เป็นไปตามแผน

1352 คำ
นางมิได้คิดสิ่งใดกับกงหลี่เฉียงแล้วเสียหน่อย ทั้งความเสียใจที่ทุกเขากระทำก็หายไปเสียจนสิ้น ตอนนี้เหลือเพียงแค่อยากเห็นชายชั่วกับหญิงร้ายถูกทำให้อับอายเช่นที่นางเคยโดนมาก็เท่านั้น “นายท่านต้องการนั่งที่ใดขอรับ” เสี่ยวเอ้อเดินออกมาต้อนรับ “ท่านพ่อลูกอยากนั่งที่ชั้นสองเจ้าค่ะ” “เช่นนั้นก็ชั้นสองเถิด” “ทางนี้ขอรับ” เสี่ยวเอ้อรีบนำทางไปทันที เยว่ชิงที่ไม่ได้ปรากฏตัวนอกจวนเสียนาน เมื่อนางออกมาย่อมต้องตกเป็นเป้าสายตาของผู้อื่น บุรุษได้แต่มองตามแผ่นหลังของนางที่เดินข้างบิดาไปอย่างล่องลอย สตรีก็ได้แต่มองไปอย่างอิจฉาในความงามของนาง โต๊ะด้านในที่หลบสายตาของผู้อื่น มีบุรุษสองคนที่นั่งสนทนากัน กำลังมองมาที่หมอหลิวและเยว่ชิงอย่างนึกสนุก “หึหึ ช่างน่าสนใจ” “ท่านไม่คิดจะไปห้ามอย่างนั้นรึ” “เรื่องสนุกเช่นนี้ จะห้ามไปไย สมควรจะตามไปชมเสียมากกว่า” เขาโยนถั่วเข้าปากแล้วลุกขึ้นเดินตามสองพ่อลูกไปอย่างช้าๆ สหายของเขาได้แต่ส่ายหน้าและเร่งฝีเท้าตามไป “พี่เฉียง ท่านแอบออกมาพบข้าเช่นนี้ มิกลัวคุณหนูหลิวนางจะรู้เข้าอย่างนั้นรึ” เสียงสตรีกำลังต่อว่าบุรุษด้านใน ดังออกมาด้านนอก จนทำให้คนทั้งหมดที่กำลังจะเข้าไปในห้องรับรองหยุดชะงักอยู่กับที่ “ชิงชิงนางล้มป่วย จะไปรู้เรื่องของเจ้ากับข้าได้อย่างไร” เสียงนี้เป็นเสียงของกงหลี่เฉียงอย่างแน่นอน เยว่ชิงกำมือแน่น นางไม่คิดว่าเขาจะลอบคบกับตู้ซิงเยียนก่อนที่นางจะแต่งเข้าไปในจวนเสียอีก ปัง เสียงประตูถูกเปิดจากด้านนอกเสียงดัง ทำให้คนที่อยู่ด้านในสะดุ้งถอยหนีออกจากกันทันที เมื่อครู่คนด้านนอกล้วนเห็นกันหมดว่า ตู้ซิงเยียนนั่งอยู่บนตักของกงหลี่เฉียงอย่างสนิทสนม “ชะ ชิงชิง” กงหลี่เฉียงผลักตัวของตู้ซิงเยียนออกจากตัวของเขาทันที “หึ เป็นเช่นนี้เอง ถึงว่าท่านมิมาพบข้าที่จวนเสียหลายวัน” การแสดงของเยว่ชิงเริ่มขึ้นแล้ว ดวงตาของนางแดงก่ำอย่างอดกลั้น ใบหน้างามดูน่าสงสารขึ้นมาทันที ยิ่งสาวงามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล บุรุษที่ได้พบเห็นก็แทบอยากจะเข้าไปปลอบประโลมนาง “มิใช่อย่างที่เจ้าคิด” ตอนนี้กงหลี่เฉียงจะเอ่ยอันใดออกมาก็มองไม่เห็นทางที่จะเอาตัวรอดได้เลย เพราะหลักฐานทั้งหมดมีสายตาหลายคู่ที่มองมาทางเขา เสียงปรบมือด้านหลังของเยว่ชิง ทำให้นางต้องหันไปมองอย่างสนใจ เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดนางก็ต้องเบิกตากว้างทันที เว่ยอ๋อง น้องชายร่วมอุทรของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน บุรุษที่คอยกลั่นแกล้งนางทุกครั้งที่เข้าวังหลวง และเป็นกงหลี่เฉียงที่เข้ามาปกป้องนางจากเขา พอนางเริ่มปักใจในตัวกงหลี่เฉียง ทุกครั้งที่พบเขา จะมีเพียงสายตาที่ดูแคลนมองมาทางนางเท่านั้น แต่เมื่อนางแต่งเข้าจวนตระกูลกงจึงได้รู้ว่าเขาเดินทางไปอยู่ที่ชายแดนเหนือ นับจากนั้นเรื่องราวของเขาก็เลือนหายไปจากนาง “คุณชายกงพูดจาน่าขันนัก หากมิใช่อย่างที่เปิ่นหวางคิด แล้วเป็นเช่นใด จะบอกว่าคุณหนูตู้ไร้ยางอาย เป็นฝ่ายยั่วยวนเจ้าเช่นนั้นรึ” คำพูดที่เจ็บแสบหากออกมาจากปากของชายผู้นี้ เยว่ชิงก็ไม่แปลกใจนัก “ท่านอ๋อง ท่านกล่าวหนักเกินไปแล้ว” กงหลี่เฉียงกัดฟันแน่น “ไหนเจ้าลองว่ามาสิ หากเปิ่นหวางกล่าวหนักเกินไป” ตู้ซิงเยียนจวนเจียนจะร่ำไห้ออกมาแล้ว เพราะตอนนี้หน้าห้องรับรองมีแต่คนมามุ่งสนใจเรื่องของนาง ทั้งสายตาเหยียดหยามที่มองมาทางนางก็ทำให้นางถึงกับอยากจะหายตัวไปจากที่นี่เสีย กงหลี่เฉียงจะพูดอันใดออกมาได้ เขาเหลือบตามองไปที่ตู้ซิงเยียน ก่อนจะหันไปมองที่เยว่ชิงอย่างใช่ความคิด “คุณหนูตู้นางเป็นญาติผู้น้องของกระหม่อม เมื่อครู่เพียงล้มลงมาเท่านั้น มิใช่อย่างที่พวกท่านกำลังคิด” เขากำมือแน่น ถึงอย่างไรข้อกล่าวหานี้ก็ต้องโยนไปให้พ้นตัว มิเช่นนั้นคงมิอาจแต่งเยว่ชิงเข้าจวนได้อย่างแน่นอน “เช่นนั้นรึ” หมอหลิวเดินเข้าไปตรงหน้าของกงหลี่เฉียง ก่อนจะโยนหลักฐานที่เขาให้คนไปสืบมาใส่หน้าของเจ้า กงหลี่เฉียงหยิบกระดาษตรงหน้าขึ้นมาอ่าน มือของเขาสั่นเทาไปด้วยความไม่อยากเชื่อ เรื่องทั้งหมดที่ถูกปกปิดไว้ ล้วนแต่อยู่ในกระดาษที่หมอหลิวปาใส่หน้าของเขา ทั้งเรื่องหนี้สินที่บิดาได้สร้างไว้ และไหนจะเรื่องความสัมพันธ์ของเขาและซิงเยียน แม้แต่เวลา สถานที่ที่พวกเขาลอบนัดพบกันล้วนแต่ระบุไว้จนหมดสิ้น เว่ยอ๋องถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้อง แล้วดึงกระดาษในมือของกงหลี่เฉียงออกมาอ่านเสียงดัง “โอ้ หลี่เฉียงเอ่ย หลี่เฉียงมีหยกอยู่ในมือกลับไปเกลือกกลั้วกับกรวดเช่นนี้” เว่ยอ๋องแสร้งมองกงหลี่เฉียงอย่างเห็นใจ “ท่าน” เขาเอ่ยเสียงลอดไรฟันออกมาอย่างแค้นใจ แต่จะทำอันใดเว่ยอ๋องได้เล่า เว่ยอ๋องได้แต่เลิกคิ้วให้อย่างยียวน หมอหลิวหันไปมองเว่ยอ๋องอย่างไม่เข้าใจ ว่าเขาจะเข้ามายุ่งเรื่องนี้ด้วยทำไม “ข้าคิดว่าเรื่องหมั้นหมายระหว่างทั้งสองจวนคงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เรื่องนี้เจ้าไปบอกกล่าวบิดามารดาของเจ้าด้วย” หมอหลิวสะบัดชายเสื้อของเขา พร้อมทั้งประคองบุตรสาวหันหลังเดินจากไป แต่กงหลี่เฉียงยังไม่ยินยอม เขาตามไปดึงมือของเยว่ชิงไว้ เพื่อให้นางฟังเขาอธิบายต่อ “ท่าน” นางเบิกตากว้างอย่างตกใจ แต่มือที่จับนางอยู่มิใช่มือของกงหลี่เฉียง แต่เป็นมือของเว่ยอ๋องที่จับข้อมือของนางไว้แน่น “อ้อ ข้าจับผิด ขออภัย เว่ยอ๋องแสร้งทำหน้าตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนไปคว้าข้อมือของกงหลี่เฉียงแทน เยว่ชิงถลึงตามองเขาอย่างตำหนิ นางรู้ว่าที่เขาจับข้อมือนางเขาตั้งใจอย่างแน่นอน “เจ้าได้ยินชัดแล้วหรือไม่คุณชายกง นางมิต้องการแต่งเข้าจวนของเจ้าแล้ว” ประโยคหลังเว่ยอ๋องพูดเสียงดังขึ้น เพื่อเป็นการตอกย้ำกงหลี่เฉียง หมอหลิวส่ายหัว ก่อนจะพาบุตรสาวกลับจวนไป ถือว่าเรื่องที่เขาต้องการ มันเป็นไปตามที่เขาคิดไว้แล้ว เยว่ชิงเมื่อขึ้นมานั่งในรถม้า นางก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นับว่าเป็นการตัดขาดความเป็นสามีภรรยาระหว่างเขากับนางอย่างสิ้นเชิงแล้วในชาตินี้ ทางด้านกงหลี่เฉียงเมื่อหมอหลิวพาเยว่ชิงกลับจวนไปแล้ว เขาก็คิดจะหนีออกจากโรงน้ำชา แต่ถูกซิงเยียนดึงรั้งตัวไว้ ทั้งเว่ยอ๋องก็ยังยืนขวางทางออกอยู่ด้วย “พี่เฉียง ท่านจะไปที่ใดเจ้าคะ” นางร้องถามออกเสียงดัง “ข้าจะกลับเรือน” เขาเอ่ยออกมาอย่างหัวเสีย “แล้วข้าเล่า” นางเอ่ยถามเสียงดัง “ใช่แล้ว คุณชายกง ท่านจะทิ้งนางได้อย่างไร” เว่ยอ๋องชี้นิ้วไปที่ตู้ซิงเยียนกับกงหลี่เฉียงสลับกันไปมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม