ”
“ไปค่ะเตรียมตัว ไปแต่งตัวสวย ๆ เตรียมตัวไปปาร์ตี้กัน”ร่างบางพูดออกไปอย่างอารมณ์ดี และเธอก็เลิกให้ความสนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเพราะคิดไปก็ปวดหัวฟรีเปล่า ๆ