10

1390 คำ
ทั้งคู่ร้องออกมาพร้อมกัน จากนั้นทั้งเตชัสและขวัญดาวก็รีบผละออกจากกันถลันไปที่เตียงทันที เพราะน้องปลาวาฬกำลังพลิกคว่ำแล้วคลานด้วยท่าหน่วยคอมมานโด โดยการใช้แขนป้อมๆ ดึงตัวให้ขยับไปข้างหน้า ขณะที่พุงย้อยๆ ทำหน้าที่ช่วยดันลำตัวให้คืบคลานไปข้างหน้า ใครจะไปคิดว่าทารกยักษ์คลานไวมาก ดวงตาใสแจ๋วมองมาที่ขวัญดาวแล้วเรียกหาเพราะอยากจะเล่นด้วย “แอ้ แอ้” ท่าคลานเหมือนทหารยามออกรบของทารกตัวใหญ่เพียงแป๊บเดียวเกือบจะคลานตกจากเตียงลงไปนอนเกยตื้นอยู่ที่พื้นห้องนอนหากว่าเตชัสคว้าร่างอ้วนกลมเอาไว้ไม่ทัน เตชัสถอนหายใจโล่งอกไม่ต่างจากคนข้างๆ “เจ้าวาฬยักษ์เกือบตกเตียงแล้วสิเรา ทำไมถึงได้ซนแบบนี้นะ” เขาบ่นด้วยความเป็นห่วง “ทั้งซนทั้งไวเหมือนที่ลียาบอกไว้เลย” คุณพ่อมือใหม่ก้มมองทารกที่ซบอกแกร่งเขาอยู่ รู้สึกปวดหัวแทนว่าที่พี่เลี้ยงของแก ก่อนจะแยกกับลียา ฝ่ายนั้นก็บอกอยู่เหมือนกันว่า ‘น้องปลาวาฬน่ารัก แต่ก็ซนและคลานไวมาก พี่เตต้องคอยระวังนะคะ’ เตชัสพูดด้วยความเป็นห่วงเกรงว่าแกจะตกลงมาเจ็บตัว แต่เสียงห้าวๆ กับหน้าตาที่ยังไม่คุ้นกันนัก ทำให้เจ้าหนูแหงนคอขึ้นมอง นัยน์ตาดำขลับจ้องเตชัสเขม็ง “ดุแล้วยังมาจ้องอีก ดื้อเงียบเหมือนนายฉัตรเลย” คนเป็นลุงและควบตำแหน่งคุณพ่อคนใหม่จ้องกลับแล้วตบก้นอวบๆ ด้วยความมันเขี้ยว ทว่าคนถูกตีก้นกลับเสียใจ คิดว่าถูกดุ จ้องเตชัสไปเบะปากไปราวกับเสียใจหนัก ก่อนจะแผดเสียงร้องไห้จ้าไม่ยอมหยุด “เดี๋ยวๆ เจ้าวาฬยักษ์ จะร้องไห้ทำไม ฉันไม่ได้ว่าอะไรเราเลย แค่เห็นเราอ้วนแต่คลานไวเหมือนลิง ฉันก็เลยเป็นห่วง กลัวจะตกเตียง” คราวนี้ทารกร่างใหญ่ที่ถูกว่าว่าอ้วนแต่ไวเหมือนลิงทั้งแผดเสียงร้องสลับกับพยายามบิดตัวจะหนีจากอ้อมกอดของเตชัสราวกับเขาเป็นคนใจยักษ์ แขนป้อมๆ ไขว่คว้าจะไปหาขวัญดาวให้ได้ เตชัสเป็นห่วง เขาอุ้มเด็กไม่ค่อยเป็น เกรงจะทำน้องปลาวาฬหลุดมือ “อย่าดิ้นสิเจ้าวาฬยักษ์ ตัวเราใหญ่ แรงก็เยอะ เดี๋ยวก็ตกหรอก อย่าร้องนะเจ้าอ้วน” มือหนาตบที่ก้นอวบเบาๆ อีกสามที แต่สำหรับทารกกลับรู้สึกเหมือนถูกตีก้นมากกว่าถูกปลอบ เจ้าปลาวาฬยักษ์แหงนคอมองหน้าพ่อคนใหม่ แล้วชักสีหน้าไม่พอใจใส่ พลางแผดเสียงร้องลั่นไม่หยุด ขวัญดาวส่ายหน้ากับท่าทางอุ้มเด็กเก้ๆ กังๆ แล้วยิ่งเจ้านายหนุ่มพูดปลอบน้องปลาวาฬมากเท่าไร ทารกยักษ์ก็ยิ่งร้องไห้จ้าไม่หยุด จนคนสวยทนดูไม่ไหวยื่นแขนไปขออุ้มน้องปลาวาฬเอง “ส่งน้องปลาวาฬให้ฉันเถอะค่ะ” ร่างอวบกลมดิ้นเร่าๆ จะไปหาขวัญดาวเช่นเดียวกัน จนเตชัสต้องส่งปลาวาฬให้หญิงสาวรับไปอุ้มแทน พอมาอยู่ในอ้อมกอดของขวัญดาว เสียงแผดจ้าเมื่อครู่ก็เบาลงเปลี่ยนเป็นสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร ขวัญดาวยกมือปาดน้ำตาที่แก้มพองๆ “โอ๋ๆ น้องปลาวาฬคนดี พี่ขิงอยู่ตรงนี้แล้ว อย่าร้องไห้นะคะ” ขวัญดาวอุ้มร่างจ้ำม่ำเดินไปอีกสองสามก้าวก่อนจะหมุนตัวทิ้งสะโพกลงที่ปลายเตียง แล้วจับทารกนั่งตัก ลูบแผ่นหลังเบาๆ ริมฝีปากขยับปลอบน้องปลาวาฬไปด้วย สายตาคู่หวานทอดมองหนุ่มน้อยด้วยความเอ็นดู มองแล้วสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นอ่อนโยน “ไม่มีใครว่าน้องปลาวาฬหรอกนะคะ เชื่อพี่ขิงสิ คุณเตแค่เป็นห่วงน้องปลาวาฬ กลัวว่าหนูคลานไวแล้วจะตกเตียง เลิกร้องนะคะคนดี” ดวงตาอ่อนโยนไล่สำรวจอาการเด็กน้อยไปด้วย เพียงครู่เดียวเสียงสะอึกสะอื้นก็ค่อยๆ หายไป ขวัญดาวมองเด็กน้อยรู้มากอย่างเอ็นดู เผลอไผลไปกับความน่ารัก น่าเอ็นดู ท่าทางฉลาดจนต้องก้มลงไปจุมพิตที่หน้าผากแล้วกอดเอาไว้แนบอก เจ้าปลาวาฬแก้มพองเลยออดอ้อนพี่ขิงคนสวยด้วยการเอาศีรษะกลมๆ มาซบหน้าอกขวัญดาวเอาไว้ แล้วแหงนคอมองหน้าพลางส่งยิ้มหวานให้ ส่งเสียงร้องเหมือนจะคุยด้วย “แอ้ แอ้” เตชัสไม่อยากเชื่อสายตา “จะรู้มากไปแล้ว ทีผู้หญิงอุ้มอารมณ์ดียิ้มร่า ทำไมฉันอุ้มถึงร้องไห้จ้าเลยเจ้าปลาวาฬ” คราวนี้พ่อหนูตัวกลมแหงนคอหันไปมองเตชัสแล้วเป็นจังหวะที่แกแลบลิ้นออกมาพอดี เพราะร้องไห้มาพักหนึ่งจนคอแห้งจึงเริ่มหิวน้ำ ทว่าคุณพ่อมือใหม่เห็นแกแลบลิ้นใส่เลยถึงกับผงะ “นี่เราแลบลิ้นใส่ฉันเหรอ แสบเกินไปแล้วนะเจ้าปลาวาฬ” “พอๆ ค่ะคุณเต เลิกๆ เดี๋ยวน้องปลาวาฬก็ร้องอีก คราวนี้ฉันไม่ช่วยโอ๋ให้แล้วนะคะ แกไม่ได้ตั้งใจจะแลบลิ้นให้คุณเตหรอกค่ะ แกคงหิวน้ำมากกว่า” ขวัญดาวอุ้มทารกเอาไว้ด้วยท่าทางชำนาญแล้วเดินไปหยิบน้ำต้มสุกที่บรรจุในขวดขนาด 240 ML แล้วยื่นให้แก หนุ่มน้อยรีบคว้าขวดน้ำเอาเข้าปากเองแล้วดูดอย่างหิวกระหาย เตชัสเดินมามองใกล้ๆ “ดูดเร็วแบบนี้ระวังสำลักนะเจ้าอ้วน” นิ้วแกร่งขยับไปจับขวดน้ำของแกดึงออกจากปาก คนดูดน้ำอย่างเอร็ดอร่อยเลยแหงนมองตาขวางแล้วจับขวดน้ำเอาไว้แน่น “หวงซะด้วย ฉันก็แค่กลัวเราสำลัก ค่อยๆ กิน” เตชัสคลายมือออกจากขวดน้ำ แล้วเอานิ้วไปกดที่แก้มพองๆ ของเจ้าปลาวาฬให้ความรู้สึกหยุ่นๆ ขวัญดาวมองเจ้านายสลับกับลูกเจ้านายแล้วส่ายหน้าช้าๆ “คุณเตชอบแหย่เด็ก” เตชัสตอบรับพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ขณะดวงตาคมจับจ้องที่ใบหน้าขวัญดาว “เด็กบางคนมันน่าแหย่ น่าจิ้ม เห็นแล้วอดจะจิ้มแทบไม่ได้” เขาอาจจะพูดถึงน้องปลาวาฬ แต่ขวัญดาวกลับอดหน้าแดงไม่ได้ ขวัญดาวจ้องมองน้องปลาวาฬอยู่ครู่หนึ่ง แกก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนคนอุ้มใจอ่อนยวบ เมื่อคิดว่าเจ้านายหนุ่มผู้เป็นคุณพ่อมือใหม่สดๆ ซิงๆ คงจะรับมือเจ้าปลาวาฬแสนซนยาก คืนนี้เธออาจต้องยอมเป็นพี่เลี้ยงชั่วคราวให้พ่อหนูปลาวาฬแก้มพอง เตชัสมองร่างจ้ำม่ำในอ้อมกอดขวัญดาวแล้วร่างสูงก็หย่อนกายนั่งลงเคียงข้าง ดวงตาคมเข้มฉายแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมา “ปลาวาฬครับ ถ้าปลาวาฬอยากให้พี่ขิงดูแล ก็อ้อนพี่ขิงเขาสิครับ” เหมือนทารกในอ้อมกอดของเธอจะรู้มากจริงๆ เด็กชายแต้มบุญแหงนมองขวัญดาวแล้วส่งยิ้มเผล่ให้อย่างน่าเอ็นดู “แอ้ แอ้” ราวจะเป็นคำขอร้องให้อยู่ดูแล ขวัญดาวมองหน้าหนุ่มน้อยแล้วใจอ่อนระทวย จึงตัดสินใจจะบอกเตชัสว่าเธอจะอยู่ช่วยคืนนี้ก็ได้ แต่เขาต้องรีบหาพี่เลี้ยงให้น้องปลาวาฬเร็วที่สุด เพราะหน้าที่หลักของเธอคือผู้ช่วยเลขานุการ คุณเอมอรนั้นงานยุ่งมาก หากไม่มีเธอช่วยเรื่องเอกสารคงวุ่นวายน่าดู อีกอย่างการมาอยู่ที่นี่กับเขาหากใครในบริษัทรู้เข้าเธอจะถูกครหา จากที่ถูกพวกช่างเมาท์เรียกว่าเด็กเส้นท่านประธาน อาจกลายเป็นเมียลับท่านประธานก็ได้ ทว่าพอขวัญดาวหันไปจะพูดก็เจอใบหน้าหล่อคมของเตชัสที่ก้มหน้าเข้ามาใกล้เพื่อจะเล่นกับหลานบนตักเธอ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าว ทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นระรัวไปหมด ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับแขนเจ้าตัวกลมที่เริ่มกระทุ้งเท้า ยกมือขึ้นวุ่นวายแล้วเริ่มออกอาการแปลกๆ แกพยายามยัดกำปั้นกลมๆ เข้าไปในปาก ดูดๆ เลียๆ พลางเหลือกตามองหาอะไรบางอย่าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม