“อยากเป็นคนของโลมา”
ผมเงยหน้ามองใบหน้าแดงๆ ของโลมา ใช้มือข้างหนึ่งลูบหัวน้องเบาๆ
“ได้ไหมครับ” ถามลองเชิงคนตัวเล็กตรงหน้าเผื่อได้คำตอบที่ต้องการ
“คือโลมา….”
พรึบ!
“หึ ล้อเล่นน่ะ” ผละตัวออกจากคนตัวเล็กใช้นิ้วชี้เคาะหัวโลมาเบาๆ
“โลมาตกใจหมด เล่นอะไรก็ไม่รู้” คนตัวเล็กถอนลมหายใจออกมาอย่างโหล่งอกมองผมแบบดุๆ
ยัยแมวน้อย
“นี่พี่ทำให้แมวตื่นเหรอ หืมมม” ผมดึงจมูกน้องเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว
“อืออออ ซี มันเจ็บน่าาา > “ยังจะยิ้มอีก ไม่คุยด้วยแล้ว ดูของต่อดีกว่า” ผมมองโลมาเลือกของอย่าตั้งใจทำเป็นไม่สนใจผม ถามว่าทำไมผมถึงไม่รอคำตอบจากโลมา ทำไมถึงบอกว่าล้อเล่น
ที่จริงผมไม่ได้ล้อเล่นหรอกครับ ผมพูดจริง แต่เพราะเห็นสีหน้าและสายตาที่ดูสับสนของน้องแล้ว บอกเลยว่าผมกลัวคำตอบของน้อง กลัวน้องจะปฏิเสธผม น้องพึ่งรู้จักผมแค่ 2 วัน แต่สำหรับผมรู้จักน้องมา 3 ปี ใช่ครับ ผมเคยเจอโลมามาก่อน ผมชอบน้องตั้งแต่แรกเห็น แต่ตอนนั้นน้องยังเด็กเกินไปสำหรับผม ผมเลยทำได้แค่เฝ้ามองน้องมาตลอดไม่เคยที่จะแสดงตัวตนออกมาให้น้องเห็น
จนมาถึงตอนนี้ผมว่าผมปล่อยน้องไม่ได้แล้วครับ พอเห็นน้องคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ได้ยินโลมาบอกว่าคิดถึงมัน! ผมโคตรหงุดหงิดเลย แต่ผมไม่มีสิทธิ์ เลยได้แต่เก็บอารมณ์ที่เเทบจะระเบิดออกมาเพื่อไม่ให้น้องตกใจ นั้นเลยทำให้ผมรอไม่ได้แล้ว โลมาโตพอที่จะมีผมอยู่ในนั้นและต้องเป็นผมคนเดียวเท่านั้นที่จะอยู่ข้างกายน้อง
แต่ผมรุกหนักไม่ได้เดี๋ยวแมวตื่นกลัวแล้วหนีไป รอให้โลมามั่นใจในตัวผมอีกหน่อยดีกว่า ผมจะบอกความรู้สึกที่เก็บมามากมายให้น้องรู้ แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวผมด้วย ว่าผมจะอดทนได้นานแค่ไหน
อย่างเช่นตอนนี้ แค่เห็นไอตัวผู้มองโลมาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นผมก็แทบจะกระโดดไปกระทืบยำมันให้เละแล้ว สัตว์!!! กูอยากจะขวักลูกตามันมายำตีนเล่นฉิบหาย
“เลือกเสร็จยัง” เดินเข้าไปใกล้โลมาโอบไหล่น้องไว้
“!! ส...เสร็จแล้วค่ะ” นี่ขนาดผมแค่โอบไหล่โลมายังสะดุ้งตกใจขนาดนี้ หึ สงสัยต้องทำให้ชินแล้วสินะ
“ไปเถอะ” ผมแย่งของจากมือโลมาแล้วลากน้องเดินไปจ่ายตัง เฮ้อ~กว่าจะออกจากร้านมาได้ผมแทบจะไปยำตีนไอผีญี่ปุ่นนั้นแล้ว ไอเชี่ยมองน้องอยู่ได้
“ซี เราไปดูปราสาทซินเดอเรลล่ากันเถอะ” ร่างบางที่ยิ้มออกมาอย่างดีใจจับมือผมเดินไปยังปราสาทล่าๆ อะไรก็ไม่รู้
“ว้าววว สวย ซีถ่ายรูปให้หน่อย”
“อืม” ว่าจบคนตัวเล็กก็ยิ้มออกมาอย่างร่าเริงสดใสจนอดยิ้มตามไม่ได้
แชะ แชะ~ น่ารักชะมัด
20.00 น.
