สองชั่วโมงต่อมา
ห้องทำงานส่วนตัวของลภัสวัฒน์ยังคงเงียบสงัด มีเพียงเสียงนาฬิกาที่แขวนอยู่ข้างฝาและลมหายใจของเขาที่ดังให้ได้ยิน
ลัลล์ลลิตนั่งลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม มองจ้องหน้าพี่ชายที่นั่งเอนหลังพิงเก้าอี้อยู่นิ่ง ๆ ใบหน้าของเขายังคงบึ้งตึงให้ได้เห็น
“สงบสติอารมณ์ตัวเองได้หรือยังคะ”
ดวงตาคมมองจ้องน้องสาวอีกครั้ง ไม่ได้ยิ้มทักหรือรู้สึกดีที่ได้เจอหน้าเลยสักนิด
"มาทำไม มีธุระอะไรกับพี่อีกไม่ทราบ?"
“ก็แค่แวะมาดู ลัลล์เป็นห่วงพี่ชายตัวเองไงคะ กลัวว่าพี่ลีโอจะเหนื่อยกับชีวิตเกินไป”
“เหนื่อยกับชีวิตงั้นเหรอ พี่ไม่ได้เหนื่อย! แค่หงุดหงิดนิดหน่อยต่างหาก ทุกคนทำงานเหมือนไม่ได้คิดอะไรเลย ทำผิดพลาดไปหมด เอาแต่ทำให้ชีวิตพี่วุ่นวายน่าปวดหัว”
ลัลล์ลลิตถึงกับส่ายหน้าไปมาเบา ๆ
“มันไม่ใช่เรื่องคนอื่นทำงานไม่ได้หรอกค่ะ ลัลล์รู้ว่าที่พี่เป็นแบบนี้เพราะพี่ยังคิดถึงคุณจีน่าอยู่”
“คิดถึง? เหอะ! ไม่ใช่ซะหน่อย พี่จะไปคิดถึงเขาทำไม แค่เบื่อที่ทุกอย่างมันไม่เรียบร้อย ไม่ถูกใจพี่สักเรื่องมันก็เท่านั้นเองลัลล์!”
ลัลล์ลลิตอดขำไม่ได้กับท่าทีสีหน้าที่พี่ชายกำลังแสดงออก เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้และเอียงคอมองพี่ชายให้เต็ม ๆ ตา อยากก่อกวนอารมณ์เขาต่อ อยากทำให้พี่ชายยิ้มได้สักนิดก็คงจะดี
“อื้อหือ! ทำไมปากแข็งจังเลยนะพี่ลีโอ แต่สายตาพี่เนี่ยพูดแทนทุกอย่างมากกว่าคำพูดที่พี่พยายามปฏิเสธออกมาอีกนะคะ”
ลภัสวัฒน์มองสบตากับน้องสาว ก่อนจะใช้มือผลักใบหน้าของน้องออกไปให้ห่างอย่างไม่สบอารมณ์
“สายตามันไม่เกี่ยวกันหรอก อย่ามามั่ว พี่ไม่ได้คิดถึงใครทั้งนั้น!”
ลัลล์ลลิตถอนหายใจออกมาแรง ๆ วางมือลงบนโต๊ะ มองจ้องหน้าพี่ชายจัง ๆ อีกครั้ง
“พี่ลีโอฟังนะคะว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับงานอย่างเดียว แต่มันเกี่ยวกับหัวใจพี่เองต่างหาก ลัลล์เข้าใจว่าพี่ยังคิดถึง แม้พี่จะนั่งยันนอนยันว่าไม่ใช่ก็เถอะ แต่ถ้าพี่ยังปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนืออะไรทั้งหมดแบบนี้ ทั้งพี่และคนอื่นก็จะลำบากไปด้วยกัน มันไม่มีใครที่จะกล้าเข้าหน้าพี่อีกแล้วนะคะ สองเดือนมานี้พี่เปลี่ยนเลขามาแล้วกี่คน มีคนอยู่กับพี่เกินหนึ่งอาทิตย์สักคนไหมคะ?”
ลภัสวัฒน์เม้มปากแน่น ใบหน้าเริ่มคลายความตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงปากแข็งสุด ๆ อยู่เหมือนเดิม
“ก็พวกเขาทำงานไม่ดี ทำงานไม่ได้เรื่องเองนี่นา แล้วจะให้เก็บไว้ทำไมฮะ ถ้าเป็นไปได้ลัลล์ช่วยหาเลขาที่ทำงานดี ๆ ทำงานเก่ง ๆ มาให้พี่ใหม่ด้วยนะ ขอเป็นผู้ชายที่น่าจะทำงานได้ดีกว่าพวกผู้หญิง ไม่น่ารำคาญแบบนี้จะได้อยู่กันยาว ๆ”
ลัลล์ลลิตยิ้มบาง ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความเย้ยเยาะและความสมเพชพี่ชายในเวลาเดียวกัน
"หรือว่าเลขาผู้หญิงที่มีอยู่มันสวยไม่ถูกใจพี่หรือเปล่านะ ลัลล์คิดว่า... ลัลล์คงต้องหาเลขาสวย ๆ เหมือนคุณจีน่ามาเปลี่ยนให้แล้วล่ะ อาจจะดีขึ้น"
ฟรึ่บ! ใบหน้าหล่อหันไปมองจ้องหน้าน้องสาวอย่างไม่พอใจอีกครั้ง
"อย่าพูดชื่อนี้ให้พี่ได้ยินอีก พี่ไม่ได้อยากได้เลขาสาวที่มีหน้าตาเหมือนเขาซะหน่อย พี่อยากได้ผู้ชาย ขอเป็นผู้ชายที่ได้เรื่องสักคนเถอะลัลล์"
“อื้อหือ... เห็นไหมคะ พี่ลีโอชอบปฏิเสธความจริงอยู่เรื่อยแหละ พี่ได้ยินชื่อคุณจีน่าแค่นี้พี่ยังเดือดเลยนะคะ แต่เอาเถอะ... เดี๋ยวลัลล์จะจัดการให้ใหม่ ว่าแต่คุณเกรซเขาไม่มาตามตอแยพี่แล้วหรือไง?”
"โอ๊ย!!! พูดชื่อแต่ละคนขึ้นมา ยิ่งทำให้พี่หงุดหงิดอีกแล้วนะลัลล์ อย่าพูดถึงได้ไหมทั้งชื่อเกรซและจีน่า พี่รำคาญ!!"
"เหอะ! เพิ่งหมั้นได้ไม่เท่าไหร่รำคาญคู่หมั้นตัวเองแล้วเหรอคะ ใช่สินะ! หมั้นประชดคนเก่าที่เขาจากไปเฉย ๆ นี่นา คิดว่าเขาจะหึงแล้ววิ่งแจ้นกลับมาหางั้นสิ เสียใจไหมคะที่ผู้หญิงเขาไม่สนใจเลย ทำเหมือนตัวเองดีมากทั้งที่ไม่มีอะไรดีเลย ฮ่า ๆ ๆ ไม่รู้จะสมน้ำหน้าหรือสมเพชดีนะคะว่าไหม"
"ลัลล์!! แกอย่ามาสู่รู้เรื่องพี่ได้ปะ ออกไปให้พ้นหน้าเลยไป รำคาญ!! แทนที่จะทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้น ไม่เลย! ไม่เคยเลย!"
"ไปก็ได้ ลัลล์แค่จะแวะมาบอกว่าการประชุมทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี วันหลังถ้าไม่พร้อมจะทำงานก็ไม่ต้องเข้ามานะคะ พี่ทำให้พนักงานทุกคนเขาหวาดกลัวไปหมดแล้ว ลัลล์ไม่อยากให้พวกเขาพร้อมใจกันลาออก ถ้าพี่ไม่พร้อมจะทำงานก็ลาพักไปก่อน ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องงาน ไปจัดการตัวเองซะนะพี่ลีโอ"
ทันทีที่พูดจบลัลล์ลลิตก็เดินออกไปจากห้องทำงานของพี่ชายอีกครั้ง ปล่อยให้เขานั่งหงุดหงิดหัวเสียอยู่บนเก้าอี้เช่นเดิม สิ่งที่น้องสาวพูดออกมาก็ถูกทุกอย่างเลย เขาทำตัวเองทั้งนั้นไม่ได้เกี่ยวกับใครเลยสักคน เขาควบคุมสติตัวเองได้ไม่ดีพอ เพราะเธอคนนั้นคนเดียว... จิณห์วราผู้หญิงที่กล้าเดินหายไปจากชีวิตเขาได้ ทั้งที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้ กล้าที่จะเดินจากเขาไปแบบไม่หวนคืนกลับมา...