หลังจากที่พูดคุยตกลงราคาราวกับเธอเป็นเพียงสิ่งของไม่ใช่มนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจ ผู้จัดการของเล้าจน์กระชากลากตัวหมี่เกี๊ยวเข้าไปยังห้องแต่งตัว เขาจัดการทำผมพร้อมแต่งหน้าใส่ชุด แต่งแต้มผิวให้เธอกลายเป็นสาววัยสะพรั่ง
"หนูไม่ทำได้ไหมจ๊ะพี่" เสียงของหมี่เกี๊ยวที่สั่นเครือเนื่องจากหวั่นเกรง "พี่ช่วยหนูด้วย"
"ฉันก็แค่ขี้ข้าจะมีปัญญาอะไรช่วยเธอได้! ถ้าเธออยากอยู่บนโลกนี้ต่อไป ก็ต้องหัดเข้มแข็งแล้วทำตามหน้าที่ตัวเองซะ"
"แต่หนูไม่ได้อยากขายตัว"
"ตอนนี้แม่ของเธอทำการขายเธอให้กับเราเรียบร้อยแล้ว ถ้าเธอหนีไปเท่ากับเธอตาย"
"ฮือออ~หนูเพิ่งเรียนจบเอง"
ฉันร้องไห้ออกมาไม่อาย เครื่องสำอางที่เขาแต่งแต้มให้ตอนนี้เลอะเทอะเปรอะเปื้อน
จนกระทั่งถูกดุด่านิดหน่อย จำเป็นต้องฝืนทนใส่สายเดี่ยวสีชมพูรัดติ้ว เรียกว่าแทบหายใจไม่ออก
เวลา 21:00 น
สถานที่บริการแห่งนี้ดูทึบหนาอึดอัด แถมยังมีแสงไฟเลเซอร์พร้อมดนตรีเสียงดังด้านล่าง ซึ่ง VIP ต้องขึ้นไปชั้นด้านบน
ฉันเดินตามพี่สาวที่มีหน้าที่จัดแจงเด็กในร้าน กระทั่งถึงประตูเขียนเลขห้องว่า V1 พอตั้งสติได้ตอนนี้ยืนอยู่เพียงลำพัง จำใจต้องเปิดประตูเข้าไปในห้องซึ่งเปิดไฟเพียงสลัว โต๊ะสีขาวเก้าอี้สีแดง มีหน้าจอทีวีติดผนังพร้อมกับไมโครโฟนราวกับเป็นห้องคาราโอเกะธรรมดา
หัวใจดวงน้อยของฉันเต้นสั่นแทบบ้า ตอนนี้น้ำตาแทบจะไหลออกมา แต่พี่ที่แต่งหน้าทำผมบอกว่า..หากฉันร้องไห้แสดงความอ่อนแอยิ่งเป็นจุดอ่อนให้ผู้คนต่างรังแก
แกร๊ก
ทันทีเมื่อประตูเปิดเสียงดัง ปรากฏร่างฝรั่งชายวัยทำงานหน้าตาหล่อเหลา แต่แฝงเร้นไปด้วยความเลวร้าย
ฉันถอนหายใจลุกขึ้นยืนมือไม้สั่นจนคลุมจังหวะแทบไม่ได้
"สวัสดีฉันชื่อโทมัส" ชายฝรั่งพูดเสียงไทยคล่องแคล่วคงจะอาศัยอยู่ประเทศนี้เนิ่นนาน
"หนูชื่อหมี่เกี๊ยวค่ะ"
"ชื่อน่ารักเหมาะสมกับหน้าตา นั่งก่อนสิไม่ต้องเกร็งนะ ผู้หญิงที่ยังบริสุทธิ์อย่างเธอฉันพบเจอมามาก ถ้าทำให้พอใจ..เธออาจจะกลายเป็นอีหนูที่ไม่ต้องทำงานอะไร ฉันมีคอนโดพร้อมกับเงินเดือนให้ใช้จ่าย"
"หนูไม่คิดว่าอยากจะทำแบบนั้นหรอกค่ะ"
"งานสบายเธอไม่ชอบหรือไงฮะ?!"
