ซูอันผงะจนต้องรีบก้าวถอยหลัง เถาอวี้หรานจึงรีบรั้งเอวคอดเอาไว้ก่อนที่แผ่นหลังนางจะชนเข้ากับขอบรถม้า ซึ่งการกระทำของทั้งคู่อยู่ในสายตาของบรรดาขุนนางมากมาย จนบางคนต้องส่งเสียงเย้ามาให้ได้ยินเป็นระยะ
“เจ็บหรือเปล่า” อวี้หรานไม่ได้ใส่ใจเสียงที่ดังมา เขากำลังมองสำรวจร่างเล็กตรงหน้ามากกว่า เกรงว่านางจะชนเข้ากับรถม้าจริง ๆ เพราะมือเขาเองยังเจ็บเลย
“ไม่ เมื่อไหร่จะปล่อยข้าสักที หรือว่าท่านเริ่มหลงเสน่ห์ความงามของหานซูอันแล้ว ถึงพยายามเข้าใกล้เช่นนี้” เงยหน้าเอ่ยคำหยันใส่อีกฝ่าย ซึ่งการกระทำเขามันกำลังตรงกันข้ามกับคำพูดเมื่อก่อน ในเมื่อรังเกียจนางก็ไม่ควรฝืนเข้าใกล้
อวี้หรานจึงรีบขยับกายถอยห่าง พร้อมกับคลายมือออกมาวางแนบลำตัวของตน มองใบหน้างามที่หันหนีไปทางอื่นแล้วในยามนี้ เขาจึงเอ่ยถึงเรื่องที่เตือนเมื่อครู่แทน
“เห็นหรือยัง ผู้ที่ยืนอยู่ข้างจวิ้นอ๋องนั่นแหละ” อวี้หรานเข้าใจว่าฮูหยินตนกำลังมองว่าผู้ที่ตนเอ่ยถึงคือใคร จึงรีบบอกให้นางรู้ เมื่อเข้าไปในงานจะได้เลี่ยงไม่อยู่ใกล้
“อืม รู้แล้ว” ตอบรับอย่างไม่ยี่หระ นางไม่ค่อยได้สนใจคำพูดสามีนัก เพราะมัวแต่มองจวิ้นอ๋อง ซึ่งวันนี้เขาอยู่ในชุดสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ ถ้าเป็นผู้อื่นใส่อาจจะไม่เหมาะ ทว่าพออยู่บนตัวจวิ้นอ๋องมันกลับดูดีจนอดมองไม่ได้
ใช่ว่านางเห็นหนุ่มรูปงามแล้วหลงใหล เพียงแต่แปลกใจที่หานซูอันคนก่อนกลับไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับท่านอ๋องผู้นี้เลย ทั้งที่เขาก็ออกจะดูดี แต่ก็อย่างว่า ความชอบของคนมันไม่เหมือนกัน ตัวนางเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะชอบผู้ชายแบบไหน ทว่าคงไม่ใช่คนมักมากเหมือนสามีเจ้าของร่างแน่ เพราะความทรงจำในหัว เถาอวี้หรานไม่ได้ไยดีหานซูอันเลย
ทว่าวันนี้เขามีท่าทางแปลก ๆ จนไม่น่าไว้ใจ
“เราเข้าไปกันเถอะ” เมื่อเห็นบรรดาขุนนางน้อยใหญ่เริ่มทะยอยกันเข้าวัง อวี้หรานก็หันมาเอ่ยกับคนข้างกาย ซึ่งด้านหน้ามีจวิ้นอ๋องยืนรออยู่ ราวกับต้องการจะกล่าวอันใดด้วย
“ถวายพระพรท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ / เพคะ” สามีภรรยาเอ่ยขึ้นพร้อมกัน หานซูอันย่อตัววางมือประสานกันอย่างนอบน้อม ผิดวิสัยของนางจนเหยียนซีหนานแทบไม่เชื่อสายตาตน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่เขาเห็นอยู่ไกล ๆ ก็ว่านางงาม เพราะผิวพรรณดูผุดผ่องมาก ทว่าพอมายืนอยู่ตรงหน้าเขาถึงรู้ว่านางงามมากจริง ๆ งามจนหาที่ติไม่ได้