หลังจากที่โลมาเดินเที่ยวโดยไม่เหนื่อยทั้งวันแล้ว ใช่ครับคนตัวเล็กสนุกอยู่คนเดียวทั้งวันเลยครับ เข้านู้นออกนี่จนพอใจแล้ว ตอนนี้เราก็ได้มาดูนั่งขบวนพาเหรดตอนกลางคืนอยู่ครับ
“นั้น ทอยสตอรี่มาแล้ว สวยอ่ะ” และอีกมากมายที่ดูจะตื่นตาตื่นใจน้องเอามากๆ เลยละครับ นี่ถ้าไม่จับมือไว้คงจะกระโดดไปเกาะล้อขบวนพาเหรดเขาเป็นแน่ (-__-)
“โลมา” ผมยกกล้องขึ้นหันไปทางน้อง
“คะ?”
แชะ~
น้องที่หันมายิ้มให้กล้องแล้วหันสนใจขบวนพาเหรดต่อ
“สวย”
ผมเผลอพูดออกมาเมื่อจ้องมองใบหน้าเนียนใสราวกับเด็ก แววตาระยิบระยับที่มองขบวนพาเหรดมันทำให้ละสายตาจากโลมาไม่ได้ ไหนจะรอยยิ้มมีความสุขนั้นอีก
“อืม สวย” น้องตอบผมพร้อมกับลูบแขนตัวเองไปมา สงสัยจะหนาว ไม่หนาวก็แปลกใส่เสื้อกล้าม มาขนาดนั้น
“หืม~ขอบคุณค่ะ” ผมหยิบหมวกที่โลมาซื้อมา ใส่ให้น้อง และถอดเสื้อแขนยาวคลุมไหล่น้องไว้
“ซีไม่หนาวเหรอ”
“ไม่ครับ” ผมสายหน้าบอกคนตัวเล็กที่ยิ้มตอบผมแล้วหันไปสนใจขบวนพาเหรดต่อ
พรึบ~
“ซ...ซีทำอะไรเนี่ย” คนตัวเล็กสะดุ้งตกใจนั่งหลังตรง เมื่อผมเอนหัวพึงไหล่โลมาสูดดมกลิ่นแป้งเด็กของน้อง
“ขอพักสายตาหน่อย”
“…ตะ แต่”
“ได้ไหมครับ” ผมเงยหน้ามองโลมาด้วยสายตาอ้อนวอน
“ก..ก็ได้” ผมเอนหัวพึงไหลโลมาอีกครั้งพร้อมกับกระชับมือที่กุมไว้วางตรงตัก
“โลมาให้พิงแค่แปปเดียวนะ”
“แค่นี้ก็พอแล้ว”
จึก จึก
“ซี ตื่นได้แล้ว” โลมาใช้นิ้วชี้จิ้มตรงไหลผมเรียกให้ผมตื่น
“ขบวนเสร็จแล้ว?” ผมผละจากไหลน้อง เลิกคิ้วเชิงถามคนตัวเล็กตรงหน้า
“อืม เสร็จแล้ว”
“ป่ะ” โลมาลุกขึ้นยืนพร้อมกับยืนมือมารอผม หึ เป็นเด็กที่รักษาสัญญาดีนี่ ผมเอื้อมมือจับมือโลมาแล้วลุกขึ้นตามร่างบาง
“ไปดูการแสดงไฟ Celebration Street กันต่อค่ะ”
“ห๊ะ” what!! ยังไม่จบอีกเหรอวะ
“เนี่ยยังมีอีกเยอะเลยนะ ไหนจะม้าหมุน ปราสาทตอนกลางคืนก็สวยมากๆ เลย… บลาๆ” และน้องก็ไปอย่างที่พูดจริงๆ ครับ จนตอนนี้ 4 ทุ่มสวนสนุกปิด ผมถึงลากโลมาออกมาได้
“สนุกมากๆ เลยอ่ะ ตอนกลางคืนคือสวยมาก”น้องที่นั่งอยู่บนรถหันมายิ้มให้ผม จนผมอดยิ้มตามไม่ได้
“ดีแล้ว” ผมยกมือขึ้นลูบหัวโลมาอย่างเอ็นดู แล้วหันมาขับรถต่อ
“โลมาอยากกินอะไรอีกไหม พี่จะได้แวะซื้อให้ก่อนเข้าโรงแรม”
“....” เงียบ~
“โลม….” ผมหันมองคนนั่งข้างๆ
“ZzzzzZzzzz” หลับ
(-_-) ยัยเด็กน้อย ผมจอดรถข้างทางเอื้อมมือไปหยิบเสื้อกันหนาวของตัวเองด้านหลังมาห่มให้โลมา แล้วหันไปขับรถต่อ โรงแรม SS
“โลมา”
“zZz”
“ยัยเด็กขี้เซา”
“Zzzzz”
“โลมาตื่นได้แล้ว”
“อืมมมม โลมาตื่นแล้ว” (-_-) ครับตื่นแล้วจริงๆ แต่ตายังปิดอยู่และไม่มีท่าทีว่าจะลืมตาขึ้นเลยหลังจากที่ละเมอพูดออกไปแบบนั้น
“ยัยเด็กขี้เซา”
ผมลงจากรถแล้วเรียกพนักงานมาช่วยยกของขึ้นไปไว้บนห้องผมก่อน ส่วนผมอุ้มคนตัวเล็กขึ้นไปบนห้องน้อง ตอนแรกกะจะให้นอนห้องผมแต่กลัวโลมาตื่นขึ้นมาจะตกใจจนหนีหน้าผมเอา เลยค้นหาคีย์การ์ดในกระเป๋าน้องแล้วพาไปห้องน้องดีกว่า
ผมอุ้มโลมาเข้าไปให้ห้องเดินตรงไปที่ห้องนอนทันที วางคนตัวเล็กลงที่นอนเบาๆ พร้อมหยิบผ้าห่มให้โลมา
“อือออ” ร่างบางร้องละเมอ ซุกหน้าลงหมอน
“ฝันดีครับ” ผมโน้มใบหน้ากระซิบข้างหูบอกโลมาพร้อมขยับริมฝีปากจรดลงหน้าผากมนต์ นิ่งค้างอยู่สักพักแล้วผละออก ยกมือขึ้นลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ เขียนโน้ตแปะโทรศัพท์ไว้ข้างเตียงแล้วเดินออกจากห้องร่างบางไป Zzzzz
08.30น.
กริ๊งงงงงงง กริ๊งงงงง~
“อือออ~” ร่างบางงัวเงียเล็กน้อย ลืมตาขยับกายลุกขึ้นนั่งมองหาโทรศัพท์ที่กำลังแผ่เสียงดังทั่วห้อง
“อะไรเนี่ย?” ฉันปรับสายตามองโน้ตที่แปะไว้บนโทรศัพท์
“ของโลมาอยู่ในห้องพี่นะ อย่าลืมข้อตกลงของเรา sea” ฉันวางโน้ตไว้อย่างไม่ใส่ใจ ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ
ซ่า ซ่า ///
เสียงน้ำที่กระทบลงพื้น ร่างกายบางที่โดนน้ำนั้นรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีหลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ฉันเดินเข้าไปหาน้ำกินในห้องครัว ทว่าในขณะที่กำลังกินน้ำอยู่เหมือนสมองกำลังจูนอะไรบางอย่างเข้ามา
‘แล้วของไปอยู่ให้ห้องซีได้ยังไง’
พรวด!!! แม่เจ้า
ฉันพ้นน้ำออกมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
“ฉ...ฉันมาอยู่ในห้องได้ไง” ล่าสุดฉันอยู่ในรถกับซีนี่
“หรือว่าฉันละเมอเดินขึ้นห้องมา” ฮืออออโลมาจำไม่ได้
“อ้อจริงสิ โน้ต” ฉันเดินเข้าไปในห้องหยิบโน้ตขึ้นมาดูอีกครั้ง
“ของโลมาอยู่ในห้องพี่นะ อย่าลืมข้อตกลงของเรา sea” ละ แล้วมันไปอยู่ในห้องซีได้ยังไง (-_-) คิดไม่ออกบอกไม่ถูก เฮ้อ~ในเมื่อฉันจำอะไรไม่ได้ ฉันก็ต้องหาคำตอบจากซีเท่านั้น
ตือตึง ตือตึง
เสียงฉันกดออดหน้าห้องของซี ร่างสูงตรงหน้าเลิกคิ้วเปิดประตูออกมามองหน้าฉัน
“โลมามาเอาของ”
“เข้ามาสิ” ฉันเดินเข้าไปในห้องยืนเอ๋อๆ อยู่กลางห้อง
“ของอยู่ตรงไหนคะ”
“กินข้าวยัง” นั้นคือคำตอบของโลมาใช่ไหม
“ยังค่ะ แล้วของโลมาอยู่ไหนคะ” ฉันมองซ้ายมองขวาเพื่อหาของ แต่ซีจับมือฉันแล้วลากฉันไปยังห้องครัวจับฉันนั่งลงเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าว
“รอตรงนี้ เดี๋ยวพี่ทำอะไรให้กิน” ว่าจบพี่แกเดินเข้าไปทำอาหารหน้าตาเฉย ช่วยบอกฉันทีว่าพี่แกฟังฉันอยู่หรือเปล่า ฉันเท้าคางมองซีที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการทำอาหาร หรือว่าฉันจะถามตอนนี้ดี นั่งเถียงกับตัวเองอยู่สักพักก็ตัดสินใจเดินไปนั่งตรงเคาน์เตอร์ห้องครัว เหมือนร่างสูงจะรู้สึกได้ว่าฉันนั่งมองอยู่ เลยเลิกคิ้วถาม
“คือ…คือว่า” แกจะอ้ำ ๆ อึ้งๆ ทำไม
“หืมมม” ซีจ้องมองฉัน
“คือ เมื่อคืนโลมาอยู่ในห้องตัวเองได้ยังไง?”