13

1453 คำ
ขวัญดาวลุกขึ้นมานั่ง สองมือกำคอเสื้อไว้แน่น ดวงตาคู่สวยมองท่านประธานหนุ่มด้วยสีหน้าไม่ไว้วางใจ เตชัสถอนหายใจ “คือ ผมกำลังจะไปทำงาน แต่แวะมาเล่นกับเจ้าปลาวาฬก่อน แต่เจ้านั่นดันกลิ้งไปนอนซบอกคุณ แล้วก็เอามือล้วงเข้าไปในคอเสื้อคุณด้วย ผมเห็นเข้าเลยตั้งใจจะจับมือแกออก แต่คุณก็ตื่นขึ้นมาก่อน” ขวัญดาวมองต่ำลงมาข้างกาย เห็นผู้ต้องหาตัวน้อยนอนหลับสบาย ทว่าจากการใกล้ชิดกับเด็กมาหลายปีระหว่างที่ทำงานในเนอร์สเซอรีของบ้านอาจารย์วรรณวิภา สิ่งที่เจ้านายหนุ่มพูดมาก็มักจะเป็นกิริยาปกติของเด็กวัยนี้ “ขอบคุณค่ะ เด็กเล็กจะชอบหยิบ ชอบจับ โดยเฉพาะเวลาที่อุ้มป้อนนม” ตอนเธอป้อนนมทารกที่ผู้ปกครองนำมาฝากให้ดูแล ก็ถูกลูบ ถูกจับอยู่เสมอ แต่ขวัญดาวไม่ได้ถือสาหาความเอากับเด็ก พอเห็นรอยยิ้มของขวัญดาว เตชัสก็หายใจโล่งอก “ผมคิดว่าคุณจะเข้าใจผิด ไม่เชื่อผมซะแล้ว” เขายิ้มบาง ๆ อย่างอารมณ์ดีพลางสอดมือลงไปในกระเป๋ากางเกง “ก็คุณเตไม่เคยมีพฤติกรรมเข้าข่ายว่าจะเป็นเจ้านายบ้ากาม โรคจิต มือไว จ้องจะกินไก่วัดสักนิดนี่คะ” ใบหน้าหล่อเหลาที่ประดับรอยยิ้มอบอุ่นพลันขรึมไปทันที ที่จริงเขาเคยเป็นทั้งหมด ยกเว้นเจ้านายแสนดีแบบที่กำลังทำกับขวัญดาวอยู่ตอนนี้ ก่อนที่ขวัญดาวจะเริ่มงาน เตชัสสั่งให้พนักงานในออฟฟิศฝ่ายบริหารปิดปากให้สนิท เรื่องที่เมื่อก่อนมีสาวๆ มาเข้าคิวหาเขาทุกวัน แล้วได้ยินเสียงซี้ดซ้าดดังมาจากในห้องทำงาน ใครพูดมาก เขาจะไล่ออกให้หมด แต่นั่นมันอดีต เดี๋ยวนี้เขาไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนั้นสักนิด พอดีเจ้าตัวแสบตื่นขึ้นมาแล้วชูคอมองหาอะไรบางอย่าง พอสบตากับเตชัสเข้า เจ้าปลาวาฬยักษ์ก็ทักทายด้วยคำว่า “หม่ำ หม่ำ” “หือ เจ้าวาฬยักษ์ เรานี่จริงๆ เลยนะ ลืมตาขึ้นมาได้ก็ร้องจะกินอย่างเดียว” เตชัสส่ายหัวเบาๆ แล้วคว้าตัวอ้วนกลมขึ้นมาอุ้มเอาไว้ “ผมลากิจให้คุณแล้วนะครับ แล้วก็ทำอาหารให้คุณกับเจ้าวาฬยักษ์ด้วย เป็นซุปอะโวคาโด ไปดูกันว่าพอกินได้ไหม” ปกติชายหนุ่มจะตื่นเจ็ดโมงเช้า แล้วออกไปวิ่งออกกำลังกายเรียกเหงื่อ แต่วันนี้เขาตื่นมาตั้งแต่ตอนตีห้าเพื่อค้นหาในยูทูบว่ามีอาหารอะไรง่ายๆ ที่สามารถทำให้เจ้าวาฬยักษ์กับผู้หญิงที่กำลังมีรอบเดือนแต่ต้องอดหลับอดนอน ดูแลเด็กแสบตลอดทั้งคืนกินได้บ้าง จนไปเจอวิธีการทำซุปอะโวคาโด ที่ทารกกินได้ ผู้ใหญ่กินดี มีประโยชน์ “ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณเตทำอาหารเป็น” ท่านประธานหนุ่มส่ายหน้าพรืด ที่จริงเขาถนัดกินมากกว่าถนัดทำ “นี่เป็นการทำอาหารครั้งที่สองของผม ส่วนครั้งแรก ตอนคุณแม่ส่งผมไปเรียนที่เมืองนอก สัปดาห์แรกๆ ภาษาผมยังไม่เข้าที่ แล้วก็เขินจนไม่กล้าเอ่ยปากคุยกับชาวต่างชาติ เลยทำอาหารกินเองจนท้องเสียต้องไปนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวัน หลังจากนั้นก็ไม่เคยทำอาหารอีกเลย” เตชัสคิดว่าตัวเองตาไม่ฝาดเมื่อเห็นเจ้าวาฬยักษ์มันเงยคอมองหน้าเขา ทำตาพองๆ ใส่ แล้วส่งเสียงร้อง “แอ้ แอ้” ราวกับจะถามว่า ‘มันจะกินได้หรือเปล่า’ เตชัสมองหน้าเจ้าวาฬยักษ์แก้มยุ้ยที่เอียงคอมองเขา มือหนาขยับไปข้างหน้าจะจับแก้มพองๆ นั่น “อะไรเจ้าวาฬยักษ์ มองหน้าเหมือนมีปัญหากับผมเลย อาหารที่ผมทำให้ต้องกินได้สิ มันต้องกินได้อยู่แล้ว เพราะอาหารเช้านี้ ผมตั้งใจทำมาก ทำตามคลิปเป๊ะ ไม่มีพลาด” พอเขาพูดจบ เจ้าทารกตัวกลมจอมรู้มากก็หันหน้าไปมองพี่เลี้ยงสาวราวกับว่าจะขอความเห็นว่าอาหารเช้ามื้อนี้กินได้จริงๆ นะ ขวัญดาวอมยิ้ม แล้วยังอุตส่าห์พูดรักษาน้ำใจคนที่ตื่นมาทำอาหารเช้าให้ “ซุปอะโวคาโดอาจจะอร่อยมากก็ได้นะคะ น้องปลาวาฬ” เจ้าหนูย่นคิ้วพลางมองหน้าขวัญดาวแบบฉงนราวกับอยากถามต่อว่าชัวร์เปล่า ขวัญดาวเห็นสีหน้าทารกจ้ำม่ำแทบจะหลุดขำออกมา “เดี๋ยวพี่ขิงไปชิมเป็นเพื่อน แต่ตอนนี้ไปล้างหน้า อาบน้ำกันก่อนนะครับคนเก่ง” เพราะเกรงว่าคนอุตส่าห์ตื่นมาเตรียมอาหารไว้ให้จะน้อยใจ รีบพาน้องปลาวาฬลงจากเตียงพาไปล้างหน้าอาบน้ำ ระหว่างที่เธอดูแลความสะอาดให้น้องปลาวาฬ อาบน้ำ เช็ดหน้าเช็ดตาจนสดใสเกลี้ยงเกลา เจ้าตัวแสบก็ยื่นมือป้อมๆ คอยแย่งกระป๋องแป้งอยู่ตลอดเวลา ทำให้ปริมาณแป้งหกออกมามาก ขวัญดาวเสียดายจึงทาตามเนื้อตามตัวให้แก แล้วหาชุดหล่อๆ มาสวมใส่ให้ “เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ” ขวัญดาวก้มมองเด็กชายที่ถูกทาแป้งจนขาวโพลนอยู่ในชุดหล่อแล้วรู้สึกผิดขึ้นมาในใจ “พี่ขิงว่า พี่ขิงทาแป้งให้น้องปลาวาฬเยอะไปหน่อยนะคะ” พอดีเตชัสเดินกลับมาดูว่ามีอะไรที่เขาพอจะช่วยเธอได้บ้าง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย มองขวัญดาวสลับกับเจ้าวาฬยักษ์ สีหน้าเรียบขรึมเปลี่ยนเป็นหลุดขำพรืดออกมา เขาเลิกคิ้วถาม “ขิงจะทำปลาวาฬทอดกรอบเป็นอาหารเช้าเหรอไงครับ” ขวัญดาวก้มมองเด็กน้อยที่เงยหน้าขึ้นมาพอดีแล้วยิ้มเจื่อนๆ ให้แก ก่อนจะหันกลับไปตอบคำถามเจ้านายหนุ่ม“โธ่ คุณเตก็ว่าไป” ขวัญดาวหันกลับมามองทารกตัวกลมที่อุ้มอยู่แล้วห่อปากตาโตถอนหายใจ ตอนทาแป้งให้น้องปลาวาฬก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ตอนนี้ภาพที่เห็นน้องปลาวาฬขาวโพลนไปทั้งตัวเหมือนไปคลุกแป้งทอดกรอบพร้อมลงกระทะ เธอไม่น่าเสียดายแป้งที่หกออกมาเลย ขวัญดาวหน้าเสีย รีบเอามือถูแป้งออกจากน้องปลาวาฬ หันกลับไปยิ้มเจื่อนๆ มองเจ้านายหนุ่มอย่างรู้สึกผิด แต่ยังพูดติดตลก “พรุ่งนี้หวยออกค่ะคุณเต ฉันว่าจะขอเลขเด็ดกับน้องปลาวาฬนี่แหละ” ลดสายตาลงมองทารกน่ารักที่อุ้มอยู่แล้วโปรยยิ้มหวาน “ให้พี่ขิงสักสองตัวก็ยังดีนะ นะ น้องปลาวาฬ” เจ้าวาฬยักษ์เหมือนจะรู้ความว่ากำลังถูกแซวแรง คนหนึ่งก็ว่าเป็นปลาวาฬทอดกรอบ อีกคนก็จะขอหวย จึงได้เหลือบมองทั้งลุงและพี่เลี้ยงสาวสวยไปมา จากนั้นริมฝีปากบางของทารกตัวกลมก็เริ่มเหยียดเป็นเส้นตรง ขอบตาแดงก่ำ เบะปากร้องไห้สะอึกสะอื้น ขวัญดาวตกใจรีบปลอบประโลม ไม่คิดว่าแกจะรู้ภาษามากขนาดนี้ “โอ๋ๆ ขอโทษนะคะน้องปลาวาฬคนดี พี่ขิงแหย่เล่นหน่อยเดียวเอง ไม่ร้องนะคะลูกไม่ร้อง เด็กดีของพี่ขิง” มือบางลูบเนื้อลูกตัวปลอบประโลมเจ้าตัวกลมขี้น้อยใจไปด้วย ปากก็รีบเอ่ยขอโทษ “ใครจะขูดเลขจากน้องปลาวาฬลงล่ะคะ” เตชัสกอดอกมองนึกขำทั้งหลานทั้งพี่เลี้ยง ทว่าเห็นช่องทางเข้าพอดี เตชัสจึงเปลี่ยนท่าทีเป็นขมวดคิ้วเข้ม “ก็คุณไง ว่าแกจนร้องไห้ บอกจะขูดหวยบนตัวแก” ขวัญดาวเอียงคอถามหน้าตาใสซื่อ “ฉันแค่หยอกเองค่ะ แต่คุณเตไปล้อแกก่อนว่าเป็นปลาวาฬทอด แกอาจจะร้องไห้เพราะคุณเตก็ได้” แล้วหันมาปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มพองๆ “จริงไหมคะน้องปลาวาฬ” ริมฝีปากหยักหยันขึ้น “เถียงเก่ง แถเก่ง คุณนี่ท่าจะบ้าหวยมาก ผมเห็นนะ เมื่ออาทิตย์ก่อนตอนใกล้เที่ยง คุณแอบซื้อน้ำแดงไปวางไว้ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่หลังโรงงาน แล้วเอาโทรศัพท์เดินถ่ายไปรอบๆ ต้นโพธิ์” ขวัญดาวผงะ ใจแป้ว ไม่คิดว่าเจ้านายจะเห็น เรื่องนี้เธอผิดจริงเลยตอบอ้อมแอ้มกลับไป “ก็คนที่บริษัทเขาถูกกันไปแล้วหลายคน ฉันก็เลยไปมองๆ เผื่อจะโชคดีบ้างเท่านั้น”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม