@ เดอะล็อปคอนโด
เท้าหนักพยายามลงฝีเท้าให้เบาที่สุดขณะที่เดินเข้ามาภายในห้องนอน ร่างสูงหยุดยืนอยู่ที่ปลายเตียงนอน แสงไฟสีส้มนวลจากนอกระเบียงลอดผ่านผ้าม่านสีขาวสะอาดตาเข้ามา ทำให้นัยน์ตาสีนิลมองเห็นร่างเล็กที่หลับสนิทอยู่บนฟูกนุ่มได้ไม่ชัดเท่าไหร่ แต่กลับรู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นเธอเข้านอนเรียบร้อยแล้ว แทนที่จะนอนหลับรออยู่ในห้องรับแขก เหมือนฉากในละครตอนที่ภรรยารอสามีเกเรกลับบ้าน
ปราณเพลิงอดไม่ได้ที่จะโน้มลงไปหอมแก้มนุ่มนิ่มของเธอ อีกทั้งประทับจูบบนหน้าผากมน ไม่ว่าวันไหนเด็กนี่ก็หอมยวนใจเขาจนอยากเข้ากกกอดแนบชิดเธอทุกคืนวัน นี่เรียกว่าติดเด็กได้มั้ยน้า... คนติดกลิ่นคลอเคลียร่างนุ่มนิ่มอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเธอกำลังพลิกตัวเขาจึงผละออกเพราะกลัวว่าเธอจะตื่นขึ้นมากลางดึก มือหนารีบดึงผ้าห่มขึ้นห่มให้เธอจากนั้นก็พาตัวเองเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
คืนนี้ปราณเพลิงต้องเช็ดผมที่เปียกชุ่มหลังสระเสร็จด้วยตัวเอง ปกตินริศราจะช่วยเป่าไดร์ให้จนแห้งเพราะเป็นห่วงว่าเขาจะเป็นหวัด แต่คืนนี้ดึกมากแล้วเขาไม่อยากใช้ไดร์เป่าผมให้เกิดเสียงดังรบกวนเธอ ไม่ได้เกรงใจแต่มันคือมารยาทของการอยู่ร่วมกัน
“ระวังน้องเรียนจบแล้วขอแยกทางนะมึง ตอนนั้นมึงจะมานึกเสียดายทีหลังก็ไม่ทันแล้ว”
ระหว่างนั้นคำพูดของบริพนธ์ก็ลอยเข้ามาในหัว ลองคิดทบทวนดูว่าถ้าหากต้องแยกทางกับนริศราเขาจะนึกเสียดายอะไรบ้าง แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก จำใจสะบัดไล่ความคิดนั้นออกจากหัวตื้อๆ ทิ้งตัวลงข้างเธออย่างระมัดระวัง แล้วสอดกายเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันกับคนที่ยังหลับสนิท ในขณะที่เส้นผมยังไม่แห้งดี
ลำแขนแกร่งดึงเธอเข้ามากอดเอาไว้แนบอก สงสัยที่นริศราบอกว่าเขาเป็นพวกชิฟสกินคงจะจริง เมื่ออยู่ใกล้ก็อดกอดก่ายคลอเคลียเธอไม่ได้เลยสักครั้ง แม้แต่ตอนนี้ที่คิดตามคำพูดคนตัวเล็กจมูกคมสันทก็จรดอยู่บนกลางกระหม่อมสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆจากเส้นผมอ่อนนุ่มของเธอไปด้วย ชวนให้ปลุกไฟในกายขึ้นมาได้ไม่ยาก ไม่ง่ายเลยที่สมองด้านดีจะข่มใจไม่ปลุกเธอให้ลุกขึ้นมาจ้ำจี้มะเขือเปราะกลางดึก กว่าจะหลับลงไปได้ก็ต้องนับแกะเกือบหมดนิวซีแลนด์ หรือว่าจะมีเพียงสิ่งนี้ที่เขาขาดเธอไม่ได้
“อืม...ไม่จริงหรอกมั้ง ก็แค่เซ็กซ์เราหาที่ไหนก็ได้”
ปากหนาพึมพำไม่ยอมรับ แขนทั้งสองข้างก็กอดร่างกายนุ่มนิ่มข้างๆไม่ยอมปล่อยให้ห่างกาย
ความเคยชินทำให้นริศรารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าตรู่เช่นทุกวัน เมื่อคืนเธอจำได้ว่าฟุ้งซ่านเรื่องของปราณเพลิงจนอาการปวดหัวกำเริบ จนต้องทานยาแล้วตัดใจเข้านอน ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าปราณเพลิงกลับมาค้างที่นี่ กระทั่งสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดอุ่นๆของคนที่แสนคุ้นเคย
ดวงตากลมโตกะพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับม่านตาให้มองเห็นใบหน้าคมคายได้ชัดขึ้น ดวงตาสีนิลที่มองเธอด้วยแววตาอบอุ่นถูกเปลือกตาหนาปิดสนิท ขนตาของเขายาวราวกับขนตาของผู้หญิง นิ้วชี้เรียวลูบลงตรงจมูกคมสันของเขาเบาๆ ก่อนจะเลื่อนลงมายังริมฝีปากหยักได้รูปที่เคยมอบจุมพิตร้อนแรงให้เธอมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เธอกลัวเหลือเกิน กลัวว่าวันหนึ่งจะไม่มีโอกาสเห็นใบหน้าคมคายนี้ด้วยดวงตาทั้งสองข้าง เพียงแค่คิดก็ปวดหนึบไปทั้งหัวใจ
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
น้ำเสียงอบอุ่นของคนตัวโตเอ่ยขึ้น ทั้งที่เปลือกตาทั้งสองข้างยังปิดอยู่ เขาประทับจูบลงบนหน้าผากมนเบาๆ อีกทั้งแขนทั้งสองกระชับกอดคนตัวเล็กให้แน่นขึ้นอีก ราวกับอยากชดเชยช่วงเวลาที่เสียไปเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่กลับกลายเป็นว่ากำลังจะหล่อหลอมนริศราให้กลายเป็นน้ำมากกว่า
“ค่ะ พี่ปราณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ทำไมไม่ปลุกฟ้า”
“มาตีสามเลยครับ พี่เห็นน้องฟ้าหลับอยู่เลยไม่ได้ปลุก ขอโทษนะที่ไม่ได้โทรมาบอกเรื่องกลับดึก”
แม้จะง่วงมากและอยากนอนต่อใจแทบขาด แต่ไม่รู้ทำไมได้ยินเสียงอ่อนเสียงหวานของเธอแล้วอยากหยุดคุยต่อ
“ไม่เป็นไรค่ะฟ้าเข้าใจ แต่เห็นพี่ปราณหายไปก็เลยเป็นห่วง ที่โทรไปสองสายไม่ได้หมายความว่าจะโทรตาม โทรจิกให้กลับเร็วๆ นะคะ”
นริศราโกหกคำโตค้านกับความรู้สึก ลึกๆ เต็มไปด้วยความตะขิดตะขวงใจ อยากถามว่าเขาไปไหนมา ไปกับใคร ทำไมถึงไม่มาหาตามที่นัดกันไว้ แต่ก็ไม่กล้าพอ เมื่อคืนก่อนจะหลับเพราะฤทธิ์ยาเธอตัดสินใจเสียมารยาทไลน์ถามอรรณพ พอรู้ว่าปราณเพลิงไม่ได้ไปดื่มกับเพื่อนเพียงลำพัง แต่มีเลขาหนุ่มคอยดูแลเธอจึงหลับลงไปได้สนิท
“ครับ ไม่จิกก็ไม่จิก แต่พี่มีอรรณพไปด้วยไม่เชื่อโทรถามได้เลยนะครับ”
คนพูดเหมือนร้อนตัว แต่จะให้ถามทำไมในเมื่อเธอรู้อยู่แล้ว แต่เลือกพูดย้อนไปอีกแบบ
“ทำไมฟ้าต้องโทรถามด้วยคะ ในเมื่อถามไปลูกพี่กับลูกน้องก็ต้องตอบแบบเตี๊ยมกันมาอยู่แล้ว”
นริศราเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของกอดอุ่นก็เห็นว่าเขายังหลับตาอยู่
“จริงๆ นะครับ สาบานได้เลยว่าพี่ไม่ได้ไปกับสาวที่ไหน”
ทีตอนนี้ทำมาเป็นรีบอธิบาย ทำไมเมื่อวานไม่เจียดเวลาโทรมาบอกกันสักนิด คิดแล้วก็ชวนหมั่นไส้ให้นริศราอยากโต้แย้งขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ถึงไปก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฟ้าหรอกค่ะ ฟ้าไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปจู้จี้จุกจิกเรื่องพวกนั้นสักหน่อย แต่ตามมารยาทถ้าไม่มาหาก็ควรบอกว่าไม่มา จะได้ไม่ต้องรอ อ๊ะ! อื้อ...”
คำพูดตัดพ้อยาวเหยียดถูกกลืนหายกลับเข้าไปในลำคอ เมื่อร่างอรชรถูกจับพลิกกายให้นอนราบไปกับฟูกนุ่มอย่างรวดเร็ว แถมยังถูกปราณเพลิงโน้มลงมาปิดปากเล็กด้วยจุมพิตอุกอาจอีก