“เย็นนี้พี่จะกลับมาทานข้าวเย็นด้วยนะ ทำแกงส้มไหลบัวให้ทานหน่อย”
ปราณเพลิงเอ่ยขณะที่รถอีโคคาร์สีขาวเคลื่อนตัวผ่านประตูของมหาวิทยาลัย สายตาคมก็ไล่อ่านเอกสารในไอแพดไปด้วย วันนี้เขาต้องเซ็นสัญญากับนักลงทุนชาวต่างชาติเกี่ยวกับการเช่าพื้นที่โฆษณาในช่องโทรทัศน์
“เย็นนี้พี่ปราณไม่ไปกินเลี้ยงกับลูกค้าเหรอคะ”
เธอถามในฐานะที่เป็นเลขาเฉพาะกิจด้วย และหยั่งเชิงเล็กน้อย เพราะเมนูที่เขาอยากรับประทานนั้นต้องเดินทางไปเฟ้นหาวัตถุดิบจากตลาดแถวชานเมืองอันไกลโพ้น แต่อันที่จริงอยากให้เขามาค้างคืนกับเธอทุกวันจนใจจะขาด เลยต้องเอาใจเขาสารพัด
“ไม่ครับ หลังจากเซ็นสัญญาเสร็จคุณฟ่านต้องบินกลับสิงคโปร์ทันที อาทิตย์หน้าพี่จะบินไปดูงานที่นั่นพอดี ค่อยนัดทานข้าวกับเธอย้อนหลัง”
นริศราพยักหน้าเข้าใจแล้วยิ้มกริ่ม หัวใจดวงน้อยชุ่มชื่นขึ้นราวกับต้นไม้ที่ถูกฝนตกลงมารินรด ช่วงเวลาที่อยู่กับปราณเพลิงเปรียบเสมือนได้ตักตวงความสุขมาชโลมจิตใจ แม้ว่ารู้ดีว่าเธอไม่อาจอยู่กับเขาแบบเปิดเผยได้ และหากวันที่เขาไม่ต้องการเธอมาถึงจริงๆ เธอก็คงทำตัวเหมือนหมอก ที่จางหายไปในอากาศเมื่อถูกแสงอาทิตย์ แต่ถามกลับมาเธอเสียดายมั้ยที่อยู่ในสถานะแบบนี้ ตอบได้เลยว่า ไม่!
“ตกลงเย็นนี้ฟ้าจะทำแกงส้มไหลบัวกุ้งสด น้ำพริกกะปิรสเปรี้ยวหวาน และก็มะเขือยาวทอดกรอบดีมั้ยคะ”
“ครับ ของโปรดพี่ทั้งนั้นเลย ว่าแต่น้องฟ้าให้พี่ช่วยเข้าไปคุยกับอธิการบดีให้มั้ย”
วันนี้นริศราไม่มีเรียน แต่ต้องมายื่นหนังสือขอใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยเพื่อถ่ายทำหนังสั้น โพรเจกต์จบหมื่นล้านที่ทำร่วมกับเพื่อนในกลุ่มอีกสองคน หนึ่งในนั้นก็มีปาวลินลูกสาวญาติผู้พี่ของปราณเพลิงร่วมกลุ่มด้วย บุญหล่นทับชะมัด
“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่รบกวนพี่ปราณดีกว่า”
คนตัวเล็กที่รับหน้าที่เป็นสารถีเอ่ยตอบ ปราณเพลิงคือท่านประธานหนุ่มหล่อที่มีอายุเพียงสามสิบต้นๆ ก็สามารถขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารธุรกิจบริหารลิขสิทธิ์ ซึ่งผลิตรายการและบริหารจัดการช่องโทรทัศน์ วิทยุ อีเวนต์และงานเกี่ยวข้องอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีเส้นสายในทุกวงการ ทว่าด้วยเส้นบางๆ ของสถานะทั้งสองคน นริศราจึงเลือกมีตัวตนในชีวิตของปราณเพลิงน้อยที่สุด
