“อืมยูมิงั้นหรอ“
เสียงนิ่งเรียบก้มหน้าลงมองมาที่ฉัน พร้อมขยับเข้ามาใกล้ จนฉันต้องก้าวถอยขยับออกนิดหน่อย ฉันอดที่จะคิดไม่ได้ว่าทำไมพี่เขาต้องก้มลงมาใกล้ฉันขนาดนั้น จนหัวใจของฉันเต้นรัวระส่ำ กับใบหน้าที่หล่อจนเกินที่ฉันจะห้ามใจไม่ให้คิดชื่นชมได้ ยิ่งมองใกล้ ๆ พี่เขายิ่งหล่อ ฉันเริ่มแอบอมยิ้มเขิน ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงหลบสายตาของพี่ราเชนอย่างเขิน ๆ พร้อมทั้ง อุณหภูมิบนใบหน้าของฉันที่เพิ่มมากขึ้น จนฉันรู้สึกร้อนวูบวาบบนใบหน้า
ในขณะเดียวกัน ราเชนก้มลงมองดูคนตัวเล็กที่อยู่เบื้องหน้า เผยให้เห็นใบหน้าหวานที่สวยนวลเนียลของเธอได้เป็นอย่างดี พรางคิดว่าเธอก็สวยน่ารักดีจริง ๆ ด้วยยิ่งมองใกล้ ๆ ความสวยของเธอยิ่งปรากฏชัดขึ้น พร้อมทั้งหน้าอกที่ดูจะใหญ่จนเขาเผลอมองรอดผ่านคอเสื้อที่ลึกลงไป จนเห็นร่องที่เบียดกันอยู่เบื้องหน้าของเธอก่อนจะหันไปมองฮาย ที่ยืนยิ้มมองมาจากด้านข้างของเขาอยู่ตอนนี้
“น้องเขาน่ารักนะมึง”
ฮายก้มลงกระซิบเบา ๆ ข้างหูของเขา พร้อมยิ้มหวานส่งให้กับยูมิ ทำเอาเขาเริ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจอยู่ไม่น้อย เมื่อเห็นว่ายูมิเองก็ยิ้มตอบกลับไปให้กับไอ้ฮายเช่นเดียวกัน เขาไม่ได้หึงหวงอะไร แต่กลับไม่ชอบเท่าไรนักที่เห็นผู้หญิงที่ต้องเป็นภรรยาของเขาในอนาคต ถูกเพื่อนของเขามองด้วยสายตาที่หวานเยิ้มแบบนั้น เขาจึงก้มตัวลงตั้งใจบังระยะสายตาของไอ้ฮายไว้ เพื่อแกล้งไม่ให้ฮายมองเห็นยูมิ ก่อนที่จะเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัวในขณะที่ใบหน้าของเขาก็เข้าไปใกล้ใบหน้าหวานของยูมิอย่างไม่ได้ตั้งใจ รู้ตัวอีกทีเขาก็เห็นดวงตาที่กลมโต กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของกลิ่นที่อยู่บนตัวเธอเตะเข้าจมูกของเขาก่อนจะพยายามนึกในหัว แต่ก็นึกไม่ออกว่ากลิ่นคลายดอกไม้อะไรซักอย่างแต่ที่รู้ ๆ คือหอม จนเขารู้สึกอยากจะรู้ว่าเธอใช้น้ำหอมกลิ่นอะไร พร้อมแก้มที่แดงระเรื่อทั้งสองข้างจ้องมองมาที่เขา จนเขาต้องรีบดึงสติของตัวเองกลับมา ก่อนจะรีบขยับถอยออกมาที่เดิม พร้อมพยายามดึงสีหน้าของตัวเองให้เป็นปกติที่สุด
“ไอ้เชนมึงจะหอมแก้มน้องเขาหรือยังไงไอ้เหี้ย น้องเขาเขินหมดแล้วนั่น”
ฮายได้ทีรีบพูดแซวขึ้นทันที ไอ้เวรฮายเขาอดที่จะคิดด่าเพื่อนในใจไม่ได้ ก่อนที่จะหันหน้ามามองเธออีกครั้ง ก่อนที่เธอจะก้มหน้าเดินไปที่กลุ่มของนักศึกษาปี 1 ทันที ด้วยความเขินอาย เขาได้แต่มองตามแผ่นหลังของเธอไป พร้อมกับเสียงขำ ๆ ของไอ้เพื่อนเวรของเขา ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างพอใจ
ทางด้านพะพิงเดินมองหาชื่อพี่ฟางก้ม ๆ เงย ๆ ก่อนจะขยับมาจนถึงพี่ผู้หญิงที่ยืนตรงหน้า
”พี่ผู้หญิงหรอเนี่ยถึงว่าละชื่อฟาง ก็ยังคิอยู่ว่าทำไมผู้ชายชื่อฟาง“
เธอพึมพำในลำคอเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถาม
”พี่ฟางหรือเปล่าคะ“
พร้อมยิ้มส่งให้
”พี่ฟางเองค่ะ ไหนดูสิหนูได้พี่เป็นพี่รหัสหรอคะ“
เสียงนั้นทำให้พะพิงฟังแล้วอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
”ใช่ค่ะหนูชื่อพะพิงค่ะเป็นน้องรหัสพี่ฟางค่ะ“
”โอเครค่ะน้องพะพิง มีอะไรปรึกษาพี่ได้เลยนะคะ พี่ยินดีให้ความช่วยเหลือ และตอบทุกอย่างเรื่องการเรียน“
ส่งยิ้มให้พร้อมสายตาหวาน ทำเอาคนยืนมองรู้สึกเขินอายอย่างไม่ได้ตั้งตัว
ส่วนณิชาเดินดิ่ว ๆ ตรงไปหาพี่จูนที่เป็นดาวคณะ คนที่สวยที่สุดของคณะวิศวะ ด้วยความดีใจ
“พี่จูนหนูชื่อณิชานะคะเป็นน้องรหัสของพี่จูนค่ะ“
พร้อมส่งยิ้มหวานให้
”ฮุ้ย..ได้เลยค่ะน้องณิชา เดี๋ยวถ้าน้องมีอะไรถามพี่ได้ตลอดเลยนะคะ พี่ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ“
พี่จูนคนสวยขยับปากเล็ก ๆ พูดพร้อมยิ้มให้จูน ก่อนพี่เขาจะหยิบมือถือขึ้นมายื่นให้ณิชาให้เธอ
”พี่จูนขอเบอร์โทไว้หน่อยสิคะ เผื่อว่ามีอะไรน้องณิชาจะได้ทักหาพี่ได้เลย เราจะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้นด้วย“
พี่จูนปลดล็อครหัสหน้าจอมือถือ ก่อนจะยื่นให้ณิชาทันที เพื่อให้เมมเบอร์มือถือลงที่เครื่องของพี่จูน พร้อมทั้งช่องทางการติดต่ออื่น ๆ
”นี่ค่ะพี่จูน“
เธอรับมือถือมา พร้อมกดเบอร์ตัวเองลงที่หน้าจอก่อนจะยื่นแขนส่งคืนให้พี่จูนพร้อมยิ้มกว้าง ก่อนจะก้มหัวลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการขอบคุณ
ก่อนที่ทั้งสามจะมารวมตัวกันที่นั่งที่เดิม ภายในสนามหญ้าด้านหน้าอาคารวิศวะเช่นเดิม
“ยูมิแกเห็นพี่ราเชนยัง”
ณิชาถามฉันขึ้นด้วยความอยากรู้
“อืมเห็นแล้ว”
ใจของฉันยังเต้นแรงไม่หยุด ตั้งแต่ที่เจอกับพี่เขา แล้วตอนนี้ฉันก็เผลอเงยหน้ามองหาพี่ราเชน คนตัวสูงที่ตอนนี้ยืนหน้านิ่งอยู่ใกล้ ๆ กับโต๊ะม้าหินอ่อนด้านหน้าพร้อมกับเพื่อน ๆ ของพี่เขา ก่อนจะยิ้มให้พี่ราเชนเบา ๆ ขณะที่พี่เขาก็มองมาที่ฉันเช่นเดียวกัน จนฉันต้องหลบสายตาลงในทันที เพราะไม่กล้าที่จะสบตาที่บาดคมนั้น
“คนไหนแก”
ณิชายังถามฉันไม่เลิก เพราะหล่อนอยากจะรู้ว่าคนไหน
”คนที่ยืนหน้านิ่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนตัวสูง ๆ ยืนอยู่อ่ะแก“
ฉันมองไปอีกครั้งจนพี่ราเชนเริ่มรู้ตัว พี่เขาขยับก้าวขาเดินไปหาเพื่อนเขาอีกคน ที่ยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก
”พี่เขาเดินไปโน่นแล้วน่ะ“
ณิชาก็ยังชะเง้อคอมองหา จนฉันต้องพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมแอบมองตามไปยังจุดที่พี่เขาอยู่
“อ้อ ๆ ฉันเห็นละ ฮุ้ยหล่อวะแกหล่อมาก”
ณิชาเขย่าแขนฉันพร้อมมองตรงไปที่พี่ราเชน
“นั่นมันพี่รหัสของฉันยะ”
ฉันรีบพูดเพราะรู้สึกหวงความหล่อของพี่เขา ทันทีที่รู้ว่าพี่เขาคือพี่รหัสของฉัน
“ฮุ้ย..หวงหรอ”
ณิชาแซวขึ้นเบา ๆ พร้อมกับส่งสายตามาจับผิดฉันตามประสานางนั่นแหละ
“แน่นอน”
ฉันตอบไปอย่างนั้นแหละ เพราะนั่นคือคำตอบที่ฉันคิดว่าต้องถูกใจณิชาที่สุด
“ว้าย..ร้ายมากแก”
ณิชาแซวฉันไม่หยุด จนฉันเริ่มเขินขึ้นมาจริง ๆ
“พอแล้วฉันจะเขินจริง ๆ แล้วนะ”
ฉันยิ้มขำให้กับณิชา เพื่อแก้เขิน
”ของแกละพะพิง พี่อะไรนะฉันลืมชื่อ“
ฉันรีบหันไปมองที่พะพิง เพื่อเบี่ยงเบนเรื่องของพี่ราเชน จากณิชา
”พี่ฟาง“
เสียงของพะพิงรีบบอก
”พี่ฟางคนไหนแก“
ณิชาเปลี่ยนไปสนใจพะพิงตามคาด
”คนโน้นไงที่ผมยาว ๆ ที่มัดรวบไว้อ่ะ“
พะพิงชี้มือตรงไปที่พี่ฟาง ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ม้าหินอ่อนไม่ไกลจากพี่ราเชนมากนัก ก่อนที่ฉันและณิชาจะมองตามไป
”พี่เขาเป็นผู้หญิงหรอ“
ฉันถามขึ้นด้วยความสงใส เพราะดูท่าทางพี่เขาแต่งตัวแล้วดูออกแนวเป็นผู้หญิงเท่ ๆ ก่อนที่ฉันจะหันหน้ากลับมามองหน้ากันกับณิชา ซึ่งฉันเองก็คิดว่าณิชาก็รู้สึกไม่ต่างกับฉัน เพราะดูจากสายตาที่ณิชาหันมาจ้องตาฉันแล้ว เหมือนเซ้นเรากำลังคิดเรื่องเดียวกัน
”อืมใช่พี่เขาน่ารักมากเลยนะแก พูดเพราะมากๆๆๆๆ ฉันชอบผู้หญิงแบบนี้เลยแกน่ารักดี”
ขณะที่พะพิงพูดแววตาดูชื่นชม พร้อมยิ้มหวานไปด้วย ราวกับว่ากำลังเขินอายแต่ก็ไม่เชิง
ครึก ครึก ครึก
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ฉันล้วงมือลงไปหาโทรศัพท์ ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายข้างสีดำ ขนาดใหญ่กว่ามือถือของฉันเล็กน้อย ที่สามารถใส่โทรศัพท์กับลิปสติกสำหรับเติมปากระหว่างวันได้ ฉันก้มลงมองที่หน้ามองที่หน้าจอ ก่อนจะเห็นว่าเป็นป๊าที่โทรเข้ามา
”ค่ะป๊า“
ฉันพูดกับป๊าด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ฟังดูอ่อนหวานเท่าไรนัก เพราะป๊าเองก็ไม่ใช่คนที่จะอ่อนหวานกับฉันขนาดต้องพูดจาเป็นลูกคุณหนูขนาดนั้น
”ยูมิหนูเลิกเรียนยังลูก“
เสียงอบอุ่น ปนเข้มของป๊าดังขึ้นมาตามสาย
”ยังค่ะป๊าแต่หน้าจะใกล้เลิกแล้วค่ะ“
ฉันก้มลงดูนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะเห็นว่ามันเป็นเวลา 14.30 น และอีกไม่นานก็จะถึงเวลาเลิกแล้ว
”วันนี้กลับบ้านนะลูกป๊ามีเรื่องจะคุยกับหนูด้วย“
ฉันฉุกคิดนิดหน่อยก่อนจะตอบออกไป
”ได้สิคะป๊าเดี๋ยวหนูรีบกลับนะคะ ป๊ามีอะไรด่วนไหมคะ”
”ไม่ด่วนเท่าไรไว้เจอกันที่บ้านนะ“
”ค่ะป๊า“
ป๊ากดวางสายฉันทันทีที่ฉันพูดจบ
ตูด ตูด ตูด