ม้าศึกตัวใหญ่วิ่งห้อตะบึงเข้าสู่เขตป่าดับตะวัน เสียงกีบเท้าม้าราวยี่สิบตัวติดตามม้าตัวใหญ่ควบนำหน้าขบวน ซูลี่อิงแอบกายแนบอยู่กับบุรุษลึกลับผู้ชิงตัวนางมาจากชินหวางอ๋อง
ผู้ที่อาศัยอยู่ในป่าดับตะวันจะเป็นผู้ใดได้เล่านอกจากเหล่าโจรถ่อยต่ำช้าที่มักปล้นคร่าชีวิตผู้คน ดูเหมือนเทพแห่งชะตาจะนำพาความอาภัพมาให้เป็นสองเท่า เมื่อนางหนีจากปากหลุมดักสัตว์มาได้ ซ้ำร้ายมาเจอชินอ๋อง แต่โชคร้ายกว่าคือถูกโจรหน้าหนาลักพาตัว
"กลัวข้ารึ" เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหู ยามลมหายใจเป่าผ่านต้นคอ ทำเอาซูลี่ขนลุกซู่
"...." ไร้เสียงตอบจากปากสตรีตัวเล็ก มือขาวจับอยู่บนแผงขนคอม้า นางนั่งตัวแข็งทื่อ
"อย่ากลัวข้าเลยเมียรัก" เสียงนุ้มทุ้มหัวเราะในลำคอ
"ข้าเป็นถึงพระชายาตำหนักอ๋อง เจ้าต้องไม่ตายดีแน่หากไม่ยอมปล่อยข้าไป"
"เจ้าแน่ใจรึว่าชินหวางอ๋องมาช่วยเจ้า ดีไม่ดีเขาอาจต้องการเพียงจับเจ้าไปทรมานให้สาแก่ใจเท่านั้น"
"ข้าชิงชังบุรุษทุกคน" ซูลี่เกรี้ยวกราด
"หืม? กระต่ายน้อยชิงชังบุรุษ รวมถึงข้าด้วยหรือไม่" แขนหนั่นแน่นเบียดมัดกล้ามเข้ารัดรอบกายนาง บุรุษร่างสูงกอดซูลี่แน่นเข้าจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากเรือนกาย
"ย่อมรวมเจ้าด้วย"
"เกลียดข้าเสียให้พอ แล้วค่อยรักข้าก็ยังไม่สาย"
"ข้าจะรักเจ้าลงได้อย่างไร ข้าถูกลักพาตัวมา สตรีใดบ้างจะรักชายแปลกหน้าได้ลง"
"เจ้ามีสองทางเลือกอีกเช่นกัน หนึ่งตาย สองรักข้า"
"ชะตาหนอชะตา" ซูลี่หันไปทุบกำปั้นน้อย ๆ รัวใส่แผงอก
"ม้าวิ่งเร็ว หากมัวแต่ทุบตีข้า เจ้าอาจตกม้าได้" เสียงเข้มคร้ามกระซิบคำขู่ ริมฝีปากหยักภายใต้ผ้าพรางหน้าจุมพิตไปบนแก้มมอมแมมเปื้อนโคลนคราหนึ่ง
"นี่เจ้า...เจ้าโจรถ่อย กินเต้าหู้ข้ารึ"
"ปากข้ามีผ้าคลุมหน้าปิดอยู่ ส่วนแก้มเจ้าเปื้อนโคลน นับว่ามีสิ่งกางกั้นมิใช่การกินเต้าหู้ ริมฝีปากข้ามิได้สัมผัสแก้มของเจ้าโดยตรงเสียหน่อย"
"โจรอย่างไรก็กล่าววาจายอกย้อนอย่างโจร"
ซูลี่รัวกำปั้นทุบบนหน้าอกเขาจนหมดแรง ร่างเล็กเหนื่อยหอบ นางหันกลับไปทำหน้างอเง้า
"หน้าเจ้างอง้ำยิ่งกว่าพระจันทร์เสี้ยว"
"เจ้าทำให้ข้าโกรธ"
"หากถึงเรือนข้า เจ้าจะโกรธยิ่งกว่านี้หลายเท่า ข้าคงไม่ปล่อยสตรีงามเช่นเจ้าไว้บูชา"
"ปล่อยข้าไปเถิด ข้าไม่เก่งเรื่องกามกิจ เป็นสตรีที่ไม่มีความสามารถทำให้บุรุษพึงใจ เรื่องบนฟูกของข้านับว่าย่ำแย่ยิ่งนัก"
"เหตุผลของเจ้าฟังดูไม่เลว"
"หากเจ้าเปลี่ยนใจ จงปล่อยข้าริมป่า ข้าจะหนีออกไปเมืองหน้าด่าน ไม่กล่าวถึงเจ้า ไม่ทำให้เจ้าเดือดร้อนเป็นอันขาด"
"ข้าหมายถึง หากเจ้าไม่เก่ง ข้าจะสอนเจ้าเอง ข้าเก่งเรื่องบนเตียงยิ่งนัก" มือใหญ่ไล้สัมผัสไปบนบั้นเอวคอดกิ่วของซูลี่ ใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน วาจาหวานหวามจากริมฝีปากร้อนผ่าว เสียงกระซาบกระซิบข้างหูบนหลังม้า