“ข้าแค่อยากจะเตือน ในวังกับนอกวังต่างกันมาก ข้างในมีกฎเกณฑ์ที่สตรีควรพึงมี สิ่งที่เคยทำในจวนอย่าได้นำมาใช้ที่นี่เด็ดขาด เข้าใจหรือไม่” เอ่ยเตือนเหมือนผู้อาวุโสกล่าวกับเด็ก ซึ่งอันที่จริง จวิ้นอ๋องอายุห่างจากหานซูอันเพียงแค่แปดปีเท่านั้น แม้เขาจะเป็นพระปิตุลาขององค์ชายสี่ก็เถอะ
ทว่าเกิดห่างกันแค่ห้าปีเท่านั้น เพราะฮ่องเต้องค์ก่อนนั้นมีบุตรยาก และยังมีเอาตอนที่แก่มากแล้วด้วย ทำให้โอรสองค์สุดท้ายซึ่งก็คือจวิ้นอ๋อง มีอายุที่ห่างจากพระเชษฐาที่เป็นฮ่องเต้ในยามนี้มาก แทบจะกลายเป็นบุตรของพระเชษฐาเลยด้วยซ้ำ
‘ชิ! บ่นเป็นคนแก่ไปได้ อายุก็พึ่งจะยี่สิบหกเอง’ ก่นว่าเขาในใจ ทว่ามันดันออกมาทางสายตา จึงทำให้จวิ้นอ๋องมองดุนางทันที ซูอันเห็นเช่นนั้นก็รีบหันหนี
เมื่อกำชับเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เดินเข้าไปในวัง แต่ละคนมีผู้ติดตามได้เพียงหนึ่ง ว่านชิงจึงได้อานิสงค์ไปด้วย และวันนี้นางก็แต่งกายได้งดงามไม่ต่างจากผู้เป็นนาย น่ารักสมวัยยิ่งนัก
“คุณหนูที่นี่สวยมากเลยเจ้าค่ะ” สาวใช้ตัวน้อยเดินกุมมือกับผู้เป็นนายอย่างใกล้ชิด ชี้ซ้ายชี้ขวาอย่างลืมตัว
“สำรวมหน่อย ที่นี่วังหลวง อีกอย่างเรียกให้ถูก นางคือฮูหยินน้อยแห่งจวนสกุลเถา” อวี้หรานเอ่ยตำหนิทันที เมื่อได้ยินสาวใช้ขานนามหานซูอันเช่นนี้
ซูอันขมวดคิ้วมองเขาทันที เถาอวี้หรานดูท่าจะติดการแสดงมากเกินไปแล้ว ยามนี้ก็มีแต่กลุ่มของเขากับนางรวมเป็นสี่คน ส่วนจวิ้นอ๋องเดินเสวนาอยู่กับขุนนางด้านหน้า ไม่ได้สนใจพวกตนเลยสักนิด ที่สำคัญด้านหลังก็ไม่มีใคร ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำให้ใครดูเลย อย่างไรว่านชิงก็รู้หน้าที่ดีอยู่แล้ว
“คนของข้ารู้งาน ท่านไม่ต้องมายุ่ง ทำหน้าที่สามีที่ดีของท่านไปเถอะ เพราะข้าก็มีหน้าที่รักษาหน้าบิดาตนไว้เช่นกัน ชิ!” คว่ำปากพร้อมกับกรอกตาใส่เขาด้วย
ใต้เท้าหนุ่มถึงกับขบกรามแน่น ในหัวคิดอยากบีบคอนางแล้วยกทุ่มลงตรงนี้เสียให้สาใจ แต่ทำไม่ได้นี่สิ เขาจึงต้องเดินนำไปก่อนเพื่อสงบอารมณ์ของตนที่กำลังก่อตัว
จวิ้นอ๋องหันกลับมามองสตรีสองนางที่เดินเคียงคู่กันมาเล็กน้อย เมื่อเห็นเถาอวี้หรานผ่านหน้าเขาไปโดยไม่มีฮูหยิน
นัยน์ตาคมกริบสบเข้ากับดวงตาคู่สวยอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้หานซูอันรีบหันหนีในทันที เพราะรู้สึกประหม่าอย่างไรไม่รู้
ทว่าคนตัวโตกลับก้าวเดินช้าลง จนยามนี้ทั้งคู่อยู่เสมอกัน
“เจ้าไม่ควรทำให้เถาอวี้หรานหงุดหงิด” เอ่ยเตือนในฐานะคนที่โตกว่า จวิ้นอ๋องไม่อยากให้นางสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น
ทั้งที่ใจหนึ่งเขาก็อยากให้นางเผชิญชะตากรรมที่้ได้เลือกเอง เพราะหานซูอันเป็นสาเหตุให้บิดาต้องตาย หากนางไม่ปลิดชีพตนในคืนนั้น ผู้เป็นพ่อก็ไม่ต้องรับฟังข่าวร้ายจนสิ้นชีพ
