บทที่1. หนูไม่ได้ขายตัว
ในเมืองกรุงที่มีแสงศิวิไล ยังคงมีหลายครอบครัวที่ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนหาเช้ากินค่ำ เช่นเดียวกับครอบครัวหนึ่งที่อยู่รอบนอกห่างออกจากตัวเมืองไปไม่ไกลนัก
อาศัยชายคาอยู่ด้วยกันสามคนแม่ลูก
ลูกสาวคนแรก ชื่อว่า มัดหมี่ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 แม้ว่าฐานะทางบ้านจะยากจน แต่เธอหัวสูงทำงานรับจ็อบเพื่อซื้อของแบรนด์เนมเพื่อโอ้อวด
ลูกสาวคนสุดท้อง ชื่อว่า หมี่เกี๊ยว เพิ่งเรียนจบมัธยมปลายเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่ชีวิตเธอกำลังเริ่มต้น หลังจากที่ผู้เป็นแม่บังคับให้เธอรับแขก
"มึงอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ ก็ควรจะช่วยทางบ้านทำมาหากินบ้าง! รู้ไหมว่ากูต้องเสียค่าเทอมเท่าไหร่ ถึงจะเป็นโรงเรียนรัฐบาลแต่ไม่ได้ฟรีไปซะทุกอย่าง" แม่ตะคอก
"แต่สิ่งที่แม่ให้หนูทำมันเกินกำลัง ให้หนูไปล้างจานหรือทำความสะอาดอะไรก็ได้"
"แหกตาดูรอบข้างมึงบ้างนะอีหมี่เกี๊ยว! มึงอยากเป็นแค่พนักงานต๊อกต๋อยรับค่าจ้างวันละไม่ถึงสามร้อยบาท แล้วเมื่อไหร่หนี้ที่มีมันจะหมดฮะ"
"หนูเข้าใจแม่นะจ๊ะ และหนูก็เลือกที่จะไม่เรียนต่อเพราะจะได้ช่วยใช้หนี้ให้ครอบครัวเราไง"
ฉันพูดสะอึกแต่ท่าทางของแม่ไม่ยอมอย่างง่ายๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม..แม่ถึงตามใจพี่มัดหมี่มากกว่า
ไม่ว่าพี่สาวของฉันจะทำอะไรผิด หรือทำอะไรไม่ดี แม่แทบจะไม่ต่อว่า แล้วตอนนี้ยังบังคับให้ฉัน ขายตัว!
"อีเพิ้งบอกว่าพรุ่งนี้จะมีแขกฝรั่ง มึงต้องรีบแต่งหน้าแต่งตัวให้สวย เพื่อให้เขาเอ็นดูรู้ไหม" แม่เปิดตู้เสื้อผ้าพยายามเลือกชุดที่วาบหวิวที่สุดให้
"หนูไม่อยากไปนะจ๊ะแม่ ฮึกกก"
"มึงบอกจะช่วยเหลือปลดหนี้ไง! นี่แหละทางเลือกดีที่สุด ถ้าแขกฝรั่งพอใจมึง เขาซื้อมึงไป เราก็จะได้หมดหนี้สินสักที"
"แต่ น..หนูไม่ได้อยากขายตัว!!"
"แต่กูจะขายมึงมีอะไรไหม!!"
เสียงตวาดเล็กน้อยก็ทำให้หมี่เกี๊ยวสะดุ้งตกใจ เนื่องจากเธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อยผิดแปลกไปจากแม่และพี่สาวของตน
หลายคนในหมู่บ้านเอ็นดูมักจะเรียกหมี่เกี๊ยวไปช่วยงาน แล้วให้เงินเธอเก็บหอมรอมริบบ้าง แต่สุดท้ายก็ถูกแม่นำไปใช้ เพื่อเข้าบ่อนพนันจนสุดท้ายเป็นหนี้ท่วมหัวเอาตัวแทบไม่รอด
"ให้หนูลองไปสมัครงานดีไหมจ๊ะแม่" ฉันนั่งคุกเข่าพยายามเกาะแขนขาอ้อนวอน
"มึงพูดไม่รู้เรื่องหรือไงอีหมี่เกี๊ยว กูสั่งให้มึงรับแขก"
"หนูไม่อยากทำอาชีพขายตัว ฮึกกก แม่อย่าขายหนูเลย"
"งั้นมึงก็เลือกเอา ถ้าอยากเป็นคนอกตัญญูมึงก็ไสหัวไปปล่อยให้กูกับพี่สาวของมึงถูกพวกนั้นอุ้มไปฆ่า! ถ้ามึงมีสมองสักนิด มึงจะรู้ว่าสิ่งที่มึงควรทำคือตอบแทนพระคุณกู"
"เรื่องนั้นหนูตอบแทนอยู่แล้ว แต่หนูไม่อยากขายตัว ฮือออ แม่จ๋า สงสารหนูเถอะนะ"
"มึงรีบไปล้างหน้าล้างตาเดี๋ยวพี่มึงกลับมาก็จะให้แต่งหน้าสักหน่อย หน้าซีดเป็นไก่ต้มแบบนี้ใครเขาจะเอาลง รีบไปอาบน้ำสิ!!"
สุดท้ายผู้เป็นลูกสาวก็ต้องจำใจเมื่อผู้เป็นแม่ตัดสิ้นเยื่อใย หมี่เกี๊ยวเป็นเด็กสาวที่น่ารักสดใส ผิวขาวผมยาวแถมอกยังอวบอึ๋มจนเป็นที่จับจ้องต่อสายตาผู้พบเห็น
แต่เมื่อเธออายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ กลายเป็นว่าเธอเป็นเพียงสินค้าของผู้เป็นแม่ ที่ส่งต่อให้กับเพื่อนซึ่งเปิดเลานจ์อยู่ใจกลางเมือง
เลานจ์อรชร
"ไม่ได้เจอกันเสียนานเป็นยังไงบ้าง" อรชรหญิงวัยกลางคนอายุเทียบเทียมเดียวกับแม่ของหมี่เกี๊ยว ซึ่งวันนี้เธอแวะเวียนมาหา "สวยเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย"
"เธอไม่ต้องมาชมฉันหรอกยะ ฮ่าๆ ที่มาวันนี้ก็ธุระที่เคยคุยกันเอาไว้มานาน"
"ลูกสาวของเธอจริงเหรอ..สวยมาก"
"ก็เธอโทรบอกว่ามีฝรั่งต่างชาติต้องการเด็กสาววัยละอ่อน พอดีอีเกี๊ยวพึ่งพ้นจากเยาวชนอาทิตย์ก่อน มันอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์"
"แบบนี้แหละฝรั่งมันชอบ ว่าแต่..จะขายเท่าไหร่"
"ยังไม่แน่ใจเธอลองตีราคาให้หน่อย อีหมี่เกี๊ยวมันอ่อนแอพูดจาน้อยขู่นิดขู่หน่อยก็กลัวแล้ว ที่สำคัญมันยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง"
ทั้งคู่จ้องมองไปยังเด็กสาว เธอนั่งก้มหน้าลงมือประสานกันไว้แน่น ไม่คิดว่าผู้เป็นแม่จะขายเธอให้กับเลานจ์ แต่ชีวิตคนเรา บางครั้งก็เลือกไม่ได้...