บุรุษผู้มีเชิงรักอย่างเหนือชั้น
ซูลี่หันมองขบวนม้าศึกวิ่งห้อติดตามราวยี่สิบตัว ชายฉกรรจ์บนหลังม้าสวมหน้ากากเงินดุนลายหมาป่า ยกเว้นแต่เขาผู้ดูเหมือนเป็นหัวหน้าโจรสวมแต่เพียงผ้าพรางหน้าสีดำทึม ดวงตาคมกล้าดุดันฉายแววอำมหิต กลิ่นอายอันตรายแผ่ซ่านจากกลุ่มคนทั้งขบวน พวกเขามีระเบียบการจัดกระบวนม้าเหมือนผู้ถูกฝึกมาอย่างดี ขบวนม้าขนาบข้างผู้เป็นนายอย่างไร้ช่องว่างให้โจมตี อาวุธติดกายของชายฉกรรจ์เหล่านั้นคือหอกปลายดาบคมกริบ ด้ามจับทำจากเหล็กรมดำสลักลวดลายมังกรเหยียบเมฆา ลายดิ้นเงินบนสาบเสื้อของโจรตัวหัวหน้าก็เช่นกัน
"ข้าอยากกลับบ้าน" ซูลี่สะอื้นไห้
"อย่าร้องไห้ ข้ามิอาจทานทนน้ำตาบนใบหน้าสตรี" เสียงเอ่ยปลอบเบา ๆ พร้อมกับเอนร่างเข้าหานางอีกเล็กน้อย อ้อมกอดอุ่นรัดร่างซูลี่เข้าหาแผงอก
สิ่งที่เขาทำสร้างความรู้สึกประหลาดให้กับซูลี่ แม้แต่ชินหวางอ๋องผู้เป็นสวามียังไม่เคยกอดนางด้วยความรู้สึกคลั่งไคล้เช่นนี้มาก่อน
ขบวนม้าผ่านป่าทึบทึม เข้าสู่เขตค่ายกลซับซ้อน ทะลุผ่านไปด้านหลังเป็นทุ่งกว้างติดภูเขา ด้านหน้ามีแม่น้ำใสตัดผ่าน ขบวนม้าข้ามสะพานหินขนาดใหญ่เข้าสู่จวนสีดำตั้งตระหง่าน ความใหญ่โตอลังการเทียบเทียมวังหลวง ซูลี่ถึงขั้นอ้าปากค้างแหงนมองจวนสีดำ สิ่งที่เห็นมิอาจเรียกได้ว่าเรือน มันช่างใหญ่โตกว่าตำหนักอ๋องอีกสี่เท่า
"บ้านของเรา"
"ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่"
"ไม่เปลี่ยนใจแน่หรือ" ชายหนุ่มชักบังเ**ยนม้าให้หยุดนิ่ง กระโดดลงจากหลังม้าด้วยท่วงท่าสง่างาม มือสากยื่นมาให้ซูลี่จับยึดไว้พยุงนางลงจากหลังม้า
"ข้ามีเพชรเม็ดใหญ่สีคราม ข้าจะมอบมันให้เจ้าแลกกับการปล่อยข้ากลับเผ่าอาร์คาร์"
"อยู่ร่ำสุรากับข้าเพียงสามราตรี หากเจ้ายังไม่เปลี่ยนใจ ข้าจะปล่อยเจ้าไป"
มือใหญ่จูงมือน้อยเดินผ่านประตูหน้า ชายร่างสูงบึกบึนยืนเรียงรายเป็นแถวค้อมศีรษะคำนับเมื่อผู้เป็นนายเดินผ่าน ซูลี่มองตามแผ่นหลังกว้าง ก้มมองมือบุรุษกึ่งฉุดกึ่งลากนางเดินตามเข้าไป
สตรีหน้าตายด้านราวกับผีดิบสี่นางออกมารอต้อนรับ สาวใช้ยอบกายคารวะเขาอย่างเต็มพิธีการ ไม่นึกว่าซ่องโจรต้องมีพิธีรีตองมากมายราวกับวังหลวง
"คารวะนายท่าน"
"พานางไปอาบน้ำ เสร็จแล้วพานางไปที่หอสุรา"
"อาบน้ำนม นวดน้ำมันหอมเตรียมปรนนิบัตินายท่านด้วยหรือไม่" เหล่าสาวใช้กวาดสายตามองร่างมอมแมมเปื้อนโคลน
"อืม" เขาพยักหน้า
ซูลี่หันกายเดินไปพร้อมสาวใช้สี่นาง มือหนาคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนซูลี่ก่อนก้มลงกระซิบ
"อาบน้ำให้สะอาด ข้าจะจับเจ้าเลียทั้งตัว"
ซูลี่ใบหน้าร้อนผ่าว แม้แก้มเปื้อนโคลนยังเห็นได้ว่าขึ้นสีแดงระเรื่อยิ่งกว่าผิงกั๋วสุก นางอยากทุบกำปั้นบนแผงอกเขาให้ตายไปเสีย
"บุรุษหน้าหนา" นางได้แต่ก่นด่าตามหลังเมื่อเขาเดินลับไปทางเรือนใหญ่