"งานสบายใครๆ ก็ชอบ แต่ถ้ามันต้องแลกด้วยศักดิ์ศรี ฮึกกก คิดว่าก็ไม่สมควรได้รับ"
"เธอพูดถึงเรื่องศักดิ์ศรีในสถานที่แบบนี้เนี่ยนะ ฮ่าๆ หรือจะต้องให้ฉันไปคุยกับเจ้าของว่าเธอยึกยัก จะได้ไปเอาเงินคืนจากแม่ของเธอ"
ฟังจากคำพูดจากตัวเล็กรู้ได้ทันทีว่าเขานั้นสนิทสนมกับเจ้าของเล้าจน์ เป็นอย่างมาก
ถึงขนาดสนทนาถึงเรื่องส่วนตัวที่เธอถูกฝากขายส่งหลังจากเรียนจบมัธยม
เขารู้ประวัติเธอทุกอย่าง
ฮึก ฮึก อึก
ภายใต้แสงไฟพร้อมบรรยากาศอึดอัด โทมัสสั่งเหล้าดีกรีนอกมาดื่มจนกระทั่งมึนเมา ส่วนหมี่เกี๊ยวเองก็นั่งอยู่ด้านข้างให้เขาคอยลูบเล้า ท่าทางไม่สมยอมทำให้ฝรั่งหนุ่มรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก แต่เขาก็เข้าใจว่าเธอเองยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่อง
"แก้ผ้าของเธอออกสิ" เขากระซิบจนขนเล็กชูชัน "ขอตรวจสภาพสินค้าหน่อยว่าคุ้มค่าราคาที่จ่ายไปหรือเปล่า หืมมม เป็นเด็กดีแล้วเธอจะไม่เจ็บตัว"
"ขอโทษนะคะ ให้หนูชดใช้คุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม"
"เช่นอะไร..คนทำความสะอาดฉันก็มี เลขานุการก็ไม่ว่าง แถมคนขับรถดูท่าทางจะยังแข็งแรง สิ่งเดียวที่ฉันขาดแคลนก็คือเด็กผู้หญิงคอยบำเรอ"
"ฮึกกกก~ปล่อยหนูเถอะนะคะ"
คนตรงหน้าเริ่มหงุดหงิดเหมือนกับว่าสิ่งที่ฉันร้องขอไปสะกิดความรู้สึก เขาจับสองแขนฉันขึงโดยกระชากลากถูจนเรียกได้ว่าสู้แทบไม่ไหว สัดส่วนพร้อมอายุที่แตกต่างเกินไป ทำให้ตอนนี้ฉันอยู่ใต้ล่างของเขา
เพียะ!
อ๊าาาย!
เสียงฝ่ามือกระทบแก้มพร้อมกับความเจ็บปวดที่ถาโถม ฉันพยายามตะโกนร้องโวยวายเสียงดัง แต่ด้านนอกกลับนิ่งไม่มีอะไรเคลื่อนไหว เขาเริ่มใช้ริมฝีปากซุกไซ้พร้อมกับเขี้ยวแหลมที่กัดลงบนไหล่ ทำให้ต้องดิ้นพล่านด้วยความทรมานเจ็บปวดทั้งกายใจ
เขาใช้แรงเพื่อขืนใจ
ตุบ!
หลังจากเสียงทุบซ้อมทำให้ฉันสติดับวูบหายไป ลืมตาตื่นอีกครั้งเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเลยสักนิด พยายามที่จะตั้งสติ แล้วลุกขึ้นนั่งให้ไหว ภายในห้องสี่เหลี่ยมแต่ด้านนอกเหมือนจะเป็นห้องโถงที่มีเสียงพูดเล็ดลอดเข้ามาด้านใน
"แกซ้อมมันจะน่วมแล้วเอามาขายให้ฉันเนี่ยนะ? แถมราคาก็สูงมากอีกต่างหาก" คล้ายเสียงผู้ชายที่ไม่รู้จักพูดคุยกับฝรั่งที่เพิ่งทำร้ายร่างกายเธอ
"เห็นว่าบริษัทคุณกำลังขาดแคลนนักแสดงหญิง คนนี้แหละเหมาะสมที่สุด ยังเด็ก ยังขาวใสบริสุทธิ์ ส่วนบาดแผลรักษาแค่แป๊บเดียวก็คงหาย ได้ข่าวว่าแม่ถีบหัวส่งนำมาขายให้กับเล้าจน์ในราคาต่ำกว่าปกติมากมาย"
"ฉันเปิดบริษัทเอวีไม่ใช่สถานสงเคราะห์"
"งั้นคุณก็เช็คของก่อนไหมล่ะ..ถ้าไม่ถูกใจผมยินดีซื้อคืน อีกสามวันผมจะต้องเดินทางไปญี่ปุ่น ถ้าคุณไม่รับเด็กคนนี้เอาไว้ ผมก็จะไปขายต่อที่ซ่อง"