14. ลอบสังหาร

1574 คำ
ด้านจวนสกุลหาน ซูอันกลับมาถึงก็ตรงเข้าไปอาบน้ำทันที เพราะรู้สึกเหนียวตัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังดื่มสุราไปหลายจอกด้วย ดีที่คอแข็ง จึงไม่มีอาการเมาเหมือนคนอื่น “คุณหนู อาหารตั้งโต๊ะแล้วนะเจ้าคะ” ว่านชิงเดินเข้ามาบอก เมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายเข้ามานานแล้ว “อืม ขอบใจนะ เจ้าก็ไปพักเถิดข้าอยู่คนเดียวได้” โบกมือไล่เหมือนเคย ยามที่นางจะขึ้นจากน้ำหานซูอันมักจะทำเช่นนี้ ไม่ให้ใครอยู่รับใช้เช็ดตัวให้เพราะมันน่าอายเกินไป ตนไม่ใช่คุณหนูขนาดนั้นเสียหน่อย มีมือมีเท้าทำไมจะทำเองไม่ได้ ยามจื่อ [23:00-00:59] เสียงฝีเท้าคนจำนวนหนึ่งกำลังเคลื่อนเข้ามาที่เรือนหลังใหญ่ของจวนสกุลหาน มันตรงไปที่ห้องซึ่งมีแสงเทียนส่องสว่างรำไร เดาได้ไม่อยากว่าผู้ที่หลับอยู่ด้านในต้องเป็นหานซูอันแน่ “จัดการมันเสีย อย่าให้ถึงตาย เอาแค่ลงแข่งไม่ได้เป็นพอ ที่สำคัญอย่าลืมทำให้หน้านางเสียโฉม” ชายชุดดำเอ่ยบอกกลุ่มคนของตน ทว่ายังไม่ทันที่พวกเขาจะบุกเข้าไป ไฟที่ส่องสว่างเมื่อครู่ก็ดับลง ตามมาด้วยเสียงประตูที่ถูกเปิดออก เผยให้เห็นสตรีรูปร่างอรชรในชุดนอนสีขาว ยืนเท้าสะเอวพร้อมกับถือดาบพาดอยู่บนไหล่ มองกลุ่มคนที่ยืนมึนงงอยู่ “เข้ามาสิ จะได้จัดการให้มันจบ ๆ เสียเวลานอนจริงเชียว” สตรีตัวเท่าไหล่เอ่ยกับผู้บุกรุกอย่างไม่กลัวเกรง ที่นางออกมาเสนอตัวเองก็ไม่ใช่อะไรหรอก แค่ไม่อยากให้ห้องนอนเปื้อนเลือดก็เท่านั้น ที่สำคัญกลัวข้าวของใช้พังด้วย พูดง่าย ๆ จัดการคนพวกนี้แล้ว ตนก็จะได้นอนต่ออย่างสบายใจนั่นเอง “ปากดีนักนะ เช่นนั้นพวกเราก็ไม่ปรานีเจ้าแล้ว” สิ้นคำชายชุดดำนับสิบก็กรูกันเข้ามาหมายจะทำร้ายอย่างที่ตั้งใจ ทว่าไม่มีใครได้เข้าใกล้นางเลยสักคน ทั้งปลายดาบ ทั้งฝ่าเท้าไม่รู้มันลอยมากระทบใบหน้าตั้งแต่เมื่อใด บางทีนางก็หมุนคว้างอยู่บนอากาศข้ามหัวพวกเขา ราวกับบินได้เสียอย่างนั้น แม้แต่คนที่แอบดูอยู่ยังตกตะลึงจนลืมเข้ามาช่วย ดีที่คนสนิทเตือน เขาจึงรีบดีดตัวลงมาด้วยวิชาตัวเบาที่มี ใช้กระบี่ของตนรับคมดาบของชายชุดดำ พอพวกมันเห็นว่าเป็นจวิ้นอ๋อง ก็รีบหอบหิ้วกันหนีออกไปทันที “ตามไป จับตัวมันให้ได้” สั่งคนของตนแล้วก็หันมาหาสตรีที่ยืนใช้ดาบค้ำไว้ ใช่ว่านางจะไม่มีแรงหรือบาดเจ็บ ทว่าท่าทางนี้มันช่างกวนสิ้นดี “คงไม่เป็นอันใดสินะ” เปลี่ยนคำถามทันทีเมื่อเห็นท่ายืนและสายตาเรียบเฉยของหญิงสาว “คิดว่าท่านอ๋องจะไม่ลงมาช่วยเสียอีก” เอ่ยจบก็ไม่ได้รอฟังว่าอีกฝ่ายจะตอบว่าอย่างไร นางก็หมุนตัวเดินกลับเข้าห้อง “คุณหนูเกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ หรือว่า” ว่านชิงรีบถาม หลังจากได้ยินเสียงต่อสู้ดังจนทุกคนต้องตื่นขึ้นมา “แล้วท่านอ๋องมาได้อย่างไรเจ้าคะ” ประโยคนี้กระซิบถามแผ่วเบา “อยากรู้ก็ถามดูสิ” ตอบกลับให้สาวใช้ตนต้องส่ายหัว ก่อนจะนึกขำเอ็นดู “บอกคนงานให้จัดการตรวจดูโดยรอบ คิดว่าเวรยามน่าจะถูกทำร้าย รีบหาหมอมารักษาเสีย” “เจ้าค่ะ” ว่านชิงรับคำก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา “เจ้าดูไม่ตื่นกลัวเลยนะที่มีมือสังหารลอบเข้ามา” “ท่านอ๋องจะให้หม่อมฉันร้องไห้หรือเพคะ” นางนั่งลงแล้วก็รินชาส่งให้เขา ก่อนจะรินให้ตนเองด้วย “มันก็ควรจะเป็นเช่นนั้นมิใช่หรือ หากเจ้าคือหานซูอัน” คำพูดนี้มันทำให้มือขาวที่กำลังยกจอกชาใส่ปากต้องชะงักลง ทว่ามันก็ไม่นานนัก ริมฝีปากอิ่มก็เผยอดื่มชาจนหมดถ้วย “ท่านอ๋องสงสัยว่าหม่อมฉันไม่ใช่หานซูอันหรือเพคะ แล้วเช่นนั้นหม่อมฉันเป็นใครกัน” นางมองเขานิ่งรอคำตอบ “เจ้าอาจเป็นใครสักคนที่หน้าเหมือนนาง ไม่ก็…เป็นวิญญาณผู้อื่นมาเข้าสิงร่างนี้ ตอนที่หานซูอันตายไปเมื่อเดือนก่อนก็ได้” ข้อสงสัยในช่วงท้าย เขาแค่ลองเอ่ยเล่น ๆ เท่านั้น ทว่าปฎิกริยาของคนตรงหน้ากลับนิ่งไป หรือสิ่งที่เขากล่าวมันจะเป็นจริง แล้วมันเรื่องไหนกันล่ะ สตรีผู้นี้เป็นคนหน้าเหมือนหานซูอัน หรือเป็นวิญญาณผู้อื่นมาใช้ร่าง “หม่อมฉันง่วงแล้วเพคะ วันพรุ่งเราต้องไปฝึกอีกมิใช่หรือ อีกอย่างพระองค์ไม่ควรมาที่นี่ดึก ๆ ดื่น ๆ หากมีคนพบเห็นเข้า คงคิดว่าหม่อมฉันคบชู้เป็นแน่ กลับไปได้แล้วเพคะ อ้อ!...ปิดประตูให้ด้วยนะเพคะ หม่อมฉันไม่ไหวแล้ว” นางเดินไปพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปาก ทำท่าทำทางง่วงเต็มทน ทว่าซีหนานก็พอจะมองออกว่านางแค่แสร้งทำเท่านั้น “เอาเถอะ หากเจ้าไม่พร้อมก็ยังไม่ต้องพูด ไว้ใจข้าเมื่อใดก็เอ่ยออกมาแล้วกัน เพราะข้าไม่มีทางทำร้ายเจ้าแน่นอน ต่อให้เจ้าไม่ใช่หานซูอันตัวจริงก็ตาม” เสียงทุ้มหนักแน่นดังมาตามหลัง ซูอันไม่ได้หันกลับไปมองเขา จนเสียงประตูปิดลง ร่างเล็กค่อย ๆ หันกลับมา ภายในห้องเงียบราวกับไม่มีใครอยู่ “เห้อ! คนอย่างจวิ้นอ๋องคงไม่รามือง่าย ๆ แน่ แต่จะให้บอกความจริง ใครมันจะไปเชื่อกันล่ะ” ทิ้งตัวทรุดนั่งบนเตียง จากนั้นก็เอนตัวลงนอน ดาบในมือก็วางมันข้างเตียงนั่นแหละ และไม่นานเปลือกตาสวยก็ปิดลง เพราะไม่อยากครุ่นคิดอันใด ด้านจวิ้นอ๋อง เขายังคงนึกถึงใบหน้าของหานซูอันอยู่ นางไม่ใช่คนเดิมแน่ ถึงแม้จะมีใบหน้าที่เหมือนกับคนคนเดียว ทว่ามันคืออย่างไหนกันนะ ระหว่างตัวปลอมกับตัวจริงแต่มีผู้อื่นมาใช้ร่าง ทว่าทั้งสองทางมันเป็นไปได้สำหรับเขา หากไม่รู้จักสนิทชิดเชื้อกับหมอหลวงหานมาก่อน ความคิดนี้ไม่อยู่ในหัวเขาแน่ “หรือนางจะมาจากยุคเดียวกันกับท่านหมอ” เขาพึมพำกับตนเอง จนกระทั่งคนสนิทเดินเข้ามารายงาน “ข้าจะไปสอบสวนมันเอง” เอ่ยอย่างแค้นใจ เพราะคนเหล่านี้อุกอาจมาก กล้าลงมือกับสตรีตัวแค่นี้มันเดรัจฉานชัด ๆ เขาจะไม่มีทางปล่อยให้มันรอดไปได้แน่ ทว่ายังไม่ทันได้ขึ้นม้าข่าวใหม่ก็มีมาเสียก่อน คนร้ายถูกสังหารเอาชีวิตจนไม่เหลือสักคน ในขณะที่คนของจวิ้นอ๋องกำลังจับพวกมันส่งไปยังเรือนจำ คนของเขาส่วนหนึ่งก็บาดเจ็บด้วย “บังอาจนัก!! ใครมันช่างกล้าลงมือในเมืองหลวงแห่งนี้” คำรามอย่างเหลืออด ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีเรื่องราวร้ายแรงลอบสังหารกันเช่นนี้มาก่อนเลย พวกมันพุ่งเป้ามาที่หานซูอันอย่างตั้งใจ พอไม่สำเร็จถูกจับได้ก็ต้องตายเพื่อไม่ให้สืบถึงต้นต่อได้ ใครกันที่กล้าทำเรื่องเช่นนี้ หากเขามาไม่ทันเจ้าของจวนจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ จากที่เห็นคนเหล่านี้เป็นยอดฝีมือพอตัว ที่สำคัญมันรู้จักเขาด้วย มิเช่นนั้นคงไม่รีบหนีไปทันทีที่เห็นหน้า แล้วใครกันที่สามารถจ้างพวกมันให้มาทำงานได้ เพราะคนมากขนาดนี้ต้องใช้เงินจำนวนมากจ้าง “ส่งทหารมาคุ้มกันจวนทั้งข้างนอกและข้างใน หากเจ้าของจวนไม่พอใจก็ให้มาคุยกับข้า” เอ่ยกับคนสนิทแล้วก็ขึ้นม้าควบออกไป เฉินฟู่จึงต้องอยู่ที่นี่ตามคำสั่ง สายวันต่อมา อวี้หรานรีบรุดมาที่จวนสกุลหาน หลังจากรู้ว่าเมื่อคืนที่นี่เกิดเรื่อง เขาตรงไปที่ห้องพักของหานซูอันทันที ซึ่งตอนนี้นางกำลังทานอาหารอยู่ พอเห็นอีกฝ่ายมาตะเกียบก็ถูกวางลง “เจ้าไม่เป็นอะไรนะ” รีบนั่งลงข้างกัน มองสำรวจร่างเล็กไปมาด้วยอาการตื่นตระหนก ก่อนจะหยุดลงที่ใบหน้างาม ซึ่งกำลังมองเขาอยู่ และแววตานางมันก็ว่างเปล่ายิ่งนัก “ยังไม่ตาย บอกบิดาท่านด้วยแล้วกัน” นางเอ่ยเสียงเรียบ “หมายความว่าอย่างไร!!” อวี้หรานร้องถามด้วยท่าทางฉงนเป็นที่สุด ซึ่งมันทำให้ซูอันนึกสงสัย เขาจะบอกว่าไม่รู้เรื่องที่บิดาสั่งเอาชีวิตนางกระนั้นหรือ ถึงได้มีท่าทางตื่นตกใจนัก พ่อลูกอยู่ในจวนเดียวกัน ใครทำอันใดจะไม่รู้ได้เยี่ยงไร ที่สำคัญคือเขาเป็นถึงองครักษ์เสื้อแพรเชียวนะ #ยังมีหน้ามาอีกนะ หยุมหัวเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม