ตอนที่ 7  สตรีบอบบางและอ่อนแอ

1573 คำ
เว่ยอ๋องพาลี่ซินเดินออกมาจากโรงน้ำชามีชื่อ เขาสั่งให้องครักษ์จัดการจ่ายเงินก่อนที่จะตามออกมาทีหลัง เมื่อออกมาและพบกับอันฮูหยินก็ต้องตกใจเพราะนางไม่คิดว่าจะพบกับเว่ยอ๋องที่นี่ “เอ่อ...ถวาย..” “ฮูหยินอย่าได้เกรงใจ ข้าแค่บังเอิญผ่านมาเท่านั้นไม่ต้องมากพิธี” “ซินเอ๋อร์เกิดเรื่องอะไรขึ้น เหตุใดเจ้าจึงหน้าตาซีดเซียวเช่นนี้” “ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ ข้าอยากกลับจวนแล้วท่านแม่เสร็จธุระหรือยัง” ลี่ซินอับอายจนไม่กล้าสบเนตรเว่ยอ๋องที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มารดาของนางเองก็พึ่งจะแยกกับสหายและเดินกลับมายังโรงน้ำชา แต่ก็พบกับลี่ซินและท่านอ๋องเสียก่อน “คือว่าแม่…” “ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับลี่ซินหน่อยเอาเช่นนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวข้าไปส่งลี่ซินที่จวนเอง หากฮูหยินยังมีธุระอื่นที่ยังทำไม่เรียบร้อยก็ไปทำเถิด” “แต่ว่า…” “ไม่เป็นไร ทั่วทั้งต้าจินโจวนี้มีผู้ใดที่ไม่ทราบว่าข้ากับลี่ซินกำลังจะหมั้นหมายกัน ท่านอย่าห่วงมากเลย” “เช่นนั้นคงต้องขอรบกวนท่านอ๋องแล้วเพคะ” “อย่าได้เกรงใจ ไปกันเถอะลี่ซิน” “เพคะ” ลี่ซินเดินไปพร้อมกับเว่ยอ๋อง เมื่ออันฮูหยินหันไปที่หน้าโรงน้ำชาจึงได้รู้ว่าเหตุใดเว่ยอ๋องจึงปรากฏตัวที่นี่ และเริ่มเข้าใจเหตุการณ์ “ชิงลี่พวกเราก็ไปกันเถอะ” อันฮูหยินรีบหันกลับเข้าไปในร้านเครื่องประทินโฉมอีกครั้ง เมื่อรถม้าของเว่ยอ๋องเริ่มเคลื่อนตัวออกจากถนนกลางตลาด อวี้อ๋องก็ยืนมองอยู่ตรงหน้าโรงน้ำชา “เหตุใดทั้งดินแดน และสาวงามล้วนแต่ต้องตกเป็นของเว่ยซ่างเจวี๋ยเพียงคนเดียว หึ ข้าไม่มีทางยอมแพ้เจ้าไปตลอดหรอก” บนรถม้า เว่ยอ๋องที่นั่งอยู่บนรถม้ากับอันลี่ซินมองนางราวกับอยากจะถาม แต่เขาก็เว้นให้นางได้ตั้งสติเสียก่อน เพราะดูเหมือนว่าเพียงแค่พบกับอวี้อ๋องนางก็รู้สึกตกใจและตระหนกมากพอแล้ว ‘แค่พบกับอวี้อ๋องนางก็ตัวสั่นเป็นลูกนก ช่างเป็นสตรีที่บอบบางและอ่อนแอเสียจริง’ “ลี่ซินเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ต้องขอโทษด้วยหากทำให้เจ้าตกใจ เดิมทีข้ากับพี่ใหญ่ก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกันอยู่แล้วหวังว่าเจ้าจะไม่ถือสานะ” “ไม่เพคะ หม่อมฉันมิใคร่สนทนาด้วยกับอวี้อ๋องสักเท่าใดนัก ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญพบเขาที่นั่น หม่อมฉันไม่อยากทำเรื่องที่เสื่อมเสียเกียรติต่อพระองค์ แต่ว่าหม่อมฉันมิได้ลอบนัดพบกับอวี้อ๋องจริง ๆ” “เดี๋ยวก่อนนะที่เจ้ากำลังวิตกอยู่ตอนนี้ หรือเจ้าคิดว่าข้าจะตำหนิเจ้าที่อยู่กับอวี้อ๋องงั้นหรือ” ลี่ซินพยักหน้ายอมรับ เว่ยอ๋องแทบจะกลอกตาไปมากับความบ้าธรรมเนียมคร่ำครึของนาง เขาเข้าใจว่าลี่ซินเป็นบุตรสาวขุนนางใหญ่แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะใส่ใจเรื่องจุกจิกถึงเพียงนี้ นี่มันไร้แก่นสารเกินไปแล้ว ‘นี่นางคงมิได้คิดว่าข้าหึงนางกับพี่ใหญ่หรอกกระมัง’ “คือข้ามิได้คิดเช่นนั้นเลยสักนิด เพียงแค่กลัวว่าเขาจะรังแกเจ้าจนตกใจแต่เจ้ากลับ…” อันลี่ซินเงยหน้าสบเนตรที่กังวลพระทัยของเว่ยอ๋อง นางเองก็ไม่ทราบว่าเขาไปที่นั่นได้เช่นไร แต่ก็นับว่าโชคดีเพราะลี่ซินเองก็ไม่รู้ว่าจะหาทางเลี่ยงอวี้อ๋องได้เช่นไร นี่มิใช่ครั้งแรกที่อวี้อ๋องแสดงออกว่าอยากจะสนทนากับนาง “ขอบพระทัยเพคะ หม่อมฉันไม่คิดว่าจะได้พบพระองค์เช่นกัน” “เหตุใดวันนี้เจ้าจึงออกมาได้เล่า” “วันนี้ท่านแม่พาหม่อมฉันมาตัดชุดและเลือกซื้อของเพคะ บอกว่าวันข้างหน้าหากต้องดูแลจวนและ… สามีแล้ว หม่อมฉันต้องรู้ความมากกว่านี้จึงได้พาออกมาเพคะ” พูดไปก็พลางยิ้มน้อย ๆ และก้มหน้าลง เว่ยอ๋องเพียงมองก็พอรู้ว่านางมิได้ระวังตัวเลยอีกทั้งรอบกายมีเพียงสาวใช้เพียงคนเดียว องครักษ์หรือผู้ติดตามก็น้อยจนน่ากังวล ‘เป็นถึงบุตรีขุนนางใหญ่ชั้นเอก แต่กลับไม่มีคนติดตาม มีแค่สาวใช้เพียงคนเดียวงั้นหรือ นางประมาทเกินไปแล้ว’ “ลี่ซินแล้วเจ้าจะต้องออกมาข้างนอกอีกหรือไม่หลังจากนี้” “นั่นก็คงต้องแล้วแต่ท่านแม่เพคะ” สิ่งที่เว่ยอ๋องเกลียดที่สุดคือสตรีที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง แม้ว่าจะดูเชื่อฟังและควบคุมง่าย แต่เขามิได้ต้องการตุ๊กตาเครื่องเคลือบเอาไว้ข้างกายแค่อวดความงามอย่างเดียว หากว่านางมิใช่บุตรสาวราชครูที่มีอิทธิพลต่อเหล่าขุนนางแล้วละก็.. ‘อะไรก็แล้วแต่ท่านแม่ นี่นางเคยคิดอะไรเองเป็นไหมนี่ หรือว่าหลังแต่งงานไปจะต้องมีลูกกับข้าก็ยังต้องรอถามอันฮูหยินอีกงั้นหรือ นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว’ “เอาเถิดวันนี้ถือว่าเจ้าโชคดีที่มาพบข้า หากวันหลังจะต้องออกจากจวนคงต้องเพิ่มคนติดตามแล้วล่ะ” “เหตุใดพระองค์จึงได้เสด็จมาที่นี่ ในเวลาเช่นนี้เล่าเพคะ” “ข้า….” เขาเพียงแค่จะมาที่หอหลินอวี้ที่อยู่ข้าง ๆ หอหรูอี้เท่านั้น ที่นั่นเป็นโรงเตี๊ยมที่เขามักจะให้คนมาส่งข่าวและรายงานด่วนของชายแดน ใครจะคิดว่าจะพบนางที่นั่นกันเล่า เมื่อเห็นอวี้อ๋องเดินตามว่าที่คู่หมั้นเข้าไปเขาก็แค่ตามไปเท่านั้น และก็เป็นไปตามที่คิดอันลี่ซินถูกอวี้อ๋องต้อนจนจนมุมจริง ๆ “อีกทั้งพระองค์ยังทราบว่าแม่นางเฟิ่งอยู่ที่ใดหรือว่าพวกท่าน...” “ไม่ใช่เจ้าอย่าได้เข้าใจผิด เรื่องของเฟิ่งถงหลินข้าก็แค่เห็นรถม้าของสกุลเฟิ่งจอดที่หน้าร้านขายเครื่องประดับเท่านั้นจึงได้พูดออกไป