1เดือนต่อมา..
“นี่ถ้าลูกชายเรายังไม่ยอมกลับมาบ้านนะ ผมจะตัดพ่อตัดลูกกับมัน”ชายสูงวัยพูดกับภรรยาด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“ใจเย็นๆสิคะคุณ ให้เวลาลูกหน่อย”
“ผมให้เวลาลูกมาเยอะแล้วนะ ส่วนลูกสะใภ้เราก็ไม่ได้เรื่อง ทีแรกนึกว่าจะเอาไอ่โปรดมันอยู่ ที่ไหนได้วันๆไม่คิดจะทำอะไรนอกจากนั่งวาดรูปแทนที่จะเร่งมีทายาทให้เรา”
“คุณต้องเข้าใจหนูแพทด้วยสิ ก็เห็นๆกันอยู่ว่าลูกเราเป็นคนยังไง”
บทสนทนาของคู่สามีภรรยาทำให้หญิงสาวซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกสะใภ้ได้ยินเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ นั่นจึงทำให้เธอยืนอึ้งไปชั่วขณะ
“หนูแพท มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้”หญิงสูงวัยถามลูกสะใภ้ออกไปด้วยสีหน้าตกใจ
“พอดีแพทเข้ามาหาน้ำผลไม้ดื่มค่ะ”
“แล้วนี่แต่งตัวสวยเชียวจะออกไปไหนหรือเปล่า”หญิงสูงวัยถามลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ไปหาหมอค่ะ”
“ไปหาหมอ! แล้วเป็นอะไร เป็นหนักมั้ยจะให้แม่ไปเป็นเพื่อนหรือเปล่า”
“ไม่เป็นอะไรมากค่ะ แค่มีอาการแพ้ท้องนิดหน่อย”
“แพ้ท้อง? รู้ได้ยังไงว่ามันคืออาการแพ้ท้อง แล้วท้องกับใคร ใช่ลูกพี่โปรดมั้ย”หญิงสูงวัยเผลอพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดเนื่องจากไม่สามารถเก็บอาการตื่นเต้น
“คุณแม่คิดว่าแพทนอกใจคุณโปรดหรอคะ?”หญิงสาวถามแม่สามีด้วยใบหน้านิ่ง
“เปล่าๆไม่ใช่แบบนั้น คือแม่ตื่นเต้นไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรค่ะ แพทจะถือเสียว่าคุณแม่ไม่ได้ตั้งใจ”
“แล้วอาการเป็นยังไงบ้างบอกแม่ได้มั้ย แม่เคยท้องดังนั้นรู้ว่าอาการแพ้ท้องมันเป็นยังไง”
“ต่อให้แพทไม่เคยตั้งท้อง แพทก็รู้ค่ะว่าอาการที่เป็นอยู่มันคืออาการอะไร อีกอย่างแพทตรวจด้วยตัวเองแล้วมันขึ้นสองขีด”
“งั้นขอแม่ไปด้วยคนนะ เผื่อช่วยอะไรได้บ้าง”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไว้รู้ผลอย่างเป็นทางการแล้วแพทจะแจ้งให้ทราบนะคะ”
“งั้นแม่จะให้คนขับรถไปส่งนะเผื่อเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาจะได้มีคนคอยดูแล”
“แพทดูแลตัวเองได้ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง”พูดจบหญิงสาวก็เดินออกจากบ้านไปตัวคนเดียว ส่วนหญิงสูงวัยเมื่อรู้ว่ากำลังจะมีหลานจึงรีบไปแจ้งให้ผู้เป็นสามีทราบในทันที
…..
“หมอยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ตั้งท้องได้4สัปดาห์เศษๆ”
“ค่ะ”
“คุณแม่เรื่องไม่สบายใจหรือเปล่าคะ หรือว่ายังไม่พร้อม”เมื่อหมอหญิงสังเกตเห็นว่าสีหน้าของคนที่กำลังจะได้เป็นแม่แต่ดูเป็นกังกลจึงแสดงความเป็นห่วง
“เปล่าค่ะ แค่ยังไม่ทันได้ตั้งเนื้อตั้งตัวเฉยๆ”
“งั้นจะฝากครรภ์เลยมั้ย หมอจะได้ทำเรื่องให้”
“ฝากครรภ์เลยก็ได้ค่ะ”
“คุณพ่อมาด้วยมั้ยคะ”
“หนูมาคนเดียวค่ะ”
“ไม่เป็นไร งั้นทำเรื่องฝากครรภ์ก่อนไว้รอบหน้าพาคุณพ่อมาด้วยนะคะ เพราะหมอจะต้องเจาะเลือดทั้งของคุณพ่อและคุณแม่”
“ถ้าเกิดว่าสามีหนูไม่สะดวกมาจะเป็นไรมั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะถ้าคุณพ่อไม่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือโรคอื่นๆที่มันส่งผลต่อเด็กในครรภ์โดยตรง แต่ตรวจไว้จะดีที่สุด เพื่อความสบายใจของหมอและคุณแม่ด้วย ทางที่ดีพยายามพาคุณพ่อมาด้วยให้ได้นะคะ
“ค่ะคุณหมอ”
หลังจากเธอทำเรื่องฝากครรภ์เสร็จก็ขับรถไปหาพ่อของลูกทันที
“คุณโปรด ฉันโทรหาคุณตั้งหลายรอบทำไมไม่รับสาย”เมื่อหญิงสาวโทรหาพ่อของลูกแล้วไม่มีการตอบรับเธอจึงบุกเข้าไปยังห้องทำงานของเขาโดยพละการ
“ก็ผมไม่ว่าง แล้วมีธุระสำคัญอะไรถึงมาที่นี่”
“จะมาบอกว่าฉันท้องและต้องการพาคุณไปเจาะเลือด”
“ยินดีด้วยที่คุณทำสำเร็จแต่ผมจะไม่มีวันยอมรับเด็กนั่น และไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับคุณและลูกของคุณ”
“คุณโปรด ฉันขอโทษสำหรับเรื่องที่ผ่านมา”
“ขอโทษ แค่คำขอโทษมันไม่พอหรอก”
“แล้วจะให้ฉันทำอะไรคุณถึงจะพอใจ”
“ไปเอาเด็กออกซะ”
“นี่คุณเสียสติรึยังไงถึงให้ฉันไปทำแท้ง”
“ก็ผมไม่ได้อยากมีลูก”
“แล้วคิดว่าฉันอยากมีนักรึไง?”
“ผมรู้ว่าคุณเองก็ไม่ได้อยากมี ที่คุณพยายามจะมีลูกกับผมให้ได้เพราะคุณมันหน้าเงิน คุณทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน”
“เรื่องนี้ฉันอธิบายได้ และคุณควรฟังฉันอธิบาย”
“ไม่ ผมไม่ฟังคำแก้ตัวใดๆจากคุณ กลับไปซะแล้วอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก ส่วนเรื่องเด็กแล้วแต่คุณจะตัดสินใจเอง เพราะผมจะไม่ขอเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีก”
“คุณแน่ใจนะว่าอยากให้ฉันเอาเด็กออก”
“ใช่ หรือจะรอคลอดก่อนแล้วให้ผมเป็นคนจัดการเด็กนั่นกับมือ”
“คุณมันไม่ใช่คน คุณมันสัตว์นรกมาเกิด”
“คุณดีตายแหละ นี่ถ้าคนอื่นรู้เข้าว่าคุณพยายามมีลูกกับผมโดยใช้วิธีสกปรกๆ ทุกคนคงพากันรังเกียจคุณแน่นอน”
“ไม่ว่าฉันจะมีเด็กคนนี้ด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่ณตอนนี้เขาเป็นลูกของฉัน และฉันจะปกป้องเขาไปจนวันตาย”
“อยากรับบทเป็นแม่ที่แสนดีว่างั้น ผมจะขอพูดอะไรอย่างนะ อย่างคุณเป็นแม่ที่ดีให้ลูกไม่ได้หรอก เป็นได้มากสุดก็แค่แม่ที่มีหน้าที่ตั้งท้องแล้วก็คลอดลูกออกมา จากนั้นก็ให้พี่เลี้ยงดูแลส่วนตัวเองก็แต่งตัวช๊อปปิ้งไปวันๆ ถึงเวลาออกงานก็อุ้มลูกเฉพาะตอนถ่ายรูป นี่แหละคือวิถีชีวิตของพวกผู้หญิงที่ชอบจับผู้ชายรวยๆ ผู้หญิงที่ทำได้ทุกอย่างเพิ่งเงินและเพื่อความสุขสบาย หรือว่าคุณรอคลอดแล้วหย่ากับผมทันทีจากนั้นก็เอาเงินค่าสินสอดที่เหลือไปส่วนลูกตามข้อตกลงในสัญญาคือต้องอยู่กับครอบครัวผม”
“นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ”
“ไม่มากไปหรอกเพราะผมพูดความจริง หรือคุณรับความจริงไม่ได้”
“ฉันไม่คิดว่าคุณจะมีทัศนคติแย่ๆต่อผู้หญิงขนาดนี้ ถึงว่าไม่มีใครเอา กรรมเลยมาตกที่ฉัน”
“ใครบอกคนอย่างผมไม่ทีคนเอา”
“ก็ดูจากสันดานคุณไง”
“ออกไป! คุณกล้ามากที่พูดจาแบบนี้กับผม”
“ฉันเองก็ไม่ได้อยากอยู่เห็นหน้าคุณนักหรอก”
พูดจบหญิงสาวก็เดินออกไปโดยทิ้งให้ชายหนุ่มยืนหัวร้อนจนปาข้าวของทิ้งอยู่บนโต๊ะกระจัดกระจาย