ทว่านางกลับฟื้นขึ้นมาในตอนหลังนี่สิ มันไม่น่าเป็นไปได้เลย คนตายแล้วฟื้น มิหนำซ้ำนิสัยยังเปลี่ยนไปมากอีก
“ใครใช้ให้เขาดีแต่ว่าผู้อื่น โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ชิ! โกรธให้ลมออกหูตายไปเลยยิ่งดี” ก่นว่าแล้วก็ยู่หน้าใส่สามีที่ยืนอยู่ไกลๆ
ท่าทางลืมตัวของนางทำให้จวิ้นอ๋องอดขำมิได้ หานซูอันในสายตาเขายามนี้ นางเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ มันต่างจากเมื่อก่อนที่เอาแต่ร้องกรี๊ดลั่นเรือน และทุบตีสาวใช้ผู้นี้จนเคยมือ ทว่ามาบัดนี้ทั้งคู่กลับหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างกับพี่น้อง ไปที่ใดก็เดินจูงมือไม่ห่าง เสื้อผ้าอาภรณ์ก็ยังดูคล้ายกัน
เหยียนซีหนานไม่ได้เอ่ยอันใดอีก เพราะอีกไม่กี่อึดใจก็จะพ้นทางเข้าวังแล้ว ซึ่งด้านหน้ามีเถาอวี้หรานยืนรออยู่ สีหน้าท่าทางเขาดูสงบลงมาก คาดว่าคงใจเย็นลงแล้วกระมัง
และยังมีเหยียนมู่ฟานยืนอยู่ด้วย สายตาของพระนัดดาไม่ได้มองมาที่เขาแม้แต่น้อย มันหยุดอยู่ที่สตรีข้างกายเขาต่างหาก มันก็ไม่แปลกหรอก ใบหน้าที่งามโดดเด่นนี้ดึงดูดเพศตรงข้ามได้ดียิ่งนัก เขาชักอยากจะรู้แล้วสิว่า
เถาอวี้หรานนึกเสียดายฮูหยินตนขึ้นมาหรือเปล่า ยังยืนยันที่จะหย่าขาดจากนางอย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้หรือไม่
ทว่าดูจากแววตาแล้ว คาดว่าใต้เท้าหนุ่มคงหวั่นไหวแล้วกระมัง แล้วหานซูอันล่ะ นางยังรักมั่นต่อสามีหรือเปล่า
เหยียนซีหนาน เหตใดในหัวเจ้าต้องวุ่นวายเพราะสตรีนางนี้ มันคือคำถามที่ก้องอยู่ในใจของจวิ้นอ๋อง ผู้ครองตัวเป็นโสดไม่ยอมรับชายาหรืออนุ เขาไม่อยากเป็นเหมือนบิดาที่มักมาก แต่จะว่าไปคนในราชวงศ์นี้ก็เหมือนกันทั้งนั้น แม้แต่เหยียนมู่ฟาน
“ถวายพระพรองค์ชายสี่เพคะ” ย่อตัวเอ่ยเสียงหวานกับผู้ที่ยืนอยู่ข้างสามี นางเผยยิ้มบางจนคนมองได้แต่ยืนอึ้ง นึกไม่ถึงว่าสตรีที่นอนหน้าซีดในวันนั้นจะงามได้ถึงเพียงนี้
เห็นแล้วใจเขามันหวั่นไหวเบาหวิวไปเลย นึกว่าตนยืนอยู่ตรงหน้าเทพธิดาเสียอีก กระทั่งสหายขยับเข้ามายืนบังนั่นแหละ
เถาอวี้หรานมององค์ชายสี่ด้วยสายตาคมกริบ ไม่พูดแต่ใช้การกระทำบังคับให้อีกฝ่ายต้องรีบหันเหความสนใจไปทางอื่น
“สะ…เสด็จอา…ขะ…เข้าข้างในกันเถอะพ่ะย่ะค่ะ” เอ่ยเสียงติดขัด ก่อนจะยิ้มแห้งส่งให้สหายที่ยังมองตาเขียว จนเขาต้องรีบสาวเท้านำผู้เป็นอาไปก่อน
“ท่านไม่มีสิทธิ์ มาหวงข้า” ต่อว่าเขาจากด้านหลัง
“ข้ายังขึ้นชื่อว่าเป็นสามีเจ้า ฉะนั้นคนอื่นก็ไม่ควรมองจนเกินไป ข้าไม่ได้หวง แต่มันดูไม่งาม” เอ่ยโดยไม่หันมามอง เพราะเกรงว่าจะเห็นสายตาตำหนิที่นางส่งมาให้อีก
#เออ ลืมไปไหมใต้เท้า แกไม่ได้รักเขาเด้อ อย่ามาหวง