ข้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นเดียวกันกับอวี้อ๋อง” “งั้นหรือเพคะ” เสียงของนางเจือไปด้วยความไม่เชื่อเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้นางบังเอิญได้เห็นว่าทั้งคู่เองก็ลอบพบกันที่สวนในงานเลี้ยงสำคัญ แม้แต่ตอนที่นางคุยกับเว่ยอ๋อง เฟิ่งถงหลินยังกล้ามาขัดจังหวะ “นี่เจ้ากำลังระแวงว่าที่คู่หมั้นของตัวเองงั้นหรือ เรื่องที่ข้าแอบคุยกับเฟิ่งถงหลินในวันนั้นทำให้เจ้าไม่สบายใจงั้นหรือ วันนั้นข้ากับนาง…” “ช่างเถิดเพคะหม่อมฉันเองก็มิได้ต้องการจะล่วงรู้ เรื่องนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของพระองค์ อีกอย่างแม่นางเฟิ่งเองก็เป็นสตรีหม่อมฉันรับปากว่าจะไม่พูดเรื่องเช่นนี้ออกไป ดังนั้นพระองค์ก็อย่าได้เอ่ยถึงอีกเลยเพคะ” “อันลี่ซินหากว่าข้าเป็นผู้อื่นที่กำลังนั่งฟังอยู่ ข้าจะต้องนึกว่าเจ้ากำลังประชดประชันและกำลังหึงหวงข้าซึ่งกำลังจะเป็นคู่หมั้นของเจ้า” “หม่อมฉันมิกล้า… เพคะ” “งั้นหรือเช่นนั้นก็น่าเสียดายยิ่งนัก ทั้ง ๆ ที่กำลังจะหมั้นหมายกันอยู่แล้วแต่คู่หมั้นของข้ากลับไม่ได้คิดหึงหวงเลยแม้แต่น้อยงั้นหรือนี่ หรือเพราะว่าข้าไร้ซึ่งเสน่ห์เกินไปกันนะ” “มิใช่นะเพคะ พระองค์คือยอดบุรุษที่หาผู้ใดเปรียบมิได้ในใต้หล้านี้ สำหรับหม่อมฉัน… เอ่อ…” เว่ยซ่างเจวี๋ยนึกอยากแกล้งนางอีกสักหน่อย เขายิ้มบาง ๆ ทำเอาหัวใจของลี่ซินสั่นไม่เป็นจังหวะจนต้องใช้มือกุมหน้าอกเอาไว้เพื่อมิให้เขาสงสัย แต่ท่าทางเช่นนั้นผู้ใดกันจะไม่รู้ “พูดต่อสิ ข้ากำลังฟังเจ้าอยู่นะลี่ซิน” “สำหรับหม่อมฉันพระองค์คือยอดขุนพลนักรบที่กล้าหาญ รักแผ่นดินและราษฎรยิ่งกว่าผู้ใด พระองค์กล้าหาญเด็ดเดี่ยวและ…” เขาเริ่มค้นพบวิธีเข้าหาอันลี่ซินที่น่าสนใจมากขึ้น เมื่อถูกนางเอ่ยถึงด้วยถ้อยคำที่จริงใจและตั้งใจกึ่งเอียงอายนั่นเข้า กลับรู้สึกว่ามันช่างน่าฟังและมิได้ดูเสแสร้งดั่งคำชื่นชมของบรรดาขุนนางหรือสตรีอื่นที่เขาเคยได้รับฟังมา “และอันใดหรือ” “และ... พระองค์ยังรูปงาม มากด้วยความรู้ มีน้ำใจกว่าที่หม่อมฉันคิดเอาไว้” “หืม ลี่ซินก่อนหน้านี้เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนแล้งน้ำใจ เย็นชาและไม่สนใจผู้อื่นงั้นหรือ” “มิใช่นะเพคะ หม่อมฉันเพียงแค่คิดว่านอกจากเรื่องการออกศึกและแผ่นดินแล้ว พระองค์จะไม่สนใจเรื่องของผู้อื่น” “เป็นเช่นนี้นี่เองที่จริง ข้าในสายตาผู้อื่นอาจจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แต่ก็มิใช่ว่าไม่สนใจเลย อย่างน้อยตอนนี้ข้าก็สนใจเรื่องของเจ้านะอันลี่ซิน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม