“คุณเกรซ กลับกันเถอะค่ะ”
มธุรสาเอ่ยขึ้นหลังจากที่เธอเจอตัวเกรซแล้วในที่สุด เธอพบว่าเกรซกำลังนั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มคนหนึ่งและกำลังจูบแลกลิ้นกันอย่างดุเดือด จนกระทั่งชายหนุ่มคนนั้นสังเกตเห็นเธอ จึงได้ยินยอมผละจากไป พวกเขากระซิบกระซาบกันอีกหลายต่อหลายครั้ง ฝ่ามืออีกฝ่ายนั้นล้วงลึกเข้าไปในเนื้อตัวของนางแบบสาวที่หัวเราะคิกคักอย่างชอบอกชอบใจจนมธุรสาได้แต่เบือนหน้าหนี กระทั่งเขาเดินจากไปเธอถึงเดินเข้าไปหาเกรซที่ตอนนี้เนื้อตัวและสีหน้าเต็มไปด้วยกลิ่นอายของตัณหาราคะ อีกฝ่ายเมามายมากพอสมควรจนเธอถึงกับถอนหายใจเพราะรู้ว่าจะต้องเหนื่อยแน่กว่าจะลากเกรซกลับไปได้
แถมตอนนี้ก็ลำบากกว่าเมื่อก่อนเพราะไม่มีคนขับรถมารอคอยเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
“กว่าแกจะมาถึง” เกรซปรือตาที่หนักอึ้งและฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ของหล่อนขึ้นมองผู้มาใหม่ ก่อนจะตำหนิอย่างดุดัน “ทำไมช้าอย่างนี้นังรสา!”
มธุรสาไม่ตอบโต้อะไร นอกจากขอโทษพร้อมกับก้มตัวลงไปประคองอีกฝ่ายให้ขึ้นมา
“ฉันขอโทษค่ะ เรากลับกันเถอะนะคะ”
เกรซเซถลาขึ้นตามแรงดึงของอีกฝ่าย ขณะที่มือสองข้างของหล่อนก็ฟาดไปตามเนื้อตัวของมธุรสาอย่างไม่ยั้งมือ แอลกอฮอล์ทำให้สติของหล่อนเหลือน้อยนิด ขณะที่พร่างพรูความในใจของตนเองออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“ฉันเกลียดแก! นังกาฝาก! เมื่อไรแกจะไปพ้นๆ จากชีวิตฉันสักที! แกมันนังตัวซวย! ตั้งแต่รับแกเข้ามา ครอบครัวของฉันมีแต่ตกต่ำ! เป็นเพราะแกคนเดียวเลย นังสารเลว! Bitch!”
มธุรสาแม้จะเจ็บแต่กลับไม่ได้ปัดป้อง ดวงหน้าของเธอราบเรียบราวกับไม่ได้ยินคำด่าเหล่านั้นที่ออกมาจากริมฝีปากของนางแบบสาว หรือไม่ก็...อาจจะเป็นเพราะเธอได้ยินมาเกือบสิบปีจนชาชินแล้วก็เป็นได้ จึงไม่สามารถแสดงอะไรออกมาได้อีกแล้ว
“เรากลับกันเถอะค่ะคุณเกรซ”
หญิงสาวบอกกับคนในอ้อมกอดอย่างเรียบร้อย แม้จะรู้สึกเจ็บไปทั้งใบหน้าเพราะเกรซฟาดมือตบแก้มเธอเต็มๆ แรงไปหนึ่งทีก็ตาม
“นังรสา นังเลว”
“ฉันขอโทษค่ะ...” มธุรสาได้แต่พึมพำเสียงเรียบ “เรากลับกันเถอะค่ะ...”
เธอพูดจบก็ประคองเกรซออกไปข้างนอกคลับได้ในที่สุด และรถแท็กซี่ที่เธอเรียกใช้บริการก็มีจอดรออยู่แล้ว...
๐๐๐
เอียนนั่งอยู่ด้านหลังรถคาดิลแลคของเขา โดยมีบอดี้การ์ดคนสนิทประจำตัวทำหน้าที่เป็นคนขับรถ เขามองไปข้างทางก็ได้เห็นใครบางคนที่เพิ่งเจอมาไม่เท่าไรกำลังยืนประคองหญิงสาวอีกคนอย่างยากลำบาก เพราะคนที่กำลังเมานั้นมือไม้อยู่ไม่สุขเปะป่ายตบตีเธออย่างไม่ยั้ง
เอียนนิ่วหน้ามองภาพนั้นอย่างไม่ชอบใจเท่าไรนัก ก่อนจะเอ่ยเรียกคนขับรถตัวเอง
“ชีราส”
“ครับคุณเอียน”
ชีราสอดีตเอฟบีไอที่ผันตัวเองมารับงานอิสระและเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดฝีมือดีของสำนักงานรักษาความปลอดภัยชั้นนำแห่งหนึ่งก็หันมาทางเจ้านายหนุ่มด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเตรียมรับคำสั่ง
เอียน แอดดิสันชี้นิ้วไปยังผู้หญิงที่ชนเขาพร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
“ลงไปช่วยเธอหน่อยไป ผู้หญิงคนเดียวอุ้มคนตัวโตกว่าอย่างนั้นไม่ไหวหรอก”
“ครับ”
ชีราสรับคำด้วยความสงสัย แต่ไม่แสดงออกมาแม้แต่น้อย หน้าที่ของเขาคือทำตามอีกฝ่ายสั่งเท่านั้นและไม่จำเป็นต้องถามอะไรให้มากความ
ไม่ถาม...แม้จะสงสัยเต็มอกว่าอะไรกันที่ทำให้จู่ๆ คนอย่าง ‘เจ้าชายจอมโหด’ จะใจดีมีเมตตาให้เขาไปช่วยผู้หญิงคนนั้นทั้งๆ ที่ไม่รู้จักก็ตาม!
---------
เกรซครางในลำคอเสียงต่ำขณะที่พยายามต่อสู้กับความง่วงงุนและอาการหนักศีรษะเพื่อลืมตาตื่นขึ้นมา ลำคอของหล่อนแห้งผากเสียจนรู้สึกเหมือนกลืนทรายเข้าไปทั้งกำมือ เพราะเมื่อกลืนน้ำลายจะรู้สึกทั้งเจ็บทั้งทรมานจนต้องเลิกทำอย่างนั้น
“แกตื่นแล้วเหรอเกรซ”
เสียงที่ดังขึ้นอยู่ข้างกายทำให้เกรซที่คิดจะนอนพักผ่อนต่อไปก็ฝืนลืมตาแล้วขยับกาย ขณะเรียกเจ้าของเสียงด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“มัม”
เกรซเรียกมารดาพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วหล่อนก็เห็นท่านยืนกอดอก จ้องมองหล่อนด้วยสายตาเยียบเย็นราวกับจะตำหนิ
“แกรู้ตัวไหมว่าเมื่อคืนอาละวาดไปแค่ไหน”
คำถามนั้นทำให้เกรซเบ้หน้า ไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับสายตาตำหนิติเตียนแม้แต่น้อย
“ไม่มีใครตายนี่”
“เกรซ”
มาริสาเรียกชื่อลูกสาวเป็นการปราม ถึงอย่างนั้นกลับไม่ได้ทำให้เกรซเกรงกลัวนางเสียเท่าไรนัก นางแบบสาวเหยียดริมฝีปากออก แล้วตอบโต้อย่างหงุดหงิดไม่ปิดบัง
“มัมจะให้หนูอึดอัดใจจนตายเหรอ ให้ระบายบ้างไม่ได้หรือยังไงคะ!”
“แต่แกก็ไม่ควรเมาเหมือนหมาแบบนี้นะ!”
มาริสายังคงตำหนิบุตรสาวที่เมื่อคืนนี้ทำตัวเหลวไหลมากจริงๆ
หลังจากที่มธุรสาไปรับตัวเกรซจากคลับ พอมาถึงบ้านนางแบบสาวก็อาละวาดร้องด่าทอมธุรสาเป็นการใหญ่ จิกทึ้งตบตีอีกฝ่ายดังไปทั้งบ้านเสียจนทุกคนตื่นมารับรู้พฤติกรรมของหล่อนกันหมด
“ช่างหนูเถอะค่ะ” เกรซเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ เพราะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หล่อนเมาแล้วอาละวาดเสียหน่อย นางแบบสาวขยับตัวนั่งหลังตรงอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยเปลี่ยนเรื่องไปว่า “ว่าแต่มัมมีธุระอะไรหรือเปล่า หนูจะรีบออกไปข้างนอก วันนี้มีงานด้วย”
โชคดีที่หล่อนตื่นนอนทัน อีกไม่ถึงสองชั่วโมงหล่อนก็ต้องไปงานเปิดตัวสินค้าใหม่ของเครื่องสำอางแบรนด์หนึ่ง หล่อนเป็นหนึ่งในนางแบบห้าคนที่เป็นพรีเซนต์เตอร์ของสินค้าชิ้นนี้ด้วย และก็เป็นหนึ่งในงานใหญ่หลังจากที่หล่อนเข้าวงการมาแล้วหลายปี และหล่อนก็ไม่อยากจะเบี้ยวงานนี้ให้เสียชื่อตัวเอง