บทที่ 5 ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ

902 คำ
เสียงเพลงจากด้านในยังคงดังก้อง แสงไฟระยิบระยับเคลื่อนผ่านม่านแก้วของห้องจัดเลี้ยง ผู้คนกำลังเต้นรำ ดื่มเหล้า และหัวเราะกันอย่างไร้กังวล แต่น้ำผึ้ง กลับเลือกเดินออกมาจากตรงนั้น รองเท้าส้นสูงของเธอแตะพื้นไม้เรียบของทางเดินริมสวน ลมยามค่ำพัดผ้าเดรสยาวแนบเนื้อของเธอปลิวแผ่วเบา สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ข้างสวนสะท้อนแสงจันทร์ที่ส่องอยู่เหนือศีรษะ เป็นภาพที่งดงามจนเธออยากจะลืมโลกทั้งใบไว้ตรงนี้ เพื่อนๆ ของเธอก็แต่งกันไปหมดแล้ว… ภาพเจ้าสาวที่ยิ้มอย่างมีความสุขกับชายที่รัก ทำให้หัวใจเธอรู้สึกอุ่นปนหนาว น้ำผึ้งเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า นัยน์ตาเธอสะท้อนแสงจันทร์เหมือนน้ำในสระ แล้วฉันล่ะ…ยังกลัวความรักอยู่ไหม หรือแค่ยังไม่กล้ากลับไปเผชิญหน้า…กับอดีตที่มันยังคาอยู่ในอก เธอถอนหายใจ หันหลังกลับเข้าโรงแรม ฟิวส์โอดอร์ บาร์เอ้าท์ดอร์ที่ลอยอยู่เหนือมหานครกรุงเทพฯ ชั้นที่หกสิบ แสงไฟจากเมืองเบื้องล่างพราวพร่างเหมือนพรมอัญมณี เสียงเพลงแจ๊สบรรเลงเบา ๆ แทรกไปกับเสียงแก้วกระทบกัน และเสียงลมที่พัดผ่านระหว่างตึกสูง มือเรียวน้ำผึ้งผลักประตูกระจกใสออกมา เธอก้าวเดินอย่างมั่นคง ชุดเดรสยาวแนบลำตัวปลิวตามลมเย็นบนที่สูง ผิวขาวเนียนตัดกับสีชุดอย่างชัดเจน ดวงตาเธอวาววับใต้แสงเทียนจากโต๊ะข้างทางเดิน และริมฝีปากสีไวน์แดงนั้น…ไม่มีใครกล้าละสายตา เธอเลือกนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ อย่างคนที่ไม่ต้องการซ่อนตัวจากสายตาใคร บาร์เทนเดอร์หนุ่มเงยหน้าขึ้นจากขวดเหล้า สบตาเธอเพียงเสี้ยววินาที ก็รู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา “รับอะไรดีครับคุณผู้หญิง?” บาร์เทนเดอร์หนุ่มถามอย่างสุภาพ น้ำผึ้งมองเขา แล้วยกยิ้มน้อยๆ เสียงของเธอนุ่มลึก ชวนฟังแต่ไม่เปิดเผย “เนโกรนี่… แรงนิดนึงนะคะ คืนนี้ต้องใช้มันกลบเสียงหัวใจตัวเอง” น้ำผึ้งพูดเสียงเรียบ บาร์เทนเดอร์อมยิ้ม ก่อนหันไปจัดเตรียมเหล้าและเครื่องมือ ขณะนั้นเอง ลูกค้าคนอื่นๆ บนบาร์เริ่มสังเกต ผู้หญิงคนนี้สวยจับใจ แต่ไม่ใช่แค่สวย… เธอดูลึกลับเหมือนมีอดีตบางอย่างซ่อนอยู่ใต้แสงไฟนวลนั้น เธอเป็นผู้หญิงที่ทำให้บาร์ชั้นหกสิบ… ดูหรูหราขึ้นอีกขั้นทันทีที่เธอก้าวเข้ามา แก้วทรงสูงถูกวางลงตรงหน้าเธอเหล้าในแก้วสีอำพันสั่นสะท้อนแสงไฟเมือง น้ำผึ้งยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปาก จิบช้า ๆ รสขมของ Campari กับกลิ่นจาง ๆ ของเปลือกส้มชวนให้นึกถึงใครบางคน ใครคนนั้น…ที่เคยพาเธอมาดื่มแบบนี้ ที่บาร์แห่งหนึ่งในลอนดอน ก่อนเขาจะหายไปพร้อมเพื่อนรักของเธอ เธอไม่ได้เมา แต่หัวใจมันกลับร้อนวูบขึ้นมา เหมือนเปลวไฟใต้ความเยือกเย็น เธอวางแก้วลงแล้วมองออกไปยังขอบฟ้า ใต้ฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวของค่ำคืนนี้ ในความสูง ความหรูหรา และความเปลี่ยวเหงา “ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ” น้ำเสียงของเขาทุ้มนุ่ม แต่แฝงไว้ด้วยแรงดึงดูดมหาศาล เธอมองเขา ชายหนุ่มแปลกหน้าที่หน้าตาราวกับหลุดออกมาจากนิตยสารลักชัวรี สูทสีดำสนิทเนี๊ยบไร้ที่ติ ผมดำขลับเซ็ตขึ้นอย่างไม่ตั้งใจนัก ดวงตาสีนิลลึกสงบแต่ร้อนแรง “เชิญค่ะ” น้ำผึ้งตอบเบาๆ ริมฝีปากแดงยกยิ้มบาง เขาทรุดนั่งลงข้างเธอ เขาไม่พูดอะไรทันที แค่หันไปส่งยิ้มให้บาร์เทนเดอร์อย่างรู้ทาง ไม่นานแก้วสก็อตช์ออนเดอะร็อก ก็ถูกวางลงตรงหน้าเขา “ดื่มแก้วแรกไปแล้ว” น้ำผึ้งว่าโดยไม่ได้หันมามองเขา “หวังว่าคืนนี้คุณจะไม่เป็นคนแก้วสุดท้ายนะคะ” เธอพูดจบเขาหัวเราะในลำคอ เสียงทุ้มของเขาเหมือนช็อกโกแลตเข้มข้นละลายกลางอากาศ “แล้วคุณล่ะ… กำลังวิ่งหนีใคร หรือกำลังรอใครอยู่ที่นี่” เขาถามเสียงนุ่ม น้ำผึ้งหันกลับมามองเขาช้าๆ ดวงตาของเธอสบตาเขาโดยตรง กลิ่นน้ำหอมของเขาแตะจมูกเธอ มันอุ่น ลุ่มลึก และอันตราย “ฉันไม่รอใคร…แค่กำลังเรียนรู้จะอยู่กับตัวเองให้ได้และคุณ…ดูไม่เหมือนคนที่บังเอิญผ่านมาเลยนะคะ” เธอพูดจบแล้วยกยิ้มมุมปาก เขาเอนกายเล็กน้อย วางแขนบนพนักเก้าอี้ข้างเธออย่างไม่ล่วงเกิน แต่ชิดจนรู้สึกถึงแรงอุ่นจากตัวเขา “อาจเพราะผมไม่ใช่คนบังเอิญ… ผมแค่เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วทำให้ทั้งบาร์หยุดหายใจ แล้วผมก็ไม่อยากเสียโอกาสนี้ไป” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาสายตาของเขาที่มองมาที่เธอเป็นประกาย น้ำผึ้งนิ่งไปเสี้ยววินาที เธอเคยได้ยินคำชมมาไม่น้อย แต่ครั้งนี้…มันไม่ใช่คำพูดธรรมดา มันมีบางอย่างในน้ำเสียงเขาที่ทำให้เธอเผลอกลั้นหายใจ เธอยกแก้วขึ้นจิบอีกครั้ง แล้วเอ่ยเบาๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม