“ทอดด์” เอียนเรียกชื่อเลขาฯ ของเขาเป็นเชิงรั้งเอาไว้หลังจากที่อีกฝ่ายเอาเอกสารที่ต้องเซ็นอนุมัติในเช้าวันนี้มาให้ “ถ้ามีโทรศัพท์ของแอชลีย์เข้ามาอีกต่อไปนี้ฉันไม่รับแล้วนะ”
ชายหนุ่มสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยก็จริง แต่เห็นได้ชัดว่าคำสั่งนั้นบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขากำลังดำเนินการตัดความสัมพันธ์กับทายาทสาวเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำคนนั้นหลังจากที่คบกันมากว่าสองเดือนแล้ว
คนนี้ดูเหมือนจะเป็นสถิติถูกทิ้งเร็วที่สุดเท่าที่เอียนเคยสลัดผู้หญิงสักคนทิ้งจริงๆ... ดูท่าว่าเธอจะไม่ได้มีนิสัยที่แท้จริงอย่างที่แสดงออกและคงเผลอแสดงธาตุแท้สักอย่างที่เอียนรับไม่ได้ออกมาแน่ๆ
“ได้ครับ มิสเตอร์แอดดิสัน”
ทอดด์รับคำสั่งนั้นอย่างรวดเร็วและไม่ซักถามอะไรมาก เอียนที่ก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่จึงสั่งต่อไปอย่างไม่ใส่ใจนัก
“อ้อ แล้วไปซื้อของขวัญอะไรก็ได้ส่งให้เธอไป เขียนไปด้วยว่าขอบคุณสำหรับช่วงเวลาดีๆ แล้วกัน” เขาสั่ง เป็นสิ่งที่เอียนมักจะทำเมื่อต้องการเลิกรากับใครสักคน อันที่จริงมีน้อยมากที่เขาจะให้คนจัดการให้ ส่วนใหญ่เอียนถือว่าเขาควรจะขอเลิกกับพวกเธอด้วยตัวเอง
ทว่าพฤติกรรมของแอชลีย์เมื่อคืนนี้นั้นยากจะลืมจริงๆ เธอแล้งน้ำใจและร้ายกาจเกินกว่าที่เขาจะทนไหว และเขาไม่จำเป็นต้องทนกับคนอย่างเธออีกด้วย
“ได้ครับ”
“หลังจากนี้มีงานอะไรอีกไหม”
เอียนถาม ขณะที่ทอดด์ก็ยกเอาแทปเล็ตที่ตนเองถือติดมือขึ้นมาเช็คตารางงานวันนี้ของเจ้านายอย่างรวดเร็ว
“คุณมีนัดเจรจากับมิสเตอร์แมนนิ่งเรื่องหนี้ของพวกเขาครับ”
คำตอบนั้นทำให้คนเป็นเจ้านายขมวดคิ้วทบทวนความทรงจำตัวเองอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะย้อนถามทอดด์กลับว่า
“แมนนิ่ง...? เรื่องหนี้ของพวกเขามันจบไปแล้วไม่ใช่เหรอ เอเดรียนดูแลเรื่องพวกนี้นี่”
เมื่อสักต้นเดือนที่ผ่านมานี่เองที่ได้จัดการเรื่องนี้เรียบร้อย ปกตินี่ไม่ใช่หน้าที่ของเอียนที่ต้องมารับรู้ เนื่องจากเขาดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลแอดดิสันเป็นหลัก แถมเขาเองก็ไม่ค่อยได้ประจำที่นิวยอร์กด้วยเนื่องจากมีน้องชายกับพี่ชายอยู่ที่นี่ แต่เขาไปดูแลธุรกิจของแอดดิสันที่ชิคาโก้ต่างหาก ทว่าเพราะช่วงก่อนหน้านี้แอชตันไม่ว่าง เอเดรียนพี่ชายคนโตจึงดึงเขามาช่วยงานเป็นการชั่วคราว พลอยทำให้รับรู้เรื่องหนี้สินของพวกแมนนิ่งไปโดยปริยาย
“เขาขอนัดเจรจาเรื่องหนี้อีกครั้งครับ” ทอดด์สมกับเป็นเลขาฯ ทรงประสิทธิภาพ เพราะเขาจดจำรายละเอียดเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำยิ่งกว่า “คุณเอเดรียนรับปากไปแล้ว แต่ทีนี้คุณเอเดรียนลาพักร้อนยาว เขาเลยโอนงานมาให้คุณช่วยดูแลชั่วคราว”
“เดี๋ยว” คำตอบนั้นทำให้เอียนถึงกับร้องเสียงดัง คิ้วเข้มของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าชายจอมโหดของแอดดิสันถึงกับขมวดมุ่นอีกครั้ง “ถ้าฉันจำไม่ผิด เรื่องนี้แอชตันมันเป็นคนดูนี่”
เขาถ่ายโอนงานให้มันจนหมดแล้วนี่หลังจากที่มันทำโปรเจกต์อื่นจบไปแล้ว
“อ้อ... พอดีว่าคุณแอชตันขอลาหยุดเพิ่มอีกนะครับ ช่วงนี้คุณเอเดรียนเลยส่งต่องานให้คุณ”
“ไอ้แอชตันตัวแสบ”
เอียนถึงกับยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองเบาๆ เมื่อจำได้แล้วว่าก่อนหน้านี้แอชตันมันกำลังระหองระแหงกับสาวน้อยของมันจนแทบไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน ส่งผลให้เอียนจำต้องรับเอางานหลายชิ้นของน้องชายมาช่วยสานต่อแทน
“เขาจะมาบ่ายโมงนี้ ไม่ทราบว่าคุณจะเลื่อนนัดหรือไม่ครับ”
ทอดด์เอ่ยถามความเห็นของคนเป็นเจ้านาย เมื่อเห็นว่าเอียนนั้นดูท่าจะลืมงานนี้ไปแล้วจริงๆ ผิดปกตินิสัยของคนช่างจดจำอย่างเขาเสียสิ้น
ทว่าเอียนกลับโบกมือไปมาเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร
“ไม่ต้อง ให้เอาแฟ้มของแมนนิ่งเข้ามา ฉันจะดูก่อนแล้วกัน”
ทอดด์รับคำสั่ง แล้วหลังจากนั้นแฟ้มของพวกแมนนิ่งก็มาอยู่ในมือของเอียนภายในเวลาไม่ถึงห้านาที ราวกับอีกฝ่ายรู้ดีว่าเขาจะต้องเรียกหาจึงได้จัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว...
๐๐๐๐
หลังจากที่อ่านเอกสารทุกอย่างเกี่ยวกับเคสหนี้ของพวกแมนนิ่งจบแล้ว เอียนซึ่งเห็นว่าทุกอย่างก็จัดการเสร็จเรียบร้อยและเหมาะสมไปแล้ว และไม่เห็นว่าจะต้องมีการเจรจาอะไรกันอีกจึงไม่รู้ว่าตัวเองควรจะตัดสินใจอย่างไร สุดท้ายจึงได้แต่ต่อสายหาพี่ชาย ซึ่งเป็นซีอีโอของแอดดิสันไฟแนนเชียลในทันที
กดต่อสายส่วนตัวไม่นาน อีกฝ่ายก็มารับสาย
“เอ็ด”
เอียนไม่รอให้เขาพูดอะไร ชิงเรียกชื่อเอเดรียนก่อนด้วยน้ำเสียงดัง เนื่องจากปลายสายนั้นมีเสียงดังลอดเข้ามา ทั้งเสียงเด็กร้องและเสียงดังตึงตัง ไม่ต้องบอกอะไรเขาก็คิดภาพออกเลยว่านี่ต้องเป็นฝีมือหลานชายจอมแสบของเขากับหลานสาวตัวน้อยอย่างแน่นอน
“ว่าไงเอียน”
เอเดรียนหันมาพูดกับน้องชายได้ในที่สุด เอียนจึงรีบบอกจุดประสงค์ที่ตัวเองรบกวนวันหยุดของอีกฝ่ายไปอย่างรวดเร็ว
“เคสแมนนิ่งนี่นายจะจัดการยังไง”
“เอาตามที่นายเห็นสมควร” เอเดรียนตอบอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน ก่อนจะหันไปตะโกนกับภรรยาของตนเองที่เดินหอบของข้างหนึ่ง มืออีกอย่างก็อุ้มลูกอย่างทุลักทุเล “ที่รัก! เดี๋ยวผมไปช่วยไม่ต้องทำเอง!”
เอียนเองได้แต่ยิ้มออกมากับประโยคสุดท้ายของเจ้าชายเย็นชาที่ตอนนี้กลายเป็นแฟมิลี่แมนไปเสียแล้ว และไม่คิดจะซักไซ้อะไรเกี่ยวกับเรื่องการเจรจาหนี้กับครอบครัวแมนนิ่งอีก เพราะคำตอบที่เอเดรียนบอกมาก่อนหน้านั้นชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรที่ตัดสินจบไปแล้ว
อาจจะเป็นฝ่ายนั้นที่อยากจะขอดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย เอียนจึงเปลี่ยนเรื่องถามไปอย่างอารมณ์ดีว่า
“นี่อยู่กับปาหนันแล้วก็หลานเหรอ”
“อือ...ว่าจะพาไปเที่ยว” เอเดรียนตอบพร้อมกับส่งเสียงพูดคุยกับแอรอน แล้วจึงหันมาพูดกับเขาต่อว่า “เดินทางบ่ายนี้แหละ กำลังไปขึ้นเครื่องแล้วเนี่ย”
“อ้อ โอเค” เอียนตอบก่อนจะบอกกับพี่ชายว่า “งั้นเดินทางดีๆ นะ”
“ขอบใจ” เอเดรียนตอบกลับ “งั้นฉันวางสายก่อนนะ ต้องไปดูเอมี่ก่อน”
เอียนยิ้มกับคำพูดของพี่ชาย แล้วจึงพูดก่อนจะวางสาย “โอเค”
๐๐๐๐