“แล้วเงินทำโพรเจกต์พอมั้ย เดี๋ยวพี่ให้อรรณพโอนเพิ่มให้นะ เห็นยัยปุณณ์ขอเงินน้าโป้งมาครึ่งล้านแล้ว ยังบ่นว่าโพรเจกต์ได้ไม่ถึงครึ่ง”
ปราณเพลิงพาดพิงถึงลูกสาวของญาติผู้พี่ ซึ่งเหมือนโลกเล่นตลกเมื่อปาวลินหรือปุณณ์เป็นเพื่อนสนิทของนริศรา ตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง ทั้งคู่สนิทกันมากจนทางบ้านของปาวลินอนุญาตให้มาค้างคืนกับนริศราที่คอนโดได้ ทำเอานริศราต้องวิ่งเก็บของใช้ปราณเพลิงจ้าละหวั่น เพื่อปกปิดไม่ให้ปาวลินรู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่
“เรื่องเงิน แค่พี่ปราณให้ฟ้าในแต่ละเดือนก็มากพอที่จะทำโพรเจกต์อีกสามสี่เรื่องเลย”
คนตัวเล็กยิ้มว่า เธอเลี้ยวรถเข้าจอดในลานจอดรถข้างๆ รถอีกคันที่มาจอดรอรับปราณเพลิง เขาอาสามาส่งเธอถึงที่ขณะที่ตัวเองก็ต้องรีบเข้าประชุมเช่นกัน จึงให้คนขับรถมารอที่มหาวิทยาลัย
ที่นริศราพูดไม่มีอะไรเกินจริง เฉพาะเงินเดือนก็เดือนละสองแสนบาทที่ปราณเพลิงให้ตายตัว ทว่าแต่ละเดือนแทบไม่ได้แตะต้อง เพราะค่าอื่นๆ ในชีวิตประจำวันปราณเพลิงก็จ่ายให้เธอไปเสียหมด
“ว่างก็ไปชอปปิ้งอย่าประหยัดเกินไป พี่ไม่ได้เลี้ยงน้องฟ้าให้ขี้เหนียวหรอกนะ อย่างกระเป๋าแบรนด์เนมก็ซื้อบ้าง อย่าใช้แต่ถุงผ้า ประหยัดจนไม่ได้ใช้ของสวยๆ งามๆ แล้ว”
ถุงผ้าเธอก็ไม่ธรรมดานะ ใช้สิทธิ์แลกซื้อบวกกับแต้มคะแนนสะสม แลกมาจากร้านสะดวกซื้อชั้นนำเชียวนะลายลิขสิทธิ์แท้อีกต่างหาก
ก็ทุกวันนี้แค่เด็กกำพร้าอย่างเธอ ได้อาศัยอยู่คอนโดหรูใจกลางกรุงก็เป็นที่น่าสงสัยของเพื่อนมาพอแล้ว แม้จะโกหกไปว่าเป็นมรดกของพ่อแม่ที่ทิ้งไว้ให้ก่อนตาย ดำรงชีวิตอยู่ด้วยเงินประกันชีวิตก้อนสุดท้าย และปลูกผักออร์แกนิกขายในโซเชียลมีเดียก็เถอะ แต่จำนวนเงินนั้นก็แค่ยิบย่อย ไม่ได้เยอะพอที่จะให้เธอออกมาใช้ชีวิตแบบหรูหราจนมีคำว่าไฮโซนำหน้าได้ เงินเดือนที่ปราณเพลิงให้นริศราจึงเก็บเอาไว้ใช้ในวันข้างหน้าดีกว่า
“พี่ปราณนั่นล่ะค่ะ เลิกให้เงินฟ้าทีละเยอะๆ ได้แล้ว ทำงานก็แสนจะเหนื่อย แล้วก็เอามาเปย์สาวสวยแบบฟ้าฟุ่มเฟือยอีก”
“หึ...ก็พี่อยากเลี้ยงให้ดี ไม่อยากผิดสัญญา”
คำพูดของเขาราวกับอยากย้ำเตือนความสัมพันธ์เชิงซื้อขาย ใบหน้าหวานเจื่อนลงเล็กน้อย รู้สึกจุกอกเหมือนมีอะไรมาวิ่งชนหัวใจทุกครั้งที่เมื่อได้ยินแบบนั้น เขาจะเกลียดมั้ยถ้าเธอต้องการอย่างอื่นที่มากกว่าข้อตกลงในสัญญา
เคยได้ยินผู้เชี่ยวชาญด้านการมีเพศสัมพันธ์พูดเอาไว้ ว่าสำหรับผู้หญิงยิ่งมีเซ็กซ์มากเท่าไหร่ สารแห่งความรักความผูกพันก็จะมากขึ้นเท่านั้น ในขณะที่ผู้ชายสารเหล่านั้นจะหมดไปหลังจากมีเซ็กซ์ ไร้ซึ่งความยุติธรรม แต่จะห้ามไม่ให้เขามีเซ็กซ์กับเธองั้นเหรอ ฝันไปเถอะ ปราณเพลิงไม่มีทางยอมเด็ดขาด เขากระหายสิ่งนี้จะตายไป
บางครั้งเธอก็อยากรู้เหมือนกัน ว่านอกจากเรื่องเซ็กซ์แล้ว เขาเคยต้องการรักแท้จากเธอบ้างไหม แต่สุดท้ายก็ได้แค่เก็บคำถามเอาไว้ในใจ
“ถ้าอย่างนั้นพี่ปราณก็รีบไปทำงานนะคะ ขอให้การเจรจาร่วมทุนสำเร็จด้วยดี จะได้มีสตางค์เอาไว้เลี้ยงเด็กคนนี้เยอะๆ”
หญิงสาวข่มความอึดอัดเอาไว้ภายใน แสร้งทำเสียงอ้อนแล้วขยับเข้าไปกอดเขาเอาไว้ ส่วนคนถูกกอดก็ขำชอบใจ
“ฮึ...ไม่ต้องห่วงนะเด็กดี เอาไว้จบโพรเจกต์นี้มีโบนัสพาไปเที่ยวแน่นอน เอาเป็นว่าลองเลือกดูนะว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน แล้วค่อยมาบอกพี่”
“ขอบคุณค่ะ พี่ปราณใจดีที่สุดเลย”
นริศรายิ้มรับแล้วโน้มเข้าจุมพิตที่ริมฝีปากหนาเบาๆ แล้วถอนจูบออก ส่วนปราณเพลิงก็เอื้อมมือเข้ามาลูบศีรษะเล็กแล้วจุมพิตลงบนหน้าผากมนอย่างเอ็นดู
สำหรับปราณเพลิง ตลอดเวลาที่อยู่กับนริศรา เธออยู่ในโลกที่เขาสร้างให้ ไม่เคยงอแงหรือเรียกร้องอะไร นี่คือสิ่งที่เขาชื่นชอบในตัวเธอ เวลาอยู่ด้วยแล้วมีแต่ความสบายใจ ดูเหมือนชีวิตคนบ้างานอย่างเขาก็คงต้องการเพียงเท่านี้จริงๆ
หลังจากพูดคุยกันอีกสองสามประโยค ปราณเพลิงก็แยกไปขึ้นรถที่คนขับรถจอดรออยู่ ส่วนนริศราก็รีบตรงไปยังตึกอำนวยการของมหาวิทยาลัยเพื่อยื่นเอกสารขอใช้พื้นที่ หลังจากเดินเรื่องเสร็จก็รีบเดินทางไปหาปาวลินที่คอนโดทันที