8. โฉมงาม

1606 คำ
อวี้หรานมองสตรีที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นฮูหยินของตนนิ่ง นางเปลี่ยนไปมากจนเขาแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง กิริยามารยาทก็ต่างออกไป หน้าตาผิวพรรณก็ดูโดดเด่นงดงามสะกดใจ ทว่าแววตาที่มองเขามันกลับเย็นชาไร้ความผูกพันธ์อย่างไม่น่าเชื่อ หรือนางเสียใจมากจนทำให้นิสัยใจคอเปลี่ยนไปกันนะ “แค่นี้หรือ เช่นนั้นก็กลับไปได้แล้ว” นางขยับกายนั่งตรง ก่อนจะลุกขึ้นและไม่ลืมเอ่ยประโยคท้ายตามมาอีก “อ้อ! กิริยาไร้มารยาทที่ท่านกล่าวถึง ข้าทำกับท่านคนเดียวไม่ต้องห่วงหรอก กับผู้อื่นข้าไม่เป็นแน่นอน” สิ้นคำนางก็ยกยิ้มที่มุมปาก มองหยันคนตัวโตที่ได้แต่ชะงักงันกับคำพูดที่นางเอ่ย นี่คือหานซูอันที่เคยตามติดเขาทุกที่จริงหรือ เหตุใดนางจึงมีท่าทางจงเกลียดจงชังเขาถึงเพียงนี้ แต่จะว่าไปมันก็ไม่ต่างจากเขาเมื่อก่อนเลย แต่เป็นเช่นนี้ก็ดีมิใช่หรือ นางจะได้ไม่มายุ่งกับเขา พอคิดได้เช่นนั้นชายหนุ่มก็เดินออกไปจากเรือนหลัก สองวันต่อมา เถาอวี้หรานก็นำรถม้าของจวนมารอรับฮูหยินของตนตามหน้าที่ เมื่อวานเขาส่งชุดสำหรับใส่เข้าวังมาให้นางแล้ว ทว่าหานซูอันกลับใส่อีกชุด ซึ่งมีสีฟ้าอ่อนจนเกือบจะเป็นสีขาว ซึ่งตัวซับด้านในก็เป็นเนื้อผ้าในแบบเดียวกัน ตัวผ้าที่ผูกรอบ อกเป็นสีฟ้าเข้มขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้มันตัดกันดูน่ามอง และยังมีผ้าผืนยาวสำหรับคล้องแขนห้อยลงมาทั้งสองข้างอีกหนึ่งผืน ซึ่งเป็นสีเดียวกันกับลวดลายสีฟ้าที่ผูกรอบอยู่บนอกอวบ ผมก็รวบขึ้นทั้งหมด ประดับด้วยปิ่นทองคละรูปทรงดอกท้อ ตัดกับสีผมดับขลับของนางแล้วยิ่งดูเหมือนนางสวรรค์ มันช่างรับกับใบหน้าขาวผ่องผิวเนียนใสของนางดียิ่งนัก หานซูอันเผยยิ้มชอบใจ เมื่อสาวใช้ตนอ้าปากค้าง เพราะตกตะลึงในความงามของผู้เป็นนาย “คุณหนู ท่านงามขึ้นทุกวันเลยนะเจ้าคะ” บอกตามจริง ดวงตานั้นก็เปล่งประกายจนน่าเอ็นดู “เอาไว้ว่าง ๆ ข้าจะสอนแต่งหน้าแล้วกันนะ” เอ่ยแล้วก็ยกคิ้วใส่ ก่อนจะหันมามองตนเองในกระจกทองเหลืองอีกรอบ ‘สวยจริง ๆ ตอนที่เราอายุเท่านี้ หากได้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติก็ดีสินะซูอัน’ นึกถึงตนเองในยุคปัจจุบันขึ้นมา สมัยนั้นนางถูกส่งออกไปทำงานให้องค์กรรัฐตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ แสดงเป็นลูกสาวของสายที่อยู่ในเครือเพื่อความสมจริง กระทั่งมีอายุสิบสองปี นางก็เริ่มเอาชีวิตพวกคนชั่วแล้ว ในตอนนั้นซูอันไม่ได้มีทางเลือกมากนัก จำใจต้องทำเพื่อให้มีชีวิตรอด เพราะร่างกายถูกฝังชิบติดตามด้วย ได้รับคำสั่งเธอก็ต้องทำ โดยไม่รู้เลยว่ามันถูกผิดหรือเปล่า จึงไม่แปลกที่คนจากยุคปัจจุบันจะมีนิสัยเย็นชาและดูเหมือนไร้ใจ ทว่านางกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงตนเอง เพื่อให้มีชีวิตปกติเหมือนคนอื่น ๆ ภายหน้าหากพบเจอคนที่ดี หานซูอันก็อยากเป็นภรรยาที่ดี เลี้ยงลูกรอสามีกลับเรือนเหมือนคนอื่น ๆ “ไปกันเถอะ ประเดี๋ยวจะโดนดุ” หันกลับมาหาสาวใช้ “กลัวด้วยหรือเจ้าคะ” ว่านชิงอดเย้าไม่ได้ เพราะทุกวันนี้ผู้เป็นนายไม่เห็นจะกลัวใครเลย ห้าวันก่อนมีหัวขโมยย่องเข้าจวนมา หานซูอันยังจับทุ่มทีเดียวหลังหักเลย ไม่รู้ทำได้อย่างไร คนฟังหัวเราะชอบใจทันที “เจ้านี่นะ นับวันยิ่งรู้ทันข้า” เอ่ยจบก็ใช้นิ้วดีดเข้าที่หน้าผาก ก่อนจะเดินนำออกไปจากห้องพัก เมื่อมาถึงหน้าจวน ก็เห็นร่างสูงของสามียืนหันหลังรออยู่ พอเริ่มเข้าใกล้เขาก็หันมา คงเป็นความสามารถของผู้ฝึกวิชายุทธกระมัง เพราะหานซูอันก็ฟังฝีเท้าคนออก วันนี้อวี้หรานไม่ได้ตื่นตะลึงเช่นสองวันก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความรู้สึกเหล่านั้น เพียงแต่เขาพยายามควบคุมไม่ให้ตนเองหลุดเท่านั้น เพราะตั้งแต่พบนางวันที่มาแจ้งข่าว ในหัวและความฝันก็มีแต่ใบหน้าหวานนี้ลอยอยู่ จนเขาคิดว่าตนเองนั้นบ้าไปแล้วเป็นแน่ ที่นึกถึงแต่ฮูหยินของตน ทว่ามีใครบ้างไม่เป็นเหมือนเขา หานซูอันนางงามขึ้นมาก มองแค่เสี้ยวหน้ายังรู้ว่าแก้มนี้เนียนใสเพียงใด ริมฝีปากสีแดงเรื่อยิ่งน่าสัมผัส นางช่างดึงดูดเพศตรงข้ามได้ดียิ่งนัก “ขึ้นรถม้าสิ ใกล้จะถึงเวลาแล้วนะ” เอ่ยบอกเสียงเรียบ พยายามไม่หันมามองนางตรง ๆ ซูอันยกยิ้มเล็กน้อยกับท่าทางของสามี นางเดินไปที่รถม้าเพราะไม่อยากเสียเวลาอีก อวี้หรานเองก็รีบเดินไปเพื่อยืนรอพยุงนาง “มีชาวเมืองเดินไปมาไม่เห็นหรือ ข้าไม่อยากได้ยินคนพูดว่าไม่ดูแลเจ้า” บอกเสียงเรียบหน้าก็ไม่มอง มีแค่มือที่ยื่นออกมาเท่านั้น คนตัวเล็กเหลือบมองพร้อมกับคว่ำปากใส ทว่านางก็ยังวางมือทับเพื่อให้เขาพยุงขึ้นรถม้าตามความต้องการของอีกฝ่าย เพื่อสัมผัสนุ่มแตะลง เถาอวี้หรานก็เผลอมองสตรีที่กำลังก้าวขึ้นไป เป็นจังหวะที่นางหันมาพอดีทั้งคู่จึงได้สบตากันเป็นครั้งแรก “มองอะไร ไม่เคยเห็นคนงามหรือ” เป็นประโยคที่ดึงสติใต้เท้าหนุ่มให้ออกจากภวังค์ในทันที ช่างไร้ความอ่อนหวานเหลือเกิน การกระทำนางกับใบหน้าทำไมถึงได้สวนทางกันนักนะ หรือจะเป็นอย่างที่นางกล่าวเมื่อสองวันก่อน “กิริยาไร้มารยาทที่ท่านกล่าวถึง ข้าทำกับท่านคนเดียวไม่ต้องห่วงหรอก กับผู้อื่นข้าไม่เป็นแน่นอน” อวี้หรานยังคงครุ่นคิด จนคนสนิทต้องมาเตือนว่าฮูหยินขึ้นรถม้าไปแล้ว เขาจึงรีบตามขึ้นไปและนั่งฝั่งตรงข้ามกับนาง เปลือกตาสวยปิดลงราวกับไม่ต้องการมองผู้ที่นั่งร่วมรถ ทำเอาใต้เท้าหนุ่มถึงกับทำตัวไม่ถูก ได้แต่พ่นลมหายใจฟึดฟัดให้ได้ยิน จนกระทั่งรถม้ามาถึงหน้าประตูวัง ทั้งคู่ก็ยังไม่ได้เสวนากัน ราวกับว่านั่งมาคนเดียวเสียอย่างนั้น “ทำตัวให้ดี ไม่แน่ข้าอาจจะมอบจดหมายหย่าให้เจ้าเร็วขึ้น ที่นี่มีขุนนางมากมาย ต่อให้ไม่นึกถึงหน้าสกุลเถา ก็นึกถึงหน้าบิดาเจ้าเอาไว้ก็แล้วกัน” เมื่อมาถึงจุดหมาย อวี้หรานก็เอ่ยขึ้น พอรถหยุดลง ร่างสูงก็ขยับลุกออกมาก่อน ยามนี้บรรดาขุนนางน้อยใหญ่ต่างก็รอเข้าไปพร้อมกัน เขาจึงจำต้องแสดงละคร ให้ผู้คนเชื่อว่าเรื่องหย่าไม่ใช่ความจริง อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่ยามนี้ ทว่าภายภาคหน้ามันก็ไม่แน่ ซูอันยู่หน้าใส่แผ่นหลังกว้าง ก่อนจะลุกตามออกไป และนางก็หยุดอยู่บนรถม้าครู่หนึ่ง เพื่อชื่นชมกำแพงสูงที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า โดยไม่ได้รู้เลยว่ามีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่ตน รวมถึงสามีที่ลงไปยืนรออยู่เบื้องล่างในยามนี้ “นะ…นั่นหานซูอัน บุตรีหมอหลวงหานหรือ” เสนาขวาวัยสี่สิบห้าเอ่ยขึ้น แม้อายุจะถึงวัยกลางคนแล้ว ทว่าขุนนางผู้นี้ก็ยังมักมากในกามอยู่ สองขาจึงก้าวเดินเข้าไปหาอย่างลืมตัว หากไม่มีคนของจวิ้นอ๋องเรียกไว้ คงไปยืนแหงนหน้ามองใกล้ ๆ “ลงมาได้แล้ว” เสียงเรียกของคนด้านล่างทำให้ซูอันได้สติ นางจึงหันมาหาสามี ก่อนจะเดินมาที่บันได ค่อย ๆ ก้าวลงมา ทว่ายืนอยู่ด้านล่างแล้ว เถาอวี้หรานกลับไม่ยอมปล่อยมือ “เสนาขวาเป็นคนชีกอ อยู่ให้ห่างเขา” เอ่ยเตือนโดยไม่มองหน้า สายตาเขายังคงจับจ้องไปที่บุรุษร่างสูงท่วงท่าองอาจ แม้อายุจะเลยสี่สิบแล้ว ทว่าคนผู้นี้ยังดูดีอยู่ แต่ไม่น่านับถือเลยสักนิด ในราชสำนักหากไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน ก็ไม่มีใครอยากคบค้ากับคนผู้นี้ เพราะชวนกันเอ่ยแต่เรื่องอย่างว่า “คนไหนล่ะ เห็นแต่งตัวเหมือนกันหมด” เสียงนางฟังดูขัดใจไม่น้อย เพราะสายตาที่สามีมองไปนั้นมีขุนนางยืนอยู่ถึงหกคนหนึ่งในนั้นก็คือจวิ้นอ๋อง ที่แต่งกายสง่างามมาก “คนที่ยืนติดจวิ้นอ๋องที่สุด” เขาโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหูนาง กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยเข้าจมูกทันที และคนที่ถูกลมหายใจพ่นใส่พวงแก้มก็ตระหนกรีบหันมาเช่นกัน ทำให้ใบหน้าทั้งคู่อยู่ห่างกันแค่ปลายจมูก เถาอวี้หรานประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ทว่ามือนั้นก็ยังกอดเอวคอดเอาไว้ไม่ปล่อย #เหอะๆ แกอย่ามาหลงเสน่ห์ลูกสาวฉันนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม