ณ. เมืองกรุง
"ตอนนี้หนูขึ้นปี2 แล้วนะคะพี่ใหญ่ ดีใจจังเลย" เสียงใสอยู่ในอ้อมกอดชายรุ่นพี่ที่อายุห่างกันเกือบ10ปี
"งั้นแสดงว่าพี่จะได้ตามคำขอแล้วใช่ไหม..."
"อืมมม ตามที่หนูเคยสัญญาไว้ ยังไงพี่ก็เป็นแฟนคนแรกแถมเป็นเจ้าของร้านอาหารนี้ช่วยรับเข้าทำงานดูแลหนูมาตลอด"
"พี่รักหนูนะรำพึง"
มือหนาลูบผมยาวสลวยของสาวน้อยจิ้มลิ้ม รำพึง เด็กสาว วัย19ปี รูปร่างผอมบางหุ่นดีหน้าตาน่ารัก ต้องย้ายถิ่นฐานมาอยู่กับญาติที่เมืองกรุง แต่เมื่อปีก่อนญาติเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เนื่องจากเธอเรียนจบมัธยมปลายจึงต้องดิ้นรนหางานทำจ่ายค่าเทอมมหาวิทยาลัย
กระทั่ง..มาเจอร้านอาหารคาเฟ่ซึ่งมีใหญ่เป็นเจ้าของกิจการ เขาชอบเธอตั้งแต่เเรกพบจึงคอยดูแลส่งเสียจน 1ปีผ่าน
"จะเจ็บไหมคะการเสียบริสุทธิ์ครั้งแรก" พวงแก้มเขินอายแดงแจ๋ยิ้มอย่างเรียบร้อยกล่าวถาม "สอนหนูหน่อยหนูไม่เคย"
ติก
อ๊าง์~โอว์~ เบบี๋ฟัค~
ดวงตาเล็กเบิกกว้างคว้ามือถือขึ้นมาปิดหนังที่ค้าง หลังจากบิดตัวเขินม้วนกดเข้าเว็บXฝรั่ง
"สรุปต้องให้พี่สอนอยู่ไหมเนี่ย ฮ่าๆ"
"|||||"
ก๊อก ก๊อก
ยังไม่ทันที่บทสวาทจะเริ่มต้นประตูถูกเคาะดังลั่นพร้อมกับใครบางคนเดินเข้ามา
"ที่แท้ก็เลี้ยงเด็กเอาไว้จริงด้วย!! นี่เหรอ..ที่บอกยุ่งต้องทำงาน"
สาววัยใกล้เคียงใหญ่เดินจูงมือลูกสาววัยเพียงสองขวบเข้ามาหา
"นี่ใครกันคะพี่ใหญ่?!" รำพึงถามเสียงเชื่องช้าสักพักผู้หญิงตรงหน้าก็ตอบกลับ
"กูเป็นเมียมันนี่แหละ อยู่กินกันมาสามปี แล้วเธอเองเหรอที่ถ่ายรูปเมื่อตอนเป็นเด็กมัธยมผมเปียคู่ผัวฉัน หึ ไม่ต้องผูกโบสีน้ำเงินหรอก มึงมันควรคู่กับโบว์ดอกสีทอง!!มากกว่า"
ดังฟ้าผ่าเปรี้ยงลงกลางใจ
เพียะ!
"พี่ใหญ่หลอกหนูมาตลอด ฮึกกก ไหนบอกโสดไงที่ยืนอยู่ตรงนี้บรรพบุรุษพี่หรือไง!!"
"รำพึงฟังพี่ก่อน"
"ไอ้ใหญ่!!!!"
"....."
"มึงนี่โคตรเฮงซวย มีคนมาจีบกูเป็นร้อยเป็นพันแต่กูก็ไม่สนใจเพราะจงรักภักดีกับมึง แต่มึงแม่งโคตรเลว"
ตลอดเวลารำพึงจะเรียบร้อยอ่อนโยนทั้งที่เธอไม่ได้เป็นคนแบบนั้น
"แล้วอีกอย่างนะคะคุณพี่เมียหลวง โบสีทองมันผิดระเบียบโว้ยยยย!!"
รำพึงด่ากราดก่อนจะจ้ำอ้าวเดินออกไปยังห้องพักซึ่งอยู่หลังคาแฟ
ห้องรำพึง
"เขามีแต่โครงการคนละครึ่งนี่โครงการผัวคนละครึ่งกูไม่เคยได้ยิน ฮึกกก เจ็บใจ!!" มือเล็กปาดน้ำตารีบคว้ากระเป๋าเก็บเสื้อผ้ายัด "ช่างเถอะ อึก ค่อยไปหามหาวิทยาลัยเรียนที่ใหม่แล้วกัน ไปไหนดี...สเปน ยุโรป หรือ โตเกียวเจแปนนิส"
ขณะที่น้ำตารินไหลพร้อมเช็ดปาด
รำพึงหยิบโทรศัพท์มือถือเช็กยอดเงิน
"ฮื้อออ ไปได้แค่ปากซอย~ฮึกกก "
เสียงร้องไห้โฮดังอีกครั้งเมื่อเงินทุกบาทที่เก็บนำไปใช้หนี้ให้กับญาติที่ตายเมื่อวันก่อน
หลายวันต่อมา
เนื่องจากรำพึงไม่ค่อยสุงสิงกับใครจึงไร้เพื่อน.และจำยอมทำงานในคาเฟ่ใหญ่เพื่อเก็บเงิน
ตั้งแต่วันที่เมียเขามาตามอาละวาดก็ไม่เห็นเขาอีกเลยมีเพียงผู้จัดการร้านเท่านั้น
"อีรำพึงมีจดหมายมึงเห็นเสียบอยู่ โคตรโลเทคโนโลยีไม่ส่งไลน์มา" พี่ในร้านหยิบซองบางอย่างให้
-รำพึงเเม่ขอโทษที่ส่งลูกไปอยู่ที่นั่นตั้งแต่ยังเด็กเพราะอยากให้ลูกมีชีวิตที่ดีกว่า ถ้าลูกเห็นจดหมายนี้แสดงว่าแม่ได้จากโลกนี้ไปแล้ว อย่าโกรธแม่เลยนะ และ สุดท้ายนี้แม่ไม่มีอะไรจะให้นอกจากร้านที่แม่เปิดในชุมชน ถ้าลูกไม่รู้จะทำอะไร ก็มาเปิดร้านต่อได้เลยเหตุผลที่แม่ไม่ขายร้านนี้ก็เพราะแม่พบเจอกับพ่อของลูกที่นี่ รักลูกมาก จาก แม่นาง-
"แม่ ฮึกกก"
แม้จะไม่ได้เลี้ยงดูแต่ผู้เป็นแม่มักส่งจดหมายมาถามไถ่เสมอ รำพึงจึงไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไร
ตอนนี้จดหมายฉบับสุดท้ายในมือสั่นเหมือนกับโลกพังทลาย ทั้งชีวิตของเธอเหลือเพียงตัวคนเดียว
บรื้นนนน
ฝุ่นควันฟุ้งกระจายเมื่อรถวิ่งผ่านถนนเส้นหลักที่ยังไร้ซึ่งการพัฒนาไม่ลาดยางมีเพียงดินสีแดงเเข็งไม่เท่ากัน
หลังจากได้รับจดหมายรำพึงตัดสินใจกลับภูมิลำเนา
"ถึงแล้วนี่แหละบ้านอีนาง ว่าแต่หนูเป็นใครไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน" ลุงวัยห้าสิบยังแข็งแรงขับสามล้อพ่วงเอ่ยถาม
"หนูเป็นลูกสาวของแม่นางจ้ะชื่อรำพึง"
"เฮ้ยยย จริงหรือเนี่ย! ตอนนั้นเอ็งยังสามขวบอยู่โตไวแท้แล้วกลับมาไม่ทันงานเผาแม่สินะ จะกลับมาอยู่เลยหรือยังไง?"
"เพิ่งได้รับจดหมายไม่กี่วันก่อนเอง หนูคิดว่าคงจะกลับมาเปิดร้านแทนแม่ที่นี่สักพัก"
หลังจากพูดคุยถามไถ่ตามประสาคนบ้านเดียวกัน ลุงก็วนไปขับสามล้อต่อ
รำพึงหอบหิ้วกระเป๋าหลายใบวางตรงหน้าร้านซึ่งมีต้นมะยมอยู่สองฝั่ง
เธอแหงนมองป้ายร้านที่เก่าจนผุพังก่อนจะอ่านชื่อนั้น
.
.
"มนต์รักเริงสุรา คาราโอเกะ"