ภายในห้องสี่เหลี่ยม เด็กสาวพึ่งพ้นวัยเยาวชนถูกซ้อมจนอ่วม เธอนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงนอน ซึ่งถูกเคลื่อนย้ายมาอย่างรวดเร็ว
สักพักเมื่อดวงตาปรับแสง ตัวเล็กมองไปโดยรอบคล้ายเป็นห้องกระจก แถมห้องน้ำก็ยังใสปิ๊งมองเห็นทุกอย่าง
คำพูดที่ได้ยินเธอรู้ความหมายดีแน่ชัด
แต่ตอนนี้จะหนีไปทางไหนก็ไร้ปัญญา
แกร๊ก
เมื่อเสียงเปิดประตูดังพร้อมกับฝีเท้าหนักเดินเข้ามา สาวน้อยถอยหลังเธอแอบอยู่มุมเสาซึ่งถือแจกัน เมื่อไฟก็สว่างวาบ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ฝรั่งที่เธอนั้นต้องทำงานให้ แต่เขาเป็นผู้ชายที่สูงหล่อใบหน้าคมดวงตาเฉี่ยวแววตาดูเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่า
"คุณเป็นใครคะ" หมี่เกี๊ยวถามเสียงสั่น ในขณะที่มือก็จับแจกันไว้แน่น "แล้วหนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"
"แจกันใบแค่นั้นช่วยเธอไม่ได้หรอกสาวน้อย"
"หนูเพิ่งส่งคำถามให้คุณเองควรตอบกลับ ไม่ใช่มาแสดงอำนาจ ฮึกกก หนูสู้ตายนะคะ"
"แล้วทำไมไม่ตายไปซะล่ะ!? เพราะเธอยังอยากมีชีวิตอยู่ต่างหาก ถึงได้ยืนอยู่ตรงนี้"
"ผู้ชายคนนั้นไปไหน..."
"ไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวนั่นน่ะเหรอ เหอะ กลับไปแล้ว"
เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินขลับกับผิวขาว ลูกกระเดือกแหลมขยับเมื่อเขากลืนน้ำลาย
กระทั่งคว้าไวน์ที่อยู่ในตะกร้าหวาย เดินตรงมายังโซฟาสีแดงซึ่งอยู่ปลายเตียง
"รู้ใช่ไหมว่าแม่ของเธอขายเธอให้มันแล้ว" ผู้ชายที่ไม่แนะนำตัวพูดพลางกระดกแก้ว "แต่มันขายต่อให้ฉัน"
"คุณให้หนูทำงานอย่างอื่นได้ไหมคะ ฮึกกก หนูทำเป็นทุกอย่างเลยนะ กวาดบ้านถูบ้าน ล้างห้องน้ำ ทำอาหาร"
"ฉันมีทุกอย่างที่เธอว่ามา แล้วจะจ้างเธอเพิ่มให้เสียเวลาทำไม มายืนตรงนี้"
"น..หนูไม่ได้อยากขายตัว"
"เลือกเอาว่าจะฟังคำสั่งฉัน หรือจะให้โทรตามมันกลับมาลากเธอไปขายที่ซ่องญี่ปุ่น! ได้ข่าวว่าที่นั่น ลูกค้าเยอะใช่ย่อย เธอคงต้องนอนอ้าขารับแขกวันละเป็นร้อย จนกว่าเธอจะตายนั่นแหละ"
ผมพูดเรื่องจริงก่อนที่จะกระดกดื่มไวน์ในแก้วที่แกว่งไปมา เป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่ผมเจอเด็กผู้หญิงใจกล้า ถืออาวุธเป็นเจกันในมือเพื่อป้องกันไม่ให้โดนทำร้าย แต่แค่เพียงแจกันดอกไม้กระจอกนั่น..ถึงจะโดนฟาดเต็มกำลังก็คงไม่ตาย
แต่ที่น่าสนใจคือแววตาแข็งกร้าวต่างหาก
"ตัดสินใจได้หรือยัง ว่าเธอจะทำตามคำสั่งของฉันแต่โดยดี หรือจะไปอยู่ซ่องกับไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าว บอกเลยว่าเธออาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับมาเดินบนดินที่เคยเหยียบนี้อีกเลยก็ว่าได้"
"แล้วคุณจะให้หนูทำอะไรคะ ถ้าให้หนูขายตัว..หนูทำไม่ได้หรอกค่ะ"
"เธออยากให้ฉันช่วยเหลือด้วยทางลัดไหม? กินยาแค่สองเม็ด จากนั้นเธอก็จะสนุกกับสิ่งที่ผู้ชายรุมสกำ ทุกคนย่อมมีครั้งแรกกันทั้งนั้น"
"คุณจะมอมยาหนูให้คนอื่นเอาหรือคะ!!"
ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายตรงหน้าเขาไม่เพียงแต่เจ้าเล่ห์แถมยังร้ายกาจ
ฉันมองไปรอบด้านไม่เห็นหนทางที่จะหนี จนกระทั่งวางแจกันที่อยู่ในมือ แล้วเดินเข้าไปใกล้ยืนตรงทางด้านหน้าติดทีวี
"หนูขอร้องล่ะค่ะ ฮึกกก" ฉันยกมือไหว้ "คุณอย่าให้หนูขายตัวเลยนะคะ"
"ทำเหมือนเธอมีสิทธิ์เลือกขนาดนั้น?"
"หนูแค่หวังว่าคุณจะเมตตาบ้าง"
"ฉันเป็นเจ้าของบริษัทเอวีชื่อดัง ที่ทำงานกับพื้นภาคเอเชียมาตั้งแต่ฉันยังวัยหนุ่ม ฉันเป็นนักธุรกิจนะ ซื้อมาก็ต้องหวังได้กำไร"
"คุณคงไม่ใจดำกับผู้หญิงตัวเล็กๆ ใช่ไหม คุณขาอย่าบังคับหนูเลย ฮือออ~"
ฉันยังคงยกมือไหว้อ้อนวอนก่อนจะคุกเข่าเบื้องหน้า สายตาของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็งที่อุณหภูมิติดลบ ก่อนที่จะวางแก้วเหล้าจากนั้นปลดกระดุมตรงข้อแขนให้เห็นเส้นเลือดขอดกำยำน่าหวั่นเกรง
"ช่วยตัวเองให้ฉันดูก่อนแล้วจะตัดสินใจอีกที" ผมเอ่ยถามพร้อมกับลูกขึ้นยืนหยัดเต็มความสูง
"ชะ ช่วยตัวเองหมายถึงอะไรหรือคะ"
"จะบอกนะว่าเธอไม่เคย..ไร้เดียงสาเสียจริง"
"หนูไม่ได้เสแสร้งแต่หนูไม่ทราบจริงๆ"
"งั้นเอาเป็นว่าฉันจะบิ้วอารมณ์เธอสักหน่อยเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศก็แล้วกัน ตั้งใจดูซะแล้วทำตาม"
สักพักหน้าจอTV ใหญ่ที่ติดผนัง ก็ฉายฉากร่วมรักกันระหว่างชายหญิง เป็นครั้งแรกที่ทำให้หมี่เกี๊ยวตะลึง เธอไม่เคยเห็นสิ่งลามกพวกนี้มาก่อน ใบหน้าสวยเริ่มชา ร่างกายเริ่มรู้สึกร้อน เผลอเพียงแค่ไม่กี่วินาที กลับได้สัมผัสถึงลมหายใจที่พ่นอยู่ริมซอกคอ
"ฉันเสนอทางเลือกให้เธออีกหนึ่งหนทางก็แล้วกัน มาเป็นนักแสดงเอวีให้บริษัทฉัน เธอจะไม่ได้เป็นโสเภณีเกรดต่ำ แต่จะเป็นดาราต่างหาก เพียงแค่บทบาทที่ต้องแสดงมันจะเสียวมากก็เท่านั้